พบผลลัพธ์ทั้งหมด 34 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1452/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นโทษทางอาญาเนื่องจากกฎหมายใหม่ให้โอกาสผู้กระทำผิดขออนุญาตหรือมอบอาวุธปืน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา มีประราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 บัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืน ฯลฯ นำไปขอรับอนุญาติหรือนำไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ได้ภายใน 90 วัน โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ ซึ่งเมื่อคดียังอยู่ในระหว่าง 90 วัน ก็ต้องถือว่าในระหว่างระยะเวลานี้กฎหมายได้ยกเว้นโทษให้แก่จำเลยแล้ว ศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้องโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีและการอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่ให้เลื่อนคดี ศาลต้องเปิดโอกาสให้คู่ความนำสืบพยาน
โจทก์ต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำและโจทก์จะติดต่อกับทนายหรือพยานก็ต้องอาศัยญาติเป็นผู้แทน วันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก ทนายโจทก์ไปธุระจังหวัดอื่นไม่มีกำหนดกลับ หลักฐานดำเนินคดีอยู่ที่ทนายและยังติดต่อกันไม่ได้ด้วย โจทก์จึงขอเลื่อนคดีไป 2 เดือนเพื่อหาทนายใหม่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เลื่อนไป 14 วัน วันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งที่ 2 ทนายใหม่ติดคดีที่ศาลอื่น จะมาดำเนินคดีให้โจทก์ได้ในวันที่ 1 เดือนต่อไป (อีก 16 วัน) และมีหนังสือของทนายส่งศาลเพื่อเป็นการยืนยันคำแถลงประกอบกับโจทก์ประสงค์จะให้ทนายซักถามพยานให้ดังนี้ เห็นว่าโจทก์ขอเลื่อนคดีไปด้วยความจำเป็นมีเหตุผลสมควรมิได้ประวิงคดี จึงอนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานโจทก์ได้
คดีที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีพยานสืบ จึงพิพากษายกฟ้องนั้น คำสั่งที่ไม่ให้เลื่อนคดีนี้ ศาลหาได้มีโอกาสฟังคำพยานหลักฐานข้อเท็จจริงแห่งคดีนั้น เช่นนี้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2503 มาตรา 10 หาได้กำหนดห้ามไว้ไม่ คู่ความจึงอุทธรณ์ได้
คดีที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีพยานสืบ จึงพิพากษายกฟ้องนั้น คำสั่งที่ไม่ให้เลื่อนคดีนี้ ศาลหาได้มีโอกาสฟังคำพยานหลักฐานข้อเท็จจริงแห่งคดีนั้น เช่นนี้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2503 มาตรา 10 หาได้กำหนดห้ามไว้ไม่ คู่ความจึงอุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดทรัพย์: ศาลต้องเปิดโอกาสให้คู่ความยื่นคำให้การแก้คำร้องก่อนปฏิเสธ
ผู้ร้องยื่นคำร้องขัดทรัพย์ ศาลสั่งส่งสำเนาให้โจทก์จำเลยและเจ้าพนักงานบังคับคดี และนัดพร้อม ครั้นถึงวันนัดพร้อม คู่ความไม่มีทางตกลงกันได้ ศาลนัดสืบพยานผู้ร้อง ในวันนัดพร้อมนั้นเอง หลังแต่ทำการนัดพร้อมแล้ว โจทก์ ยื่นคำให้การแก้คำร้องข้อทรัพย์ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำให้การของโจทก์ เช่นนี้ เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา เพราะตาม ป.วิ.พ. มาตรา 288 บัญญัติให้ศาลพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเหมือนอย่างคดี ธรรมดา ย่อมหมายความว่า เมื่อผู้ร้องขัดทรัพย์ได้ยื่นคำร้องขอแล้ว ศาลชั้นต้นชอบที่จะออกหมายเรียกให้โจทก์ยื่นคำให้การแก้คำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้อง แต่เรื่องนี้ศาลชั้นต้นมิได้ส่งหมายเรียกหรือกำหนดเวลาให้โจทก์ยื่นคำให้การแก้คำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้อง จึงไม่มีเหตุที่จะปฏิเสธได้รับคำให้การแก้คดีของโจทก์ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดทรัพย์: ศาลต้องเปิดโอกาสให้คู่ความยื่นคำให้การแก้คำร้อง มิฉะนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
ผู้ร้องยื่นคำร้องขัดทรัพย์ ศาลสั่งส่งสำเนาให้โจทก์จำเลยและเจ้าพนักงานบังคับคดี และนัดพร้อม ครั้นถึงวันนัดพร้อม คู่ความไม่มีทางตกลงกันได้ ศาลนัดสืบพยานผู้ร้อง ในวันนัดพร้อมนั้นเองหลังแต่ทำการนัดพร้อมแล้วโจทก์ยื่นคำให้การแก้คำร้องขัดทรัพย์ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำให้การของโจทก์ เช่นนี้ เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาเพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 บัญญัติให้ศาลพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเหมือนอย่างคดีธรรมดาย่อมหมายความว่าเมื่อผู้ร้องขัดทรัพย์ได้ยื่นคำร้องขอแล้ว ศาลชั้นต้นชอบที่จะออกหมายเรียกให้โจทก์ยื่นคำให้การแก้คำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้อง แต่เรื่องนี้ศาลชั้นต้นมิได้ส่งหมายเรียกหรือกำหนดเวลาให้โจทก์ยื่นคำให้การแก้คำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้อง จึงไม่มีเหตุที่จะปฏิเสธไม่รับคำให้การแก้คดีของโจทก์ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาและการเลื่อนนัดเมื่อผู้ร้องป่วย ศาลต้องพิจารณาเหตุผลและไม่ตัดโอกาสผู้ร้อง
ผู้ร้องตั้งผู้รับมอบอำนาจมาขอถอนคำร้องไม่ดำเนินคดีต่อไปได้อ้างเหตุว่าผู้ร้องป่วยมาศาลไม่ได้ ผู้คัดค้านก็มิได้โต้แย้งคัดค้านประการใด เช่นนี้ จะถือว่าผู้ร้องขาดนัดพิจารณาตาม ม.201 ไม่ได้ และอาศัย ม.39 ศาลจะให้เลื่อนการพิจารณาไปก็ได้
ผู้ร้องมิได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้น เพราะศาลชั้นต้นได้สั่งห้ามไม่ยอมรับคำร้อง คำแถลงใด ๆ ของผู้ร้อง จนทำให้ผู้ร้องไม่โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นไม่เป็นการต้องห้ามมิให้ผู้ร้องยกขึ้นเป็นข้ออุทธรณ์
(อ้างฎีกาที่ 1587/2494 และ297/2497)
ผู้ร้องมิได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้น เพราะศาลชั้นต้นได้สั่งห้ามไม่ยอมรับคำร้อง คำแถลงใด ๆ ของผู้ร้อง จนทำให้ผู้ร้องไม่โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นไม่เป็นการต้องห้ามมิให้ผู้ร้องยกขึ้นเป็นข้ออุทธรณ์
(อ้างฎีกาที่ 1587/2494 และ297/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งระหว่างพิจารณาที่จำกัดสิทธิในการโต้แย้ง หากศาลไม่ได้ให้โอกาสคู่ความในการโต้แย้งอย่างเพียงพอ
คำสั่งระหว่างพิจารณาตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 226 นั้น คู่ความจะต้องโต้แย้งคำสั่งนั้นไว้เสียก่อน จึงจะอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้ในภายหลัง แต่ศาลจำจะต้องให้คู่ความมีโอกาศและมีเวลาพอสมควรที่จะโต้แย้งคำสั่งนั้นได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ และสั่งให้งดสืบพยานจำเลยเสียด้วย แล้วนัดฟังคำพิพากษาเลยในวันนั้นเอง ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์ไม่มีเวลาที่จะโต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นได้ แม้โจทก์จะมิได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบไว้ โจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ต่อไปได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ และสั่งให้งดสืบพยานจำเลยเสียด้วย แล้วนัดฟังคำพิพากษาเลยในวันนั้นเอง ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์ไม่มีเวลาที่จะโต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นได้ แม้โจทก์จะมิได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบไว้ โจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดี: เหตุผลที่สมควรและโอกาสในการสืบพยาน
ศาลกำหนดเวลานัดสืบพยานโจทก์ไว้เวลา 9.00 น. จนถึงเวลา 9.35 น. โจทก์และทนายก็ยังไม่มาศาล จำเลยขอให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ศาลจึงสั่งให้โจทก์ขาดนัดพิจารณาต่อมา 9.45 น. โจทก์และทนายกับพยานก็มาศาล แล้วยื่นคำร้องแสดงถึงเหตุจำเป็นที่ต้องมาศาลล่าช้ากว่ากำหนดและมีพยานมาพร้อมที่จะให้ศาลสืบได้ เช่นนี้ จะฟังว่า โจทก์จงใจขาดนัดยังไม่ถนัด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ส่งเอกสารหลักฐานต่อศาลแม้มีโอกาส ทำให้ศาลถือว่าไม่มีเอกสารนั้น
จำเลยแถลงต่อศาลว่าจะอ้างเอกสารเป็นพะยานต่อศาลใน 10 วัน ครั้นถึงกำหนดขอผัดส่งต่อไปอีก 10 วันศาลอนุญาตครั้นถึงกำหนดนัด จำเลยไม่ส่งเอกสารต่อศาลและจำเลยและทนาย จำเลยไม่มาศาลในวันนัด ดังนี้ถือว่าจำเลยไม่มีเอกสารเป็นพะยาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้คำให้การชั้นสอบสวนลงโทษจำเลยต้องให้โอกาสซักค้านพยานหลักฐานอื่นไม่เพียงพอ
โจทก์มีเจ้าของทรัพย์คนเดียวที่รู้เห็นว่า ใครเป็นคนร้ายชิงทรัพย์ แต่โจทก์อ้างมาสืบไม่ได้ จะใช้คำให้การชั้นสิบสวนมาฟังลงโทษจำเลยไม่ได้ เพราะจำเลยไม่มีโอกาสซักค้าน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานหลักฐานข้ามภาษา: ศาลควรเปิดโอกาสให้มีการแปลความหมายเพื่อความถูกต้อง
ในคดีอาญาที่ประจักษ์พยานเบิกความถึงวันเดือนปีข้างจีนเมื่อศาลไม่เข้าใจ ก็ควรจะให้ผู้อ้างนำล่ามหรือผู้รู้มาอธิบาย ไม่ควรยกฟ้องเสียทีเดียว