พบผลลัพธ์ทั้งหมด 63 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2020/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธมีด ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายในเวลากลางวัน มีโอกาสเลือกและแทงที่ท้องจนลึกเข้าช่องท้อง ถูกอวัยวะภายในเป็นบาดแผลถึงกับเลือดตกในมาก ผู้ตายถึงแก่ความตายในวันนั้นเอง เห็นได้ว่าจำเลยแทงโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 380/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธอันตราย ถือเป็นความพยายามฆ่า แม้ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ชีวิต
จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมยาวทั้งตัวและด้ามประมาณหนึ่งคืบใบมีดกว้างขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือแทงผู้เสียหายครั้งแรกถูกที่ข้อศอกซ้าย แล้วแทงซ้ำถูกที่บริเวณเหนือราวนมด้านซ้ายอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญ ลึกถึงกระดูกซี่โครง เยื่อหุ้มปอดฉีกขาด ปอดข้างซ้ายแฟบลง ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติประกอบกับรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องปรากฏว่าถ้าผู้เสียหายไม่ได้รับการรักษาโดยทันทีด้วยการเจาะปอด จะถึงแก่ความตายเช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าผู้เสียหายให้ตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2264/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงผู้ตายโดยบันดาลโทสะหลังถูกข่มเหง ผู้ตายท้าก่อนไม่ลบล้างโทสะ
ผู้ตายพยายามบังคับข่มขืนใจให้จำเลยดื่มสุราทั้งที่จำเลยปฏิเสธอ้างว่าป่วยดื่มไม่ได้ ผู้ตายก็เอาแก้วขว้างจนจำเลยต้องหลบถึง 2 ครั้ง แก้วที่แตกเสียหายทั้งสองใบนั้นก็เป็นของจำเลย หลังจากนั้นผู้ตายจึงผลักหน้าผากจำเลยล้มหงายลงแล้วผู้ตายยังตามเข้ามาเอาไหล่ดันจำเลยอีก ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายในขณะนั้น จึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ แม้จะฟังว่าผู้ตายท้าให้แทงก่อนจำเลยจะแทงผู้ตายก็ตาม ก็ไม่เป็นการลบล้างโทสะของจำเลยเนื่องจากการถูกผู้ตาย ข่มเหงโดยไม่เป็นธรรมซึ่งเกิดขึ้นก่อนแล้วนั้น แต่กลับจะเป็นการเร่งให้โทสะเนื่องจากการถูกข่มเหงเกิดเร็วขึ้นเสียอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2264/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงผู้ตายโดยบันดาลโทสะหลังถูกข่มเหง: ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ผู้ตายพยายามบังคับข่มขืนใจให้จำเลยดื่มสุราทั้งที่จำเลยปฏิเสธอ้างว่าป่วยดื่มไม่ได้ ผู้ตายก็เอาแก้วขว้างจนจำเลยต้องหลบถึง 2 ครั้ง แก้วที่แตกเสียหายทั้งสองใบนั้นก็เป็นของจำเลยหลังจากนั้นผู้ตายจึงผลักหน้าผากจำเลยล้มหงายลงแล้วผู้ตายยังตามเข้ามาเอาไหล่ดันจำเลยอีก ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายในขณะนั้น จึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะแม้จะฟังว่าผู้ตายท้าให้แทงก่อนจำเลยจะแทงผู้ตายก็ตาม ก็ไม่เป็นการลบล้างโทสะของจำเลยเนื่องจากการถูกผู้ตายข่มเหง โดยไม่เป็นธรรมซึ่งเกิดขึ้นก่อนแล้วนั้น แต่กลับจะเป็นการเร่งให้โทสะเนื่องจากการถูกข่มเหงเกิดเร็วขึ้นเสียอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธอันตรายถึงอวัยวะสำคัญ ศาลฎีกาพิพากษาตามศาลชั้นต้น
จำเลยใช้มีดปลายแหลมมีความยาวทั้งด้ามและใบมีด 10 นิ้ว เฉพาะใบมีดยาว 6 นิ้ว แทงผู้เสียหายขณะอยู่ประจันหน้ากัน ถูกที่หน้าอก บาดแผลกว้าง 1.7 เซนติเมตร ทะลุปอด กะบังลม ตับ และถูกเยื่อหุ้มกะเพาะด้านนอก ซึ่งล้วนแต่เป็นอวัยวะส่วนสำคัญ มีเลือดออกในช่องปอดและช่องท้องเป็นจำนวนมาก ถ้าไม่รักษาโดยการผ่าตัดทันท่วงทีอาจตายได้ ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย มิใช่เพียงเจตนาทำร้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยมีดอันตรายถึงชีวิต ศาลฎีกายืนตามศาลชั้นต้น
จำเลยใช้มีดปลายแหลมมีความยาวทั้งด้านและใบมีด 10 นิ้ว เฉพาะใบมีดยาว 6 นิ้ว แทงผู้เสียหายขณะอยู่ประจันหน้ากัน ถูกที่หน้าอก บาดแผลกว้าง 1.7 เซนติเมตร ทะลุปอด กะบังลม ตับ และถูกเยื่อหุ้มกระเพาะด้านนอกซึ่งล้วนแต่เป็นอวัยวะส่วนสำคัญมีเลือดออกในช่องปอดและช่องท้องเป็นจำนวนมากถ้าไม่รักษาโดยการผ่าตัดทันท่วงทีอาจตายได้ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายมิใช่เพียงเจตนาทำร้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2615/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงต่อเนื่องหลังห้ามศึกทะเลาะวิวาท ศาลฎีกาตัดสินผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ผู้ตายถูกต่อยเซไปเพราะเข้าไปห้ามมิให้คนสองฝ่ายทะเลาะกัน แล้วจำเลยวิ่งเข้าไปแทงผู้ตายฝ่ายเดียว พฤติการณ์เช่นนี้หาใช่เป็นการฉุกละหุกจนจำเลยไม่อาจกำหนดแน่ได้ว่าจะแทงให้ถูกผู้ตายตรงไหนไม่ได้ไม่ การที่จำเลยแทงถูกชายโครงด้านซ้ายของผู้ตายเห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะแทงให้ถูกผู้ตายตรงอวัยวะสำคัญ ผู้ตายมีบาดแผลเป็นรูปปีกกายาวประมาณ 4.5 เซนติเมตร ทะลุเข้าปอดและทะลุช่องท้องไปถูกม้าม แสดงว่าจำเลยจ้วงแทงจากเบื้องสูงลงไปโดยแรงด้วยเหล็กขูดชาร์ฟยาว 21 เซนติเมตร แม้จะแทงเพียงทีเดียวก็ย่อมแลเห็นผลได้ว่าอาจทำให้ผู้ถูกแทงถึงแก่ความตายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2615/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงผู้อื่นเสียชีวิตโดยเจตนา: พฤติการณ์สำคัญบ่งชี้เจตนาฆ่า
ผู้ตายถูกต่อยเซไปเพราะเข้าไปห้ามมิให้คนสองฝ่ายทะเลาะกัน แล้วจำเลยวิ่งเข้าไปแทงผู้ตายฝ่ายเดียว พฤติการณ์เช่นนี้หาใช่เป็นการฉุกละหุกจนจำเลยไม่อาจกำหนดแน่ได้ว่าจะแทงให้ถูกผู้ตายตรงไหนไม่ได้ไม่การที่จำเลยแทงถูกชายโครงด้านซ้ายของผู้ตายเห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะแทงให้ถูกผู้ตายตรงอวัยวะสำคัญ ผู้ตายมีบาดแผลเป็นรูปปีกกายาวประมาณ 4.5 เซนติเมตร ทะลุเข้าปอดและทะลุช่องท้องไปถูกม้าม แสดงว่าจำเลยจ้วงแทงจากเบื้องสูงลงไปโดยแรงด้วยเหล็กขูดชาร์ฟยาว 21 เซนติเมตรแม้จะแทงเพียงทีเดียวก็ย่อมแลเห็นผลได้ว่าอาจทำให้ผู้ถูกแทงถึงแก่ความตายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 98/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงทำร้ายผู้อื่นหลังถูกตบหน้า: บันดาลโทสะ vs. ป้องกันตัว
จำเลยเกิดปากเสียง ด่าทอแล้วใช้มือผลักซึ่งกันและกันกับพวกคนหนึ่งของผู้ตาย ผู้ตายเข้าห้ามให้แยกกันและใช้มือตบหน้าจำเลยไป 1 ที โดยมิได้แสดงอาการว่าจะทำร้ายจำเลยด้วยอาวุธอะไรต่อไปอีก จำเลยได้ชักมีดออกแทงผู้ตายไปทันทีถูกผู้ตายเป็นแผลฉกรรจ์ถึง 3 แผล ถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยจะอ้างว่ากระทำเพื่อป้องกันตนเองให้พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึงหาได้ไม่และการที่ผู้ตายใช้มือตบหน้าจำเลยก่อนเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยแทงทำร้ายผู้ตายไปในขณะนั้น จึงเป็นการกระทำความผิดด้วยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 978/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันสิทธิเกินสมควร: การแทงผู้บุกรุกจนถึงแก่ความตาย และการรอการลงโทษ
เมื่อมีเหตุอันสมควรทำให้จำเลยสำคัญผิดว่า ผู้ตายเป็นคนร้ายเข้ามาทำร้ายจำเลย จำเลยย่อมกระทำการเพื่อป้องกันสิทธิของตนได้
จำเลยสำคัญผิดว่าผู้ตายเป็นคนร้ายที่ขึ้นไปบนเรือนและเข้าไปทำร้ายจำเลย จำเลยจึงใช้มีดปลายแหลมแทงเป็นการป้องกันไป 1 ทีถูกที่หน้าอกของผู้ตายเป็นบาดแผลลึกถึงหัวใจ ซึ่งพอจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้แล้ว จำเลยยังวิ่งไล่ตามไปแทงผู้ตายที่พื้นดินหน้าบันไดเรือนอีกหลายครั้งจนผู้ตายถึงแก่ความตายอยู่ตรงนั้นการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
จำเลยสำคัญผิดว่าผู้ตายเป็นคนร้ายที่ขึ้นไปบนเรือนและเข้าไปทำร้ายจำเลย จำเลยจึงใช้มีดปลายแหลมแทงเป็นการป้องกันไป 1 ทีถูกที่หน้าอกของผู้ตายเป็นบาดแผลลึกถึงหัวใจ ซึ่งพอจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้แล้ว จำเลยยังวิ่งไล่ตามไปแทงผู้ตายที่พื้นดินหน้าบันไดเรือนอีกหลายครั้งจนผู้ตายถึงแก่ความตายอยู่ตรงนั้นการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ