พบผลลัพธ์ทั้งหมด 75 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7597/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนที่ดินพิพาท โดยไม่ฟ้องเจ้าพนักงานที่ดิน ศาลมีอำนาจพิจารณาได้
จำเลยที่1จดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทให้จำเลยที่2อันเป็นการฉ้อฉลโจทก์ผู้ที่โต้แย้งสิทธิของโจทก์ก็คือจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นผู้ขอให้เจ้าพนักงานที่ดินกระทำการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมส่วนเจ้าพนักงานที่ดินกระทำการไปตามอำนาจหน้าที่นอกจากนี้การที่ป. ที่ดินมาตรา61และมาตรา71บัญญัติให้เจ้าพนักงานที่ดินมีหน้าที่ดำเนินการตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลดังนั้นโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่1กับจำเลยที่2ได้โดยมิต้องฟ้องเจ้าพนักงานที่ดินผู้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเข้ามาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลฎีกายกข้อผิดพลาดการวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์เรื่องการส่งมอบโฉนดและการบังคับเจ้าพนักงานที่ดิน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันส่งมอบโฉนดที่ดินให้แก่โจทก์และให้ร่วมกันชำระค่าเสียหายด้วยจำเลยทั้งสองอุทธรณ์เฉพาะเรื่องค่าเสียหายปัญหาเรื่องการส่งมอบโฉนดที่ดินจึงยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นการที่ศาลอุทธรณ์ยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัยและพิพากษายกฟ้องโจทก์ในส่วนนี้ด้วยจึงไม่ชอบและเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง โจทก์มิได้ฟ้องเจ้าพนักงานที่ดินเป็นจำเลยแม้จะมีคำขอให้เจ้าพนักงานที่ดินออกใบแทนโฉนดที่ดินให้แก่โจทก์เป็นการบังคับบุคคลภายนอกที่มิได้เป็นคู่ความในคดีศาลไม่อาจสั่งบังคับให้เจ้าพนักงานที่ดินกระทำการตามที่โจทก์ขอได้และเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3803/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพาทกรรมสิทธิ์ที่ดินสาธารณประโยชน์ การออกโฉนด และอำนาจหน้าที่เจ้าพนักงานที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน
ประมวลกฎหมายที่ดินฯมาตรา60ที่บัญญัติว่าเมื่อเจ้าพนักงานที่ดินสั่งประการใดแล้วให้ฝ่ายที่ไม่พอใจไปดำเนินการฟ้องต่อศาลภายในกำหนดหกสิบวันนับแต่วันทราบคำสั่งนั้นหมายถึงให้คู่กรณีฟ้องขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาว่าฝ่ายใดมีกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทดีกว่ากันเมื่อจำเลยในฐานะเจ้าพนักงานที่ดินได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของประมวลกฎหมายที่ดินฯโดยรวบรวมพยานหลักฐานทั้งของฝ่ายโจทก์และฝ่ายผู้คัดค้านเปรียบเทียบกันแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานของฝ่ายผู้คัดค้านมีเหตุผลดีกว่าจึงมีคำสั่งให้งดออกโฉนดที่ดินให้โจทก์โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว แม้จำเลยเป็นฝ่ายชนะคดีเพราะโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแต่การที่ศาลอุทธรณ์ภาค2วินิจฉัยว่าที่พิพาทมิได้เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้เลี้ยงสัตว์ร่วมกันแต่เป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่าอาจเป็นที่เสียหายแก่จำเลยจำเลยย่อมมีสิทธิฎีกาโต้แย้งได้ สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเกิดขึ้นและเป็นอยู่ตามสภาพของที่ดินและการใช้ร่วมกันของประชาชนโดยไม่ต้องมีเอกสารของทางราชการกำหนดให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ที่พิพาทเป็นที่ที่ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ก่อนที่ ล. และ ค. จะเข้าครอบครองจึงเป็นสาธารณประโยชน์ของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันโจทก์จะอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์เพราะ ค. ผู้ขายให้โจทก์ครอบครองที่พิพาทมานานแล้วหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 373/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเลยเวนคืนแจ้งเจ้าของ-เจ้าพนักงานที่ดิน ทำให้เสียหายจากการเวนคืน ชดใช้ค่าเสียหายเฉพาะส่วนที่เหลือ
พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์พ.ศ.2497มาตรา9บัญญัติไว้โดยเด็ดขาดว่านอกจากจะต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้เจ้าหน้าที่มอบสำเนาอันแท้จริงแห่งพระราชกฤษฎีกาและพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในมาตรา6และมาตรา8พร้อมทั้งแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาและพระราชบัญญัตินั้นๆไว้ณสถานที่ที่ทำการเจ้าหน้าที่ที่ทำการผู้ว่าราชการจังหวัดและที่ว่าการอำเภอหรือหอทะเบียนที่ดินในตำบลซึ่งทรัพย์สินที่ต้องเวนคืนนั้นตั้งอยู่เมื่อจำเลยที่1ในฐานะเจ้าหน้าที่มิได้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวจึงเป็นการละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเป็นผลโดยตรงก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ที่ไม่ทราบว่าที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารพิพาทที่โจทก์ซื้อมาจากบริษัท ธ. ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างอาคารจะต้องถูกเวนคืนทำให้อาคารพิพาทที่โจทก์ซื้อต้องถูกรื้อย่อมเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ส่วนจำเลยที่2ซึ่งเป็นผู้แทนของจำเลยที่1แม้มิได้แจ้งให้บริษัท ธ. ทราบเรื่องดังกล่าวขณะขออนุญาตปลูกสร้างอาคารก็หาได้มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ไม่ถือไม่ได้ว่าความเสียหายของโจทก์เป็นผลโดยตรงจากการทำละเมิดของจำเลยที่2จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่2ทำละเมิดต่อโจทก์ แม้โจทก์จะได้ทราบถึงการแจ้งการครอบครองและให้รื้อถอนอาคารพิพาทตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์2526แต่ในขณะนั้นอาคารพิพาทยังไม่ถูกเข้าครอบครองและรื้อถอนมูลละเมิดจึงยังไม่เกิดเมื่อจำเลยที่1ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าครอบครองและรื้อถอนอาคารพิพาทเมื่อวันที่14ตุลาคม2529ถือว่ามูลละเมิดเกิดขึ้นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปโจทก์ฟ้องคดีวันที่1มิถุนายน2530ยังไม่เกิน1ปีคดีจึงยังไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2681/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานที่ดิน กรณีการรังวัดและกำหนดเขตที่ดินที่ยังเป็นข้อพิพาท โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า ค. เจ้าของที่ดินข้างเคียงบุกรุกเข้าไปในที่ดินของโจทก์ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด สั่งให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นช่างรังวัดไปตรวจสอบหลักเขตพบว่า หลักเขตด้านทิศใต้ล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์จำเลยที่ 2 ทำบันทึกให้เจ้าของที่ดินข้างเคียงลงชื่อรับรองหลักเขตดังกล่าวว่าถูกต้องโจทก์ถูกบังคับให้ลงชื่อรับรองด้วย ขอให้จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้บังคับบัญชาสั่งให้จำเลยที่ 2 ออกไปถอนหลักเขตที่รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ไปฝังในที่เดิม นั้นตามคำฟ้องโจทก์ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 55 แต่อย่างใด ทั้งไม่มีบทกฎหมายใดกำหนดหน้าที่ให้จำเลยทั้งสองที่จะต้องกระทำดังที่โจทก์อ้าง ในเมื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินข้างเคียงยังโต้เถียงกรรมสิทธิ์กันอยู่ว่าแนวเขตที่ดินข้างเคียงอยู่ที่ใด โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2681/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานที่ดินไม่มีหน้าที่สั่งรังวัดแก้ไขแนวเขตที่ดินเมื่อเจ้าของที่ดินโต้แย้งสิทธิกันเอง
ข้อเท็จจริงตามคำฟ้องปรากฏว่าโจทก์กับเจ้าของที่ดินข้างเคียงยังคงโต้เถียงกันว่าแนวเขตที่ดินอยู่ตรงไหนและต่อมาจำเลยที่1เจ้าพนักงานที่ดินให้จำเลยที่2ช่างรังวัดที่ดินออกมาตรวจที่ดินได้พบหลักเขตล้ำเข้ามาในที่ดินโจทก์เท่านั้นเจ้าพนักงานที่ดินจึงไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องสั่งนายช่างรังวัดให้ถอนหลักเขตที่ล้ำเข้ามาในที่ดินโจทก์แล้วนำไปฝังใหม่ตามที่โจทก์ฟ้องการกระทำดังกล่าวไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2681/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานที่ดินและช่างรังวัด กรณีหลักเขตที่ดินรุกล้ำ แต่ยังมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ระหว่างเจ้าของที่ดินข้างเคียง
โจทก์ฟ้องว่า ค. เจ้าของที่ดินข้างเคียงบุกรุกเข้าไปในที่ดินของโจทก์จำเลยที่1ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสั่งให้จำเลยที่2ซึ่งเป็นช่างรังวัดไปตรวจสอบหลักเขตพบว่าหลักเขตด้านทิศใต้ล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์จำเลยที่2ทำบันทึกให้เจ้าของที่ดินข้างเคียงลงชื่อรับรองหลักเขตดังกล่าวว่าถูกต้องโจทก์ถูกบังคับให้ลงชื่อรับรองด้วยขอให้จำเลยที่1ในฐานะผู้บังคับบัญชาสั่งให้จำเลยที่2ออกไปถอนหลักเขตที่รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ไปฝังในที่เดิมนั้นตามคำฟ้องโจทก์ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา55แต่อย่างใดทั้งไม่มีบทกฎหมายใดกำหนดหน้าที่ให้จำเลยทั้งสองที่จะต้องกระทำดังที่โจทก์อ้างในเมื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินข้างเคียงยังโต้เถียงกรรมสิทธิ์กันอยู่ว่าแนวเขตที่ดินข้างเคียงอยู่ที่ใดโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2312/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีที่ดิน: การโต้แย้งสิทธิโดยไม่ฟ้องเจ้าพนักงานที่ดิน
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์และโจทก์ครอบครองตลอดมา โจทก์ยื่นคำร้องขอออกโฉนดที่ดิน จำเลยทั้งสองโต้แย้งคัดค้านว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณประโยชน์เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานที่ดินไม่ยอมออกโฉนดที่ดินพิพาทให้ ย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องโดยหาจำต้องปฏิบัติตาม ป.ที่ดิน มาตรา 60 ไม่ เพราะโจทก์มิได้ฟ้องจำเลยทั้งสองในฐานะเจ้าพนักงานผู้ออกโฉนดที่ดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละมรดกต้องทำต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย การสละต่อเจ้าพนักงานที่ดินไม่สมบูรณ์
การสละมรดกจะต้องแสดงเจตนาชัดแจ้งเป็นหนังสือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือทำเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1612โดยกฎกระทรวงกับพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ.2495มาตรา40กำหนดอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจในกรณีแรกได้แก่ผู้อำนวยการเขตถ้าทำในกรุงเทพมหานครหรือนายอำเภอถ้าทำในต่างจังหวัดฉะนั้นการที่โจทก์กับ ศ. ทำหนังสือสละมรดกให้ไว้แก่เจ้าพนักงานที่ดินจึงมิใช่หนังสือสละมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1612
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7055/2537 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบหลักฐานเพิ่มเติมจากสัญญา นอกเหนือจากที่จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ไม่ขัดต่อ ป.วิ.พ. มาตรา 94
ป.วิ.พ. มาตรา 94 บัญญัติห้ามเฉพาะการนำพยานบุคคลเข้าสืบแทนพยานเอกสารหรือประกอบข้ออ้างว่ายังมีข้อความเพิ่มเติมหรือแก้ไขข้อความในเอกสารในเมื่อมีกฎหมายบังคับให้ต้องมีเอกสารมาแสดง การที่โจทก์นำสืบถึงข้อตกลงเกี่ยวกับราคาที่ดินตามหนังสือสัญญาที่ทำกันเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2537อีกส่วนหนึ่งนอกเหนือจากหนังสือสัญญาขายที่ดินที่จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินนั้นจึงไม่เป็นการต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าว