พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 142/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แผนที่พิพาทที่รับกันแล้วเป็นหลักในการบังคับคดี แม้เนื้อที่ไม่ตรงกับคำฟ้อง
ในคดีเดิมมีแผนที่พิพาทซึ่งคู่ความรับกันแล้ว ชั้นบังคับคดีต้องถือแผนที่นั้นเป็นหลักโดยไม่ต้องคำนึงถึงจำนวนเนื้อที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 142/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แผนที่พิพาทเป็นหลักฐานชั้นบังคับคดี: จำนวนเนื้อที่ไม่สำคัญ
ในคดีเดิมมีแผนที่พิพาทซึ่งคู่ความรับกันแล้วชั้นบังคับคดีต้องถือแผนที่นั้นเป็นหลักโดยไม่ต้องคำนึงถึงจำนวนเนื้อที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8755/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมให้กันส่วนที่ดินจากการบังคับคดี: การสละสิทธิคัดค้านและการยอมรับแผนที่พิพาทมีผลผูกพัน
โจทก์ทราบแล้วว่าที่ดินพิพาทผู้ร้องกับจำเลยถือกรรมสิทธิ์รวมกันและจำเลยจำนองเฉพาะส่วนของตนไว้แก่โจทก์ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าของใครอยู่ส่วนใด โจทก์จึงนำยึดทั้งแปลง ในชั้นยื่นคำคัดค้านโจทก์ก็ยอมรับข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่คัดค้านว่า การขอกันส่วนเป็นที่ดินตามเนื้อที่ในคำร้องเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ชอบที่ผู้ร้องจะต้องไปขอกันเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินในภายหลัง แต่ในชั้นไต่สวนโจทก์กลับสละสิทธิตามคำคัดค้าน โดยแถลงต่อศาลว่าโจทก์ได้เจรจากับจำเลยแล้ว ไม่ติดใจที่จะคัดค้านการขอกันส่วนของผู้ร้อง แสดงว่าโจทก์ยอมให้ผู้ร้องกันส่วนที่ดินที่ผู้ร้องอ้างว่าครอบครองเป็นส่วนสัดตามคำร้องออกไปจากการบังคับคดีได้ โดยไม่ต้องรอรับเงินกันส่วนหลังจากการขายทอดตลาด ต่อมาเมื่อผู้ร้องขอให้เจ้าพนักงานที่ดินทำแผนที่พิพาทแบ่งแยกที่ดินออกเป็น 2 ส่วนเท่ากัน โดยผู้ร้องตกลงเอาส่วนด้านตะวันออก จำเลยตกลงเอาส่วนด้านตะวันตก โจทก์ก็แถลงรับต่อศาลว่าตรงตามที่พิพาทกัน อันแสดงถึงการยอมรับในความถูกต้องของการแบ่ง อีกทั้งเมื่อผู้ร้องอุทธรณ์และฎีกาขอให้กันส่วนที่ดินตามคำร้อง โจทก์ก็ไม่ยื่นคำแก้อุทธรณ์และคำแก้ฎีกา ถือได้ว่าโจทก์ยอมรับที่จะให้มีการบังคับคดีเฉพาะที่ดินส่วนที่ตกลงให้เป็นของจำเลย โดยกันส่วนที่ดินที่ตกลงให้เป็นของผู้ร้องออกจากการบังคับคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2550 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แผนที่พิพาทที่ศาลสั่งทำเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมเป็นพยานได้ แม้ไม่ได้ระบุในบัญชีพยาน
โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินมือเปล่าเนื้อที่ 26 ไร่ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง โดยตั้งราคาที่ดินเป็นเงิน 300,000 บาท ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้คู่ความทำแผนที่พิพาท ปรากฏว่าที่ดินพิพาทมีเนื้อที่ 19 ไร่ 3 งาน 69 ตารางวา ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทซึ่งมีที่ตั้งตามรูปแผนที่ครอบในระวางแผนที่ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินรังวัดเฉพาะส่วนที่โจทก์นำชี้ตามเส้นสีแดงเนื้อที่ 11 ไร่ 3 งาน 69 ตารางวา ซึ่งคิดเป็นจำนวนทุนทรัพย์ไม่เกิน 200,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคหนึ่ง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ทำแผนที่พิพาทเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 86 วรรคท้าย ซึ่งศาลสามารถสั่งได้เองโดยไม่ต้องมีฝ่ายใดร้องขอ แม้คู่ความจะมิได้ระบุพยานเพิ่มเติมศาลก็รับฟังพยานหลักฐานที่มีการสืบเพิ่มเติมนั้นได้ตามมาตรา 87 (2) ส่วนพยานหลักฐานนั้นจะมีน้ำหนักรับฟังได้เพียงใดเป็นเรื่องของการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน มิใช่เรื่องนอกประเด็นนอกคำฟ้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ทำแผนที่พิพาทเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 86 วรรคท้าย ซึ่งศาลสามารถสั่งได้เองโดยไม่ต้องมีฝ่ายใดร้องขอ แม้คู่ความจะมิได้ระบุพยานเพิ่มเติมศาลก็รับฟังพยานหลักฐานที่มีการสืบเพิ่มเติมนั้นได้ตามมาตรา 87 (2) ส่วนพยานหลักฐานนั้นจะมีน้ำหนักรับฟังได้เพียงใดเป็นเรื่องของการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน มิใช่เรื่องนอกประเด็นนอกคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังแผนที่พิพาทเป็นพยานหลักฐาน แม้ไม่ได้ระบุไว้ในบัญชีรายชื่อพยาน ศาลทำได้ตามประโยชน์แห่งความยุติธรรม
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ทำแผนที่พิพาทนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 86 วรรคท้าย ซึ่งบทมาตราดังกล่าวนี้ศาลสามารถสั่งได้เองโดยไม่ต้องมีฝ่ายใดร้องขอ แม้คู่ความจะมิได้ระบุพยานเพิ่มเติม ศาลก็สามารถรับฟังพยานหลักฐานที่มีการสืบเพิ่มเติมนั้นได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 87 (2) ส่วนพยานหลักฐานนั้นจะมีน้ำหนักรับฟังได้เพียงใดเป็นเรื่องของการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน หาใช่เรื่องนอกประเด็นนอกคำฟ้องไม่ แม้จำเลยและผู้ร้องสอดจะไม่ได้ลงชื่อรับรองแผนที่พิพาท แต่จำเลยและผู้ร้องสอดก็มิได้โต้แย้งว่าแผนที่ดังกล่าวไม่ถูกต้องหรือไม่ตรงกับระวางโฉนดที่ดินแต่อย่างไร ศาลจึงรับฟังแผนที่พิพาทซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินทำขึ้นดังกล่าวประกอบพยานหลักฐานอื่นได้