พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 511/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการเล่นพนัน แม้ผู้เล่นไม่รู้ว่าเป็นพนัน เจ้ามือก็มีความผิด
เล่นบอลแอนสกิตเติลเป็นทำนองโปกำ ถึงลูกลงจะไม่รู้ว่าเป็นการเล่นอย่างโปกำเจ้ามือก็ยังต้องมีผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6168/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกันเป็นเจ้ามือการพนัน: จำเลยมีส่วนร่วมตั้งแต่ก่อนถึงหลังออกรางวัล ถือเป็นตัวการ
พฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นการร่วมกับ จ. จำเลยที่ 3 และที่ 5 ในการดำเนินการให้การรับกินรับใช้ในฐานะเจ้ามือเป็นไปจนเสร็จสิ้นในการเล่นการพนันโดยการแบ่งหน้าที่กันทำ ซึ่งมีทั้งก่อนวันที่ออกรางวัลและหลังจากรางวัลออกแล้ว เมื่อตรวจทราบว่ามีการได้เสียกันเท่าไร หาได้เสร็จสิ้นเมื่อมีการออกรางวัลแล้วเท่านั้น จำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงเป็นตัวการในการกระทำความผิดด้วย มิใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12668/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่รอการลงโทษเจ้ามือการพนัน: ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจจากพยานหลักฐานและวงเงินพนันได้ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 วินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้ามือที่มีวงเงินในการเล่นการพนันเป็นจำนวนมาก เป็นการวินิจฉัยตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในบันทึกการฟ้องคดีอาญาด้วยวาจากับบัญชีของกลางคดีอาญาท้ายบันทึกการฟ้องดังกล่าวว่า เจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสิบสามคนพร้อมเงินสด 28,000 บาท และอุปกรณ์ในการเล่นการพนัน นอกจากนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 5 ด้วย เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ตามฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 8 จึงนำบทบัญญัติดังกล่าวมาวินิจฉัยลงโทษจำเลยที่ 1 ได้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 เป็นการให้เหตุผลถึงการใช้ดุลพินิจไม่รอการลงโทษจำเลยที่ 1 ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในบันทึกการฟ้องคดีอาญาด้วยวาจากับบัญชีของกลางคดีอาญาท้ายบันทึกการฟ้องและคำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 186 ประกอบมาตรา 215 พ.ร.บ.ให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.2520 และ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9695/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินคดีพนันกำถั่ว: การฟ้อง, กรรมเดียวความผิดหลายบท, โทษฐานเจ้ามือ
คำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำของจำเลยทั้งยี่สิบห้าโดยชัดเจนว่าจำเลยทั้งหมดบังอาจร่วมกันเล่นการพนันกำถั่ว อันเป็นการพนันประเภทห้ามขาดตามบัญชี ก. อันดับที่ 4 ท้าย พ.ร.บ.การพนันฯ และมิได้มี พ.ร.ฎ.อนุญาตให้จำเลยทั้งยี่สิบห้าเล่นได้ โดยจำเลยที่ 1 เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และร่วมเล่น ส่วนจำเลยที่ 2 ถึงที่ 25 เป็นผู้เข้าร่วมเล่นการพนัน ตามคำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว ฟ้องโจทก์จึงครบองค์ประกอบความผิด ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) แล้ว
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามฟ้องว่า จำเลยทั้งยี่สิบห้ากับพวกที่หลบหนีร่วมกันเล่นการพนันกำถั่ว อันเป็นการพนันตามบัญชี ก. อันดับที่ 4 ท้าย พ.ร.บ.การพนันฯ โดยจำเลยที่ 1 เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และร่วมเล่นด้วยแม้ พ.ร.บ.การพนันฯ มาตรา 12 (1) ได้กำหนดโทษผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นการพนันตามบัญชี ก. หมายเลข 4 ซึ่งแยกบทกำหนดโทษสำหรับผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันที่ไม่ได้เรียกว่าลูกค้าเป็นบทหนึ่ง และสำหรับผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันที่เรียกว่าลูกค้าเป็นอีกบทหนึ่งก็ตาม แต่จำเลยที่ 1 ก็มีเพียงเจตนาเดียวคือ เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นการพนันกำถั่ว ดังนั้นการที่จำเลยที่ 1 เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และเป็นผู้ร่วมเล่นการพนันกำถั่ว จึงเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยที่ 1 คือความผิดฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามฟ้องว่า จำเลยทั้งยี่สิบห้ากับพวกที่หลบหนีร่วมกันเล่นการพนันกำถั่ว อันเป็นการพนันตามบัญชี ก. อันดับที่ 4 ท้าย พ.ร.บ.การพนันฯ โดยจำเลยที่ 1 เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และร่วมเล่นด้วยแม้ พ.ร.บ.การพนันฯ มาตรา 12 (1) ได้กำหนดโทษผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นการพนันตามบัญชี ก. หมายเลข 4 ซึ่งแยกบทกำหนดโทษสำหรับผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันที่ไม่ได้เรียกว่าลูกค้าเป็นบทหนึ่ง และสำหรับผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันที่เรียกว่าลูกค้าเป็นอีกบทหนึ่งก็ตาม แต่จำเลยที่ 1 ก็มีเพียงเจตนาเดียวคือ เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นการพนันกำถั่ว ดังนั้นการที่จำเลยที่ 1 เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และเป็นผู้ร่วมเล่นการพนันกำถั่ว จึงเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยที่ 1 คือความผิดฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 654/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานจัดให้มีการพนันและเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้: ศาลพิพากษาลงโทษทุกกรรมเป็นกระทง
จำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำความผิดฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบและฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้การพนันสลากกินรวบอันเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน ศาลต้องพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม ป.อ. มาตรา 91