พบผลลัพธ์ทั้งหมด 57 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 37/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี: ปัญหาอายุผู้เสียหาย, พยานหลักฐาน, และการพิพากษาลงโทษ
แม้โจทก์ ไม่มีประจักษ์พยาน แต่ก็ มีคำรับสารภาพของจำเลยทั้ง ชั้นจับกุมและ สอบสวนซึ่งรับว่าได้ กระทำชำเรา ผู้เสียหายเมื่อฟังประกอบกับหลักฐานที่ฟังได้ว่าผู้เสียหายได้บอกว่าถูกจำเลยกระทำชำเราจริงแล้วจึง ฟังได้ว่าผู้เสียหายถูกจำเลยกระทำชำเราจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2353/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดชำเราเด็กหญิง: ไม่เข้าข่ายความรับผิดฐานครูดูแลศิษย์
จำเลยกระทำชำเราเด็กหญิง อ. ผู้เสียหาย ซึ่งอายุยังไม่เกิน13 ปี แต่จำเลยไม่เคยสอนในชั้นที่ผู้เสียหายเรียน จำเลยสอนเด็กเล็ก ทั้งจำเลยมิได้เป็นครูใหญ่ซึ่งโดยหน้าที่แล้วมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบนักเรียนทั้งโรงเรียน หรือเป็นครูเวรหรือได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ดูแลผู้เสียหายในขณะเกิดเหตุ จึงถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายเป็นศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลของจำเลยอันจะเป็นผลให้จำเลยต้องรับโทษหนักขึ้นตาม ป.มาตรา 285 จำเลยคงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา277 วรรคสอง เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2353/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิง แม้ไม่ใช่ครูผู้ดูแลโดยตรง แต่ยังคงมีความผิดตามมาตรา 277
จำเลยกระทำชำเราเด็กหญิงอ.ผู้เสียหายซึ่งอายุยังไม่เกิน13ปีแต่จำเลยไม่เคยสอนในชั้นที่ผู้เสียหายเรียนจำเลยสอนเด็กเล็กทั้งจำเลยมิได้เป็นครูใหญ่ซึ่งโดยหน้าที่แล้วมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบนักเรียนทั้งโรงเรียนหรือเป็นครูเวรหรือได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ดูแลผู้เสียหายในขณะเกิดเหตุจึงถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายเป็นศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลของจำเลยอันจะเป็นผลให้จำเลยต้องรับโทษหนักขึ้นตามประมวลมาตรา285จำเลยคงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา277วรรคสองเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามกระทำชำเราเด็กหญิง และการทำร้ายร่างกายต่อเนื่อง ศาลพิจารณาความผิดแยกกรรม
ผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงอายุ 8 ปี จำเลยใช้อวัยวะเพศของจำเลยใส่ไปที่ช่องขาใกล้อวัยวะเพศของผู้เสียหาย และได้กระทำการในลักษณะของการกระทำชำเรา ที่บริเวณรูทวารหนักของผู้เสียหายมีรอยช้ำแดงและที่ระหว่างช่องคลอดกับรูทวารหนักมีรอยถลอกเล็กน้อย อวัยวะเพศของจำเลยไม่ได้เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายคงอยู่บริเวณปากช่องคลอดของผู้เสียหายเท่านั้น ดังนั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงความผิดฐานพยายามกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 13 ปี
ทางพิจารณาไม่ปรากฏว่าการที่ผู้เสียหายขัดขืนไม่ยอมให้กระทำชำเรา จำเลยได้ชกต่อยและตบปากผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บอย่างไร คงได้ความว่าหลังจากจำเลยกระทำชำเราและจำเลยกับผู้เสียหายสวมใส่เสื้อผ้าแล้ว จำเลยได้ต่อยเตะจนผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส การกระทำของจำเลยดังกล่าวมิได้กระทำต่อเนื่องกัน หากแต่ขาดตอนจากการกระทำชำเราแล้ว ดังนี้ แม้ผู้เสียหายจะได้รับอันตรายสาหัสก็มิใช่ผลโดยตรงจากการกระทำชำเราอันจะเป็นเหตุให้ผู้กระทำจะต้องได้รับโทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 ทวิ
โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยกระทำผิดฐานกระทำชำเราผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277, 277 ทวิและ 297 แม้โจทก์จะอ้างมาตรา 297 มาด้วย แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดหลายกรรมจึงไม่ชัดเจนว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสไม่อาจลงโทษจำเลยฐานดังกล่าวได้เพราะเป็นการนอกเหนือจากฟ้อง
ทางพิจารณาไม่ปรากฏว่าการที่ผู้เสียหายขัดขืนไม่ยอมให้กระทำชำเรา จำเลยได้ชกต่อยและตบปากผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บอย่างไร คงได้ความว่าหลังจากจำเลยกระทำชำเราและจำเลยกับผู้เสียหายสวมใส่เสื้อผ้าแล้ว จำเลยได้ต่อยเตะจนผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส การกระทำของจำเลยดังกล่าวมิได้กระทำต่อเนื่องกัน หากแต่ขาดตอนจากการกระทำชำเราแล้ว ดังนี้ แม้ผู้เสียหายจะได้รับอันตรายสาหัสก็มิใช่ผลโดยตรงจากการกระทำชำเราอันจะเป็นเหตุให้ผู้กระทำจะต้องได้รับโทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 ทวิ
โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยกระทำผิดฐานกระทำชำเราผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277, 277 ทวิและ 297 แม้โจทก์จะอ้างมาตรา 297 มาด้วย แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดหลายกรรมจึงไม่ชัดเจนว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสไม่อาจลงโทษจำเลยฐานดังกล่าวได้เพราะเป็นการนอกเหนือจากฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิง: ศาลลงโทษตามข้อเท็จจริงที่ได้ความในการพิจารณา แม้มีข้อแตกต่างในรายละเอียด
ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาฟังได้ว่า จำเลยกระทำผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบสามปีในคืนวันที่ 11 ธันวาคม2533 เวลากลางคืนหลังเที่ยง เวลาเกิดเหตุดังกล่าวแตกต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้อง ซึ่งกล่าวว่าเหตุเกิดวันที่ 11 ธันวาคม 2533 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง เป็นเพียงข้อแตกต่างในรายละเอียดซึ่งมิใช่ข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยนำสืบสู้คดีเพียงว่าวันที่ 2 ธันวาคม 2533 ผู้เสียหายไปนอนค้างที่กระท่อมของจำเลย และเห็นจำเลยร่วมเพศกับมารดาผู้เสียหาย เช้าวันรุ่งขึ้นผู้เสียหายจึงกลับไปอยู่บ้านยายแล้วไม่มาที่กระท่อมของจำเลยอีกเลย ข้อเท็จจริงที่จำเลยนำสืบเป็นการกล่าวอ้างถึงเวลาก่อนเกิดเหตุหลายวันไม่เกี่ยวข้องกับเวลาเกิดเหตุตามฟ้อง แสดงว่าจำเลยมิได้หลงต่อสู้ จึงลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความในการพิจารณาดังกล่าวได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5881/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง โดยการพยายามกระทำความผิดไม่สมบูรณ์และเจตนาในการกระทำ
จำเลยกระทำการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายไปไม่ตลอดเพราะผู้เสียหายยังเล็ก อวัยวะเพศของจำเลยไม่สามารถเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายได้ จำเลยไม่ได้ยับยั้งไม่กระทำการให้ตลอดเสียเองกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นเหตุไม่ต้องรับโทษสำหรับการพยายามกระทำความผิดดังกล่าวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 82
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5410/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดฐานค้ามนุษย์และพรากเด็ก การกระทำถือเป็นความผิดต่างฐานกัน
การที่จำเลยพาผู้เสียหายไปขายให้แก่ จ.ซึ่งเป็นเจ้าของสถานการค้าประเวณีเพื่อให้ผู้เสียหายค้าประเวณี ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำผิดให้เกิดผลเป็นกรรมในความผิดฐานเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่นเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบสามปี โดยใช้อุบายหลอกลวงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283 วรรคสาม ฐานหนึ่งแล้ว และขณะเดียวกันการที่จำเลยพรากผู้เสียหายไปเสียจากมารดาของผู้เสียหาย จำเลยก็มีเจตนากระทำความผิดให้เกิดผลเป็นความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีไปเสียจากอำนาจปกครองของมารดา โดยปราศจากเหตุอันสมควร เพื่อการอนาจารตามมาตรา 317 วรรคสามอีกฐานหนึ่งต่างหากจากความผิดตามมาตรา 283 วรรคสาม มิใช่เป็นการกระทำกรรมเดียวกัน ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283 กับพระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2503 มาตรา 8 จำเลยกระทำเพียงครั้งเดียวและเกิดผลเดียวกัน จึงเป็นความผิดกรรมเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง: พยานหลักฐานเชื่อได้ถึงการกระทำผิด แม้มีพยานปากเดียว
แม้โจทก์มีผู้เสียหายเป็นพยานปากเดียวที่รู้เห็นว่าจำเลยกับพวกร่วมข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายโดยผู้เสียหายไม่ได้ยินยอมด้วยก็ตาม แต่เมื่อพฤติการณ์แห่งคดีมีเหตุให้ควรเชื่อได้ว่าผู้เสียหายเบิกความไปตามความจริง กรณีก็ฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยเป็นผู้ร่วมกระทำผิด(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาจำเลยอุทธรณ์ไม่ทันข้อเท็จจริงยุติตามศาลชั้นต้น ความผิดอนาจารเด็กหญิง
จำเลยมิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ข้อเท็จจริงจึงยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า จำเลยได้กระทำผิดตามฟ้อง จำเลยจะโต้เถียงขึ้นมาในชั้นฎีกาอีกไม่ได้ จำเลยกระทำอนาจารเด็กหญิงอายุ 8 ปี โดยการกอดจูบและใช้นิ้วแหย่เข้าไปในอวัยวะเพศหลายครั้ง โดยผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 วรรคสองมีอัตราโทษจำคุกขั้นสูงถึง 15 ปี ศาลอุทธรณ์กำหนดโทษจำคุกจำเลย8 เดือน เป็นการเหมาะสมแล้ว.(ที่มา-เนติ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามกระทำชำเราเด็กหญิง แม้การกระทำไม่สำเร็จผล และการยับยั้งการกระทำ
จำเลยชวนผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุ 4 ปีเศษไปดูการ์ตูนที่บ้านจำเลยแล้วพาไปนอนบนกระดาน ถอดกางเกงผู้เสียหายและจำเลยออก แล้วจำเลยใช้อวัยวะเพศดันไปตรงอวัยวะเพศของผู้เสีหายเพียงครั้งเดียว บริเวณอวัยวะเพศของผู้เสียหายไม่มีบาดแผล จำเลยไม่ได้กระทำซ้ำต่อไปเพื่อให้สำเร็จความใคร่ทั้ง ๆ ที่จำเลยมีโอกาสที่จะกระทำได้นับได้ว่าเป็นการยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอด จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 80, 82
แม้ผู้เสียหายไม่มีช่องคลอด ผิดปกติแต่กำเนิด อันเป็นเหตุประกอบให้เห็นว่า โดยสภาพวัตถุที่มุ่งหมายกระทำต่อทำให้การกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ก็ตาม ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยหยุดการกระทำต่อผู้เสียหายเพราะได้เห็น หรือทราบข้อเท็จจริงอันนี้ เมื่อจำเลยยับยั้งเสียเองได้ จำเลยก็ไม่ต้องรับโทษสำหรับการพยายามกระทำความผิดนั้นคงมีความผิดเท่าที่ต้องตามกฎหมายบัญญัติไว้เป็นความผิด คือกระทำอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279.
แม้ผู้เสียหายไม่มีช่องคลอด ผิดปกติแต่กำเนิด อันเป็นเหตุประกอบให้เห็นว่า โดยสภาพวัตถุที่มุ่งหมายกระทำต่อทำให้การกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ก็ตาม ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยหยุดการกระทำต่อผู้เสียหายเพราะได้เห็น หรือทราบข้อเท็จจริงอันนี้ เมื่อจำเลยยับยั้งเสียเองได้ จำเลยก็ไม่ต้องรับโทษสำหรับการพยายามกระทำความผิดนั้นคงมีความผิดเท่าที่ต้องตามกฎหมายบัญญัติไว้เป็นความผิด คือกระทำอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279.