พบผลลัพธ์ทั้งหมด 22 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10200/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์หนี้และการใช้เอกสารสำเนาที่มีตราประทับรับรองในคดีล้มละลาย
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดตาม พ.ร.ก.บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ.2544 มาตรา 58 วรรคสี่ ซึ่งบัญญัติให้ศาลและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลายต่อไปโดยเร็ว กฎหมายว่าด้วยล้มละลายที่ใช้บังคับในปัจจุบันคือ พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 เป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน เนื่องจากคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด มีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพและอำนาจจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ ผู้ร้องจึงมีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาสืบให้ฟังได้ว่า ลูกหนี้เป็นหนี้ผู้ร้องและมีเหตุตามกฎหมายให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด
ผู้ร้องกล่าวอ้างในคำร้องว่าได้ทำสัญญารับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพรายลูกหนี้มาจากธนาคาร ก. เจ้าหนี้เดิม แต่ในชั้นพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง ผู้ร้องไม่มีสัญญาที่ทำระหว่างผู้ร้องกับเจ้าหนี้เดิมมาสนับสนุน มีเพียงคำเบิกความของพยานผู้ร้องปาก ว. กล่าวถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวสำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน สำเนาสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนอง สำเนาบันทึกข้อตกลงโอนสิทธิการรับจำนอง และสำเนาคำขอโอนซึ่งหากเป็นเอกสารที่ทำการจดทะเบียนตามกฎหมาย เป็นเอกสารมหาชนที่สามารถตรวจสอบได้ถึงความมีอยู่จริง ผู้ร้องก็ชอบที่จะขอให้เจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องเช่น เจ้าพนักงานที่ดินรับรองความถูกต้องแห่งสำเนาเอกสารนั้นก่อนนำเสนอเป็นพยานหลักฐานต่อศาล แต่ผู้ร้องกลับใช้ตรายางประทับรับรองสำเนาเอกสารอ้างเป็นพยานหลักฐานโดยไม่นำต้นฉบับเอกสารมาแสดง ที่ผู้ร้องอ้างว่าการใช้ตรายางประทับรับรองสำเนาเอกสารแทนการลงลายมือชื่อของผู้อำนวยการฝ่ายงานคดี มิใช่เป็นเรื่องที่ใครหรือผู้ใดจะมาใช้ตรายางประทับก็ได้ การประทับตราดังกล่าวต้องกระทำโดยได้รับความยินยอมจากผู้ร้องจึงสามารถกระทำได้ และได้กระทำมาเป็นปกติในคดีอื่นด้วยเช่นกันนั้น เป็นข้ออ้างที่ไม่มีกฎหมายสนับสนุน พยานหลักฐานของผู้ร้องไม่พอฟังว่าลูกหนี้เป็นหนี้ผู้ร้อง
ผู้ร้องกล่าวอ้างในคำร้องว่าได้ทำสัญญารับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพรายลูกหนี้มาจากธนาคาร ก. เจ้าหนี้เดิม แต่ในชั้นพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง ผู้ร้องไม่มีสัญญาที่ทำระหว่างผู้ร้องกับเจ้าหนี้เดิมมาสนับสนุน มีเพียงคำเบิกความของพยานผู้ร้องปาก ว. กล่าวถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวสำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน สำเนาสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนอง สำเนาบันทึกข้อตกลงโอนสิทธิการรับจำนอง และสำเนาคำขอโอนซึ่งหากเป็นเอกสารที่ทำการจดทะเบียนตามกฎหมาย เป็นเอกสารมหาชนที่สามารถตรวจสอบได้ถึงความมีอยู่จริง ผู้ร้องก็ชอบที่จะขอให้เจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องเช่น เจ้าพนักงานที่ดินรับรองความถูกต้องแห่งสำเนาเอกสารนั้นก่อนนำเสนอเป็นพยานหลักฐานต่อศาล แต่ผู้ร้องกลับใช้ตรายางประทับรับรองสำเนาเอกสารอ้างเป็นพยานหลักฐานโดยไม่นำต้นฉบับเอกสารมาแสดง ที่ผู้ร้องอ้างว่าการใช้ตรายางประทับรับรองสำเนาเอกสารแทนการลงลายมือชื่อของผู้อำนวยการฝ่ายงานคดี มิใช่เป็นเรื่องที่ใครหรือผู้ใดจะมาใช้ตรายางประทับก็ได้ การประทับตราดังกล่าวต้องกระทำโดยได้รับความยินยอมจากผู้ร้องจึงสามารถกระทำได้ และได้กระทำมาเป็นปกติในคดีอื่นด้วยเช่นกันนั้น เป็นข้ออ้างที่ไม่มีกฎหมายสนับสนุน พยานหลักฐานของผู้ร้องไม่พอฟังว่าลูกหนี้เป็นหนี้ผู้ร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8593/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังเอกสารสำเนาเป็นพยาน การพิสูจน์การส่งออกสินค้า และข้อจำกัดการรับรองสำเนาเอกสารโดยเจ้าหน้าที่
บัญชีสินค้าสำหรับเรือเป็นเอกสารที่ พ.ร.บ.ศุลกากร ฯ มาตรา 51 กำหนดให้นายเรือหรือตัวแทนเรือต้องจัดทำขึ้นโดยมีรายละเอียดของสินค้าตามที่ระบุไว้ในบัญชีรายชื่อสินค้าขาออกและยื่นต่อศุลกสถานภายใน 6 วันเต็มนับแต่วันที่ได้ออกใบปล่อยเรือขาออก จึงเป็นเอกสารที่สามารถนำมาสืบได้ว่าผู้ยื่นใบขนส่งสินค้าขาออกส่งสินค้าไปต่างประเทศตามใบขนส่งสินค้าขาออกจริงหรือไม่ แต่การรับฟังพยานหลักฐานดังกล่าวเป็นพยานต้องอยู่ภายใต้บังคับบทบัญญัติแพ่ง ป.วิ.พ. มาตรา 93 ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร ฯ มาตรา 17 เมื่อบัญชีสินค้าสำหรับเรือที่โจทก์นำสืบในคดีนี้เป็นสำเนาเอกสาร และจำเลยก็ได้ยื่นคำแถลงคัดค้านการนำเอกสารดังกล่าวมาสืบว่าสำเนาบัญชีสินค้าสำหรับเรือที่โจทก์ใช้อ้างอิงต่อศาลภาษีอากรกลางทั้งหมดไม่ถูกต้องตรงกับต้นฉบับก่อนการสืบพยานเอกสารดังกล่าวเสร็จ แสดงว่าจำเลยไม่ได้ยอมรับว่าสำเนาบัญชีสินค้าสำหรับเรือดังกล่าวถูกต้อง และทางนำสืบของโจทก์ก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าต้นฉบับเอกสารหาไม่ได้ เพราะสูญหาย หรือถูกทำลายโดยเหตุสุดวิสัยหรือไม่สามารถนำต้นฉบับบัญชีสินค้าสำหรับเรือมาได้โดยประการอื่น ทั้งผู้ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาเอกสารไม่ปรากฏว่าเป็นหัวหน้ากรม กอง แผนก หรือผู้รักษาการแทนตำแหน่งดังกล่าวของโจทก์ที่มีหน้าที่ดูแลเอกสารหรือรับรองความถูกต้องของเอกสารสำเนาบัญชีสินค้าสำหรับเรือจึงต้องห้ามมิให้รับฟัง