คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เหตุใหม่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 23 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10077/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาห้ามอุทธรณ์ เหตุอ้างเหตุใหม่ในชั้นอุทธรณ์ หลังให้การในศาลชั้นต้นไปแล้ว
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การยกเหตุแห่งการปฏิเสธในประเด็นฟ้องโจทก์เคลือบคลุมแต่เพียงว่าโจทก์บรรยายฐานะของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่เคยประกอบธุรกิจและมีผลประโยชน์ร่วมกัน มูลหนี้ที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 และที่ 2 แบ่งแยกกันได้เป็นคนละมูลหนี้ โจทก์ไม่สามารถนำมาฟ้องเป็นคดีเดียวกันได้ ทั้งสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ได้แบ่งแยกว่าหนี้ใดเป็นของจำเลยที่ 1 หนี้ใดเป็นของจำเลยที่ 2 ทำให้จำเลยที่ 1 ไม่สามารถเข้าใจว่าหนี้ดังกล่าวเป็นมูลหนี้อะไรตามสัญญาใด จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม แต่อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ยกเหตุที่ทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมกลับกล่าวอ้างว่าโจทก์มิได้บรรยายฟ้องและนำสืบว่าหนี้ที่ถึงกำหนดชำระตามสัญญาประนีประนอมยอมความงวดใดถึงกำหนดชำระ งวดใดยังไม่ถึงกำหนดชำระ อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นคนละเหตุกับที่ได้ให้การไว้ในศาลชั้นต้น จึงถือได้ว่าเป็นอุทธรณ์ในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม: จำเลยยกเหตุใหม่ในฎีกาที่ไม่เคยยกขึ้นว่ากันในศาลอุทธรณ์ จึงไม่รับวินิจฉัย
ในชั้นอุทธรณ์จำเลยอุทธรณ์ว่า ว. หัวหน้าหน่วยงานคดี กองนิติการ สังกัดกรมโจทก์ ทราบเหตุละเมิดและรู้ตัวผู้กระทำละเมิดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2535 จึงต้องถือว่าโจทก์ทราบเหตุละเมิดและรู้ตัวผู้กระทำละเมิดนับตั้งแต่นั้นด้วย เพราะ ว. และอธิบดีกรมโจทก์ต่างก็ปฏิบัติราชการในหน้าที่ของโจทก์เช่นเดียวกัน เพียงแต่ปฏิบัติงานตามระเบียบการบังคับบัญชาที่แตกต่างกันตามหน้าที่เท่านั้น เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 21 ธันวาคม 2544 คดีโจทก์จึงขาดอายุความ แต่ในชั้นฎีกา จำเลยกลับฎีกาว่า คณะกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดชอบทางแพ่งที่โจทก์ต่างแต่งตั้งได้สอบสวนหาตัวผู้กระทำละเมิดแล้วมีความเห็นว่า จำเลยเป็นผู้ต้องรับผิดชอบทางแพ่งเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2535 จึงถือว่าโจทก์ทราบว่าจำเลยเป็นผู้ต้องรับผิดชอบทางแพ่งแล้วตั้งแต่วันดังกล่าว โจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 21 ธันวาคม 2544 คดีโจทก์จึงขาดอายุความ แม้จำเลยจะอุทธรณ์และฎีกาในปัญหาเดียวกันคือปัญหาว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ แต่ข้อที่จำเลยยกขึ้นอ้างในฎีกาแตกต่างไปจากข้อที่เคยยกขึ้นอ้างในอุทธรณ์ ถือว่าเป็นฎีกาในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค 1 ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7795/2560

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัย เหตุจำเลยยกเหตุใหม่ในชั้นฎีกา เกินกว่าที่ต่อสู้ไว้ในศาลล่าง
โจทก์ฟ้องขอหย่าจำเลยอ้างเหตุโจทก์และจำเลยสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขเกินสามปี จำเลยให้การต่อสู้ทั้งในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เพียงประเด็นเดียวว่า จำเลยมิได้สมัครใจแยกกันอยู่กับโจทก์และการแยกกันอยู่นั้นไม่ถึงขนาดที่มีเหตุไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขเกินกว่าสามปี ดังนั้น ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยมิได้สมัครใจแยกกันอยู่กับโจทก์แต่จำใจแยกกันอยู่กับโจทก์เนื่องจากโจทก์ยกย่อง อ. เป็นภริยาตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน จำเลยรู้สึกอับอายจึงแยกมาอยู่ที่บ้านเลขที่ 59/9 นั้น จึงเป็นฎีกาที่จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ทั้งในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ฎีกาของจำเลยจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 6 ทั้งไม่ปรากฏว่า จำเลยได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 ว่า ไม่ชอบหรือไม่ถูกต้อง เพราะเหตุใด จึงเป็นฎีกาไม่ชัดแจ้งต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ประกอบ พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 6 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
of 3