คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
แร่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 39 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342-2345/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบแร่ที่ขนโดยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาต: แร่ที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ถือเป็นแร่ที่ใช้ในการกระทำความผิด
แร่ของกลางเป็นแร่ที่ได้รับอนุญาตโดยถูกต้องตามกฎหมาย และทรัพยากรธรณีประจำท้องที่ก็ได้ออกใบอนุญาตขนแร่ให้จำเลยทำการขนได้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้วแต่จำเลยละเว้นไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาตขนแร่ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตขนแร่ต้องบันทึกการขนแร่พร้อมกับลงลายมือชื่อกำกับในใบอนุญาตขนแร่ทันทีที่ขนแร่ออกจากต้นทางความผิดของจำเลยจึงอยู่ที่มิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นเท่านั้น แร่ของกลางจึงไม่ใช่แร่ที่ได้มาได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ได้ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด อันพึงต้องริบตามนัยมาตรา 154 แห่งพระราชบัญญัติแร่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342-2345/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบแร่ที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย หากความผิดเกิดจากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาตขนแร่
แร่ของกลางเป็นแร่ที่ได้รับอนุญาตโดยถูกต้องตามกฎหมายและทรัพยากรธรณีประจำท้องที่ก็ได้ออกใบอนุญาตขนแร่ให้จำเลยทำการขนได้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้วแต่จำเลยละเว้นไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาตขนแร่ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตขนแร่ต้องบันทึกการขนแร่พร้อมกับลงลายมือชื่อกำกับในใบอนุญาตขนแร่ทันทีที่ขนแร่ออกจากต้นทางความผิดของจำเลยจึงอยู่ที่มิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นเท่านั้น แร่ของกลางจึงไม่ใช่แร่ที่ได้มาได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด อันพึงต้องริบตามนัยมาตรา 154 แห่งพระราชบัญญัติแร่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1102/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนแร่เกินปริมาณที่อนุญาต ถือว่าครอบครองและขนแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม พ.ร.บ.แร่
ขนแร่ดีบุกเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตเป็นจำนวนเกินกว่า ร้อยละห้า ถือว่าขนแร่ของกลางทั้งหมดโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 มาตรา 110 และถือได้ว่าเป็นการครอบครองแร่ดีบุกของกลางโดยไม่ได้รับอนุญาต ถึงแม้ว่าจำเลยไม่ใช่ผู้รับใบอนุญาตขนแร่แต่เมื่อจำเลยเป็นผู้ขนก็เท่ากับว่าจำเลยครอบครองแร่ดีบุกของกลางโดยไม่ได้รับอนุญาตและขนแร่ดีบุกดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาตนั่นเองจำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนแร่เกินปริมาณที่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการขนแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้รับใบอนุญาตต้องรับผิดชอบ
แม้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จ. จะได้รับใบอนุญาตขนแร่ของกลาง 100 กระสอบ แต่ยังมีแร่ที่ขนปริมาณเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตอีก 20 กระสอบ ซึ่งเป็นปริมาณเกินกว่าร้อยละห้าของแร่ที่ได้รับใบอนุญาตให้ขน ตามพระราชบัญญัติแร่ มาตรา 110 ให้ถือว่าแร่ที่ขนทั้งสิ้นเป็นแร่ที่ขนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และต้องริบตามมาตรา 154
พระราชบัญญัติแร่ มาตรา 10 ระบุว่า ในกรณีความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ ได้กระทำโดยตัวแทนหรือลูกจ้าง ให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น จึงเป็นบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดในการกระทำของผู้อื่นที่กฎหมายประสงค์จะให้ผู้รับใบอนุญาต รับผิดชอบในการกระทำของตัวแทนหรือลูกจ้างของตน โดยมิต้องอาศัยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 ดังนั้น แม้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จ. เจ้าของแร่ ผู้รับใบอนุญาตจะมิได้ร่วมรู้เห็นกับลูกจ้างในการขนแร่เกินกว่าที่ได้รับใบอนุญาต ก็ต้องถือว่าเป็นตัวการในการกระทำผิดฐานขนแร่โดยไม่ได้รับใบอนุญาต หาใช่เป็นผู้อื่นซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นในในการกระทำความผิดตามความหมายของมาตรา 154 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนแร่เกินปริมาณที่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.แร่ และต้องริบทั้งหมด แม้เจ้าของใบอนุญาตจะไม่มีส่วนรู้เห็น
แม้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จ. จะได้รับใบอนุญาตขนแร่ของกลาง 100 กระสอบ แต่ยังมีแร่ที่ขนปริมาณเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตอีก 20 กระสอบ ซึ่งเป็นปริมาณเกินกว่าร้อยละห้าของแร่ที่ได้รับใบอนุญาตให้ขน ตามพระราชบัญญัติแร่ มาตรา 110 ให้ถือว่าแร่ที่ขนทั้งสิ้นเป็นแร่ที่ขนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และต้องริบตามมาตรา 154
พระราชบัญญัติแร่ มาตรา 10 ระบุว่า ในกรณีความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ได้กระทำโดยตัวแทนหรือลูกจ้าง ให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น จึงเป็นบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดในการกระทำของผู้อื่นที่กฎหมายประสงค์จะให้ผู้รับใบอนุญาตรับผิดชอบในการกระทำของตัวแทนหรือลูกจ้างของตน โดยมิต้องอาศัยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 ดังนั้น แม้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จ. เจ้าของแร่ผู้รับใบอนุญาต จะมิได้ร่วมรู้เห็นกับลูกจ้างในการขนแร่เกินกว่าที่ได้รับใบอนุญาต ก็ต้องถือว่าเป็นตัวการในการกระทำผิดฐานขนแร่โดยไม่ได้รับใบอนุญาต หาใช่เป็นผู้อื่นซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดตามความหมายของมาตรา 154 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกกล่าวการผิดสัญญาและการเลิกสัญญาซื้อขายแร่: กำหนดเวลาชำระหนี้
จำเลยไม่เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิดให้โจทก์ส่งแร่ตามกำหนดในสัญญา แต่คู่กรณีไม่ถือกำหนดเวลาเคร่งครัดตามสัญญา เมื่อจำเลยไม่เปิดเครดิตสำหรับงวดต่อไปอีก โจทก์ต้องบอกกล่าวกำหนดเวลาให้ชำระหนี้ตาม มาตรา 387 ก่อน จึงจะเลิกสัญญาและเรียกค่าเสียหายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2140/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากผิดสัญญาซื้อขายแร่: คำนวณตามราคาตลาดจริงที่โจทก์ต้องซื้อทดแทน
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาขายแร่ฟลูโอสปาร์ให้โจทก์โดยตกลงส่งแร่ให้เป็นงวด ๆ รวม 12 งวด ถ้าไม่ปฏิบัติตามสัญญาเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย จำเลยที่ 1 ยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ จำเลยที่ 1จัดส่งแร่ให้โจทก์รวม 6 งวด แล้วผิดสัญญาไม่ส่งแร่ให้ครบตามสัญญานับแต่จำเลยที่ 1 ผิดสัญญา ราคาแร่ได้สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนจำเลยที่ 1 ไม่สามารถจัดซื้อส่งให้แก่โจทก์ได้ และโจทก์มีความจำเป็นต้องมีแร่สำรองไว้ใช้ทำแก้วไม่ให้ขาดมือเพราะจะเกิดความเสียหายขึ้น โจทก์จึงต้องซื้อแร่ในราคาแพงจากผู้อื่น แม้โจทก์จะซื้อแร่จากผู้อื่นต่างวัน ต่างเดือน ต่างจำนวน และต่างราคากัน แต่เมื่อโจทก์ซื้อตามราคาแร่ของท้องตลาด และตามความจำเป็นที่ต้องใช้ กับได้จ่ายเงินค่าซื้อแร่ดังกล่าวไปจริง ดังนี้ จำเลยที่ 1 จึงต้องใช้ค่าเสียหายฐานผิดสัญญาให้โจทก์เท่าราคาที่โจทก์ซื้อแพงขึ้นตามสัญญา จะคำนวณค่าเสียหายโดยถือเกณฑ์เฉลี่ยราคาแร่ที่โจทก์ซื้อจากผู้อื่นหาชอบไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายแร่: การชำระหนี้ไม่ตรงตามสัญญา, ค่าเสียหาย, และการหักเงินที่จ่ายทดรอง
(1) เมื่อจำเลยซึ่งมีหน้าที่ต้องส่งมอบทรัพย์สินให้ตรงตามคำพรรณาในสัญญาจะบังคับให้โจทก์ผู้ซื้อยอมรับชำระหนี้บางส่วนหาได้ไม่ และกรณีอย่างนี้ถือได้ว่าจำเลยไม่ชำระหนี้ตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้และโจทก์เรียกค่าเสียหายได้
(2) เรื่องจำนวนค่าเสียหาย เมื่อจำเลยไม่ได้อ้างว่าจำนวนที่ศาลล่างกำหนดมานั้นสูงเกินควรอย่างไร ย่อมไม่มีเหตุที่ศาลสูงจะแก้
(3) เมื่อเอาสารที่โจทก์อ้างยันอยู่ว่าของที่ซื้อนั้นจำเลยเป็นผู้ออกเงินเอง ส่วนโจทก์เป็นเพียงผู้ช่วยซื้อ เมื่อโจทก์สืบหักล้างไม่ได้ว่าโจทก์ได้ออกเงินแทนไป ก็ต้องหักเงินจำนวนค่าซื้อของนี้ออก
(4) เมื่อศาลชั้นต้นกล่าวในคำพิพากษาว่า น้ำหนักของของที่ส่งไปขายยังสับสนกันอยู่แม้โจทก์จะแถลงว่าได้ขายของนั้นได้เงินมาจำนวนหนึ่งแล้วก็ตาม แต่ในชั้นอุทธรณ์จำเลยก็มิได้คดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในเรื่องนี้ย่อมไม่มีประเด็นในชั้นศาลฎีกาที่จะวินิจฉัยเรื่องขายของในระหว่างคดี หากแต่ต้องว่ากล่าวกันอีกส่วนหนึ่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายแร่: การชำระหนี้ไม่ถูกต้องตามสัญญา, คุณภาพสินค้า, ค่าเสียหาย, และการหักเงินทดรอง
(1) เมื่อจำเลยซึ่งมีหน้าที่ต้องส่งมอบทรัพย์สินให้ตรงตามคำพรรณนา แม้จะส่งของทันเวลาแต่ไม่ตรงตามคำพรรณาในสัญญาจะบังคับให้โจทก์ผู้ซื้อยอมรับชำระหนี้บางส่วนหาได้ไม่และกรณีอย่างนี้ถือได้ว่าจำเลยไม่ชำระหนี้ตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้ และโจทก์เรียกค่าเสียหายได้
(2) เรื่องจำนวนค่าเสียหาย เมื่อจำเลยไม่ได้อ้างว่าจำนวนที่ศาลล่างกำหนดมานั้นสูงเกินควรอย่างไรย่อมไม่มีเหตุที่ศาลสูงจะแก้
(3) เมื่อเอกสารที่โจทก์อ้างยันอยู่ว่าของที่ซื้อนั้นจำเลยเป็นผู้ออกเงินเองส่วนโจทก์เป็นเพียงผู้ช่วยซื้อ เมื่อโจทก์สืบหักล้างไม่ได้ว่าโจทก์ได้ออกเงินแทนไป ก็ต้องหักเงินจำนวนค่าซื้อของนี้ออก
(4) เมื่อศาลชั้นต้นกล่าวในคำพิพากษาว่า น้ำหนักของของที่ส่งไปขายยังสับสนกันอยู่แม้โจทก์จะแถลงว่าได้ขายของนั้นได้เงินมาจำนวนหนึ่งแล้วก็ตาม แต่ในชั้นอุทธรณ์จำเลยก็มิได้คัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในเรื่องนี้ย่อมไม่มีประเด็นในชั้นศาลฎีกาที่จะวินิจฉัยเรื่องขายของในระหว่างคดี หากแต่ต้องว่ากล่าวกันอีกส่วนหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายแร่: การส่งมอบ, ข้อจำกัดการอ้างเหตุสุดวิสัย, และการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญา
การที่จำเลยทำสัญญาขายแร่ในนามของตนเอง ในสัญญามิได้ระบุว่าทำแทนใคร แม้จะมีตัวการตัวการก็ไม่เคยแสดงต่อผู้ซื้อมาก่อนว่าจำเลยทำแทน ดังนี้จำเลยต้องรับผิดตามสัญญา ตัวการหาอาจทำให้เสื่อมสิทธิของผู้ซื้อที่มีต่อจำเลย ฐานจำเลยผิดสัญญาได้ไม่
เมื่อข้อความในสัญญามิได้ระบุว่า จำเลยทำแทนผู้ใด ที่จำเลยนำสืบว่าทำในฐานะตัวแทน จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94
ข้อสัญญาที่ว่า ค่าส่งจากสถานีถึงโกดังผู้ซื้อ ผู้ขายต้องเสียเองนั้นหมายถึงว่า ผู้ขายต้องส่งมอบถึงโกดังผู้ซื้อ ไม่หมายเลยไปถึงว่า ผู้ขายจะต้องไปเอาแร่จากที่ใดที่หนึ่งมาส่ง ผู้ขายจึงอ้างเหตุสุดวิสัยว่าไม่สามารถขนส่งแร่จากที่หนึ่งมาแก้ตัวไม่ได้
การซื้อขายแร่แม้ผู้ซื้อขายไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติความผิดอยู่ที่ไม่ขออนุญาตกฎหมายมิได้ห้ามการซื้อขายแร่ทั้งสัญญาได้ทำในจังหวัดที่ยังมิได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ฯ 2474 สัญญานั้นไม่เป็นโมฆะ
of 4