คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เปิดเผย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 61 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3477/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องสงบ เปิดเผย และรู้ว่าเป็นทรัพย์ของผู้อื่น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นใหม่
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า โจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 117 ตำบลม่วงสามสิบอำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานีเนื้อที่ 2 งาน 84 ตารางวา โดย อ. ยกให้เมื่อ พ.ศ. 2512 ต่อมาเมื่อประมาณ พ.ศ. 2529 โจทก์ได้รังวัดสอบเขตจึงทราบว่าสิ่งปลูกสร้างอาทิเช่น ฉางข้าวที่ปลูกอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 2372ตำบลม่วงสามสิบอำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ได้ปลูกรุกล้ำแนวเขตที่ดินของโจทก์ ทำให้โจทก์ใช้ประโยชน์ในที่ดินส่วนนั้นไม่ได้ โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ศาลบังคับจำเลยรื้อถอนขนย้ายสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำแนวเขตที่ดินโฉนดเลขที่ 117 ของโจทก์ ห้ามเกี่ยวข้องกับที่ดินส่วนดังกล่าวและให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์เป็นรายเดือนในอัตราเดือนละ1,000 บาท ฟ้องโจทก์ดังกล่าวได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้วฟ้องโจทก์เกี่ยวกับค่าเสียหายจึงไม่เคลือบคลุม ในชั้นอุทธรณ์โจทก์อุทธรณ์ว่า การจะได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้นผู้ครอบครอง (จำเลย)จะต้องรู้ว่าทรัพย์สินที่ได้ครอบครองนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้อื่น (โจทก์) ครั้นเมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า ทรัพย์สินที่ครอบครองนั้นต้องเป็นทรัพย์สินของผู้อื่น แต่หาจำต้องเป็นการครอบครองโดยรู้ว่าเป็นที่ดินของบุคคลอื่นไม่ โจทก์กลับฎีกาว่า การที่จะได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของผู้อื่นนั้น จะต้องครอบครองทรัพย์สินนั้นโดยสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของแต่ตามพฤติการณ์การครอบครองของจำเลยมิได้เป็นเช่นนั้น คือทั้งโจทก์และจำเลยต่างฝ่ายต่างหวงห้ามต่อกันโดยอ้างว่าตนเป็นเจ้าของ ดังนั้น จะถือว่าจำเลยครอบครองโดยสงบมิได้ และการที่จำเลยปลูกฉางข้าวลงในที่ดินของโจทก์โดยมิได้รับอนุญาตจะถือว่าจำเลยปลูกโรงเรือนโดยสุจริตมิได้ ทั้งการครอบครองของจำเลยยังไม่ถึง 10 ปีจำเลยจึงยังไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์นั้น เป็นการยกเหตุอื่นขึ้นมาเป็นข้ออ้างในชั้นฎีกา ฎีกาของโจทก์ดังกล่าวจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ภาค 1ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1034/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมั้นต้องเป็นกิจจะลักษณะและเปิดเผย การสู่ขออย่างเดียวไม่ถือเป็นการหมั้นตามกฎหมาย
แม้กฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ขณะมีการหมั้นจะมิได้บัญญัติว่า การหมั้นจะต้องมีของหมั้น แต่การหมั้นก็ควรจะต้องกระทำกันเป็นกิจจะลักษณะและเปิดเผยให้เป็นที่รับรู้ของบุคคลทั่วไป การสู่ขอกันไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นการหมั้นกันตามกฎหมาย ดังนี้จำเลยผิดข้อตกลงโจทก์จะเรียกค่าทดแทนจากจำเลยหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1052/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอมโดยอายุความ: การใช้ทางต่อเนื่องเกิน 10 ปี โดยสงบ เปิดเผย ทำให้เกิดภาระจำยอมได้ แม้เจ้าของเดิมจะโต้แย้ง
จำเลยมีชื่อ ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทซึ่งตกอยู่ ในภารจำยอมของที่ดินโจทก์ เมื่อจำเลยสร้างรั้วคอนกรีตปิดกั้นที่ดินพิพาททำให้โจทก์ไม่สามารถใช้ที่ดินพิพาทเป็นทางเข้าออกสู่ทางสาธารณะได้ย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะฟ้องจำเลยได้ หาเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่ โจทก์ใช้ที่ดินพิพาทเป็นทางสัญจรผ่านเข้าออกระหว่างทางสาธารณะกับที่ดินของโจทก์เป็นเวลากว่า 10 ปี แม้จะมีการกั้นรั้วไม้ในที่ดินพิพาทแต่ก็ถูกรื้อออกภายในเดือนเดียวกัน และโจทก์ใช้ทางพิพาทต่อมา จึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ใช้ที่ดินพิพาทโดยความไม่สงบหรือมิได้ใช้ติดต่อกันเกิน 10 ปี สิทธิการใช้ที่ดินอันตก เป็นภารจำยอมนั้นกฎหมายบัญญัติเพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์ หาได้มุ่งเพื่อประโยชน์ของบุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยเฉพาะไม่ทั้งตก ติดไปยังผู้รับโอนอสังหาริมทรัพย์อันเป็นสามยทรัพย์นั้นด้วย เมื่อโจทก์เป็นผู้ใช้ทางพิพาทในขณะโจทก์ฟ้องแม้ต่อมาภายหลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้วโจทก์ได้โอนขายที่ดินของโจทก์แก่บุคคลอื่น ก็หาทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์ระงับไปไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2193/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักทรัพย์ในร้านค้าเปิดเผย ไม่เป็นลักทรัพย์ในเคหสถาน แม้เป็นที่อยู่อาศัยด้วย
ที่เกิดเหตุเป็นร้านค้าซึ่งประชาชนย่อมจะเข้าไปได้แม้จะเป็นเคหสถานที่ผู้เสียหายใช้อยู่อาศัยด้วย แต่ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวันร้านค้ายังคงเปิดขายสินค้าอยู่ การที่จำเลยเข้าไปลักสุราและบุหรี่จึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1199/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยเปิดเผยและแสดงความบริสุทธิ์ใจของผู้ต้องหา ไม่เข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์
การที่จำเลยให้พรรคพวกรื้อยุ้งข้าวพิพาทในเวลากลางวัน ต่อหน้าบุคคลหลายคนโดยเปิดเผยและเมื่อพนักงานสอบสวนไปถึงที่เกิดเหตุจำเลยแสดงตัวยอมรับว่าเป็นผู้รื้อยุ้งข้าว โดยอ้างว่าเป็นของบิดามารดาจำเลย แสดงให้เห็นความบริสุทธิ์ใจของจำเลย ซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่สนับสนุนให้เชื่อ ได้ว่า จำเลยมิได้กระทำโดยทุจริต จำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4268/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอมโดยอายุความ: การใช้ทางต่อเนื่องโดยเปิดเผย ย่อมก่อให้เกิดภาระจำยอมได้
โจทก์ฟ้องว่าได้ภาระจำยอมโดยอายุความซึ่งข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ทำการประมงและบรรทุกปลาจากท่าเทียบเรือและจากโรงดองเค็มจากที่ดินของโจทก์ผ่านทางพิพาทซึ่งอยู่ในที่ดินจำเลยเพื่อออกสู่ถนนสาธารณะเป็นเวลา 5 ปีก็เลิกแล้วให้นางบ.เช่าโรงดองเค็มนางบ.ขนปลาจากท่าเทียบเรือและโรงดองเค็มดังกล่าวผ่านทางพิพาทไปสู่ถนนสาธารณะเป็นเวลา8 ปีก็เลิกเช่าแต่ก็ยังใช้ท่าเทียบเรือและเดินผ่านทางพิพาทอยู่ การเดินผ่านทางพิพาทดังกล่าวทั้งโจทก์และนางบ. ไม่ได้ขออนุญาตผู้ใดและโดยที่จำเลยกับเจ้าของที่ดินเดิมที่จำเลยซื้อมาไม่เคยห้ามปรามนับแต่โจทก์และนางบ.ใช้ทางพิพาทมาเป็นเวลา 13 ปีแล้ว ทางพิพาทจึงตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินโจทก์ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2611/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจร: การกระทำโดยสุจริตและเปิดเผย ไม่ถือเป็นความผิด
ผู้เสียหายขอให้ ส. หลานชายช่วยติดตามหารถจักรยานที่ถูกลัก ส. ขอร้องให้จำเลยช่วยอีกต่อหนึ่ง จำเลยติดตามได้จึงนำรถมาเก็บไว้ที่บ้าน แม้มิได้นำไปส่งคืนทันที แต่เมื่อ ช. ถูกจับจำเลยก็ไปแจ้งต่อตำรวจทันทีว่ารถอยู่ที่จำเลยการนำรถมาเก็บที่บ้าน ก็กระทำโดยเปิดเผย มิได้ปิดบังซ่อนเร้น อันแสดงว่าจำเลยกระทำไปโดยสุจริต ดังนี้ จำเลยไม่มีความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1082/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้สิทธิทางภารจำยอมโดยอายุความ แม้เจ้าของที่ดินยังไม่ถึงสิบปี หากใช้ทางต่อเนื่องโดยเปิดเผยและไม่มีการโต้แย้ง
แม้โจทก์จะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินอันเป็นสามยทรัพย์มายังไม่ถึงสิบปี แต่การที่โจทก์ได้ใช้เส้นทางพิพาทเป็นทางเดินเข้าออกสู่ซอยและถนนสาธารณะมาตั้งแต่โจทก์ยังเป็นผู้อาศัยอยู่กับเจ้าของกรรมสิทธิ์เดิม จนกระทั่งโจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวโดยไม่มีผู้ใดโต้แย้งทักท้วงและโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใด เมื่อนับระยะเวลาทั้งสองตอนติดต่อกันก็เกินกว่าสิบปี เส้นทางดังกล่าว จึงตกเป็นทางภารจำยอมโดยทางอายุความได้สิทธิแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1401 แล้ว (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 113/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2976/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโฆษณาตามความเป็นจริงจากการประชุมเปิดเผย ไม่เป็นความผิดหมิ่นประมาท
จำเลยโฆษณาข้อความในหนังสือพิมพ์ซึ่งจำเลยเป็นบรรณาธิการมีใจความว่าเทศบาลเมืองราชบุรีจะขายที่ดิน (ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงพยาบาล ราชบุรี) ให้แก่โรงพยาบาลราชบุรี ถ้าทางโรงพยาบาลไม่ซื้อและ ไม่คืนที่ดินและอาคารให้เทศบาล เทศบาลดังกล่าวจะฟ้องขับไล่ โรงพยาบาล และยึดที่ดินพร้อมด้วยอาคารมาดำเนินการเอง ซึ่งข้อความที่บันทึกไว้ในรายงานการประชุมสภาเทศบาลนั้น ตรงกับข้อความที่จำเลยโฆษณา จำเลยมิได้โฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ การกระทำของจำเลยเป็นการโฆษณาข้อความเรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในการประชุมโดยสุจริต และด้วยความเป็นธรรม จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1573/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาพยานหลักฐานจากชั้นไต่สวนมูลฟ้องที่ไม่เปิดเผยต่อหน้าจำเลยขัดต่อกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โจทก์ขอให้นำพยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบไว้ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งมิได้กระทำต่อหน้าจำเลยมาวินิจฉัยคดี เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172ฉะนั้น เมื่อโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยาน ก็เท่ากับโจทก์ไม่มีพยานมาสืบพิสูจน์ ให้เห็นว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้อง คดีจึงลงโทษจำเลยไม่ได้
of 7