คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
โอนคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 40 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนคดีอาญา: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าต้องใช้บทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยเฉพาะ แม้จะมีความเกี่ยวข้องกัน
โจทก์ฟ้องต่อศาลจังหวัดปัตตานีขอให้ลงโทษจำเลยฐานหมิ่นประมาทจำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้รวมการพิจารณาคดีที่โจทก์ฟ้องเข้ากับคดีที่โจทก์อีกคนหนึ่งฟ้องจำเลยที่ศาลแขวงพระนครเหนือ โดยขอให้โอนคดีไปพิจารณาพิพากษาที่ศาลแขวงพระนครเหนือ แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต เช่นนี้จำเลยหาอาจยื่นคำร้องขอให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ชี้ขาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 6,8ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ได้ไม่เพราะคดีอาญานั้นมีประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 23,26บัญญัติเรื่องการโอนคดีไว้โดยเฉพาะแล้ว จึงไม่อาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตราดังกล่าวมาปรับแก่กรณีของจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1977/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับสิทธิฟ้องคดีอาญาเนื่องจากมีคำพิพากษาถึงที่สุดในความผิดเดียวกัน และประเด็นการโอนคดีที่ยุติแล้ว
ภรรยาผู้ตายเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยฐานฆ่าสามีตายโดยเจตนาซึ่งศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องไว้แล้ว ในระหว่างดำเนินกระบวนพิจารณาคดีโจทก์ ผู้ว่าคดีได้ยื่นฟ้องจำเลยฐานทำร้ายร่างกายสามีโจทก์ในมูลกรณีเดียวกัน ศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด เช่นนี้ สิทธิของโจทก์ที่ได้ฟ้องคดีไว้แล้วย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
โจทก์ยื่นคำร้องขอโอนคดีจากศาลหนึ่งไปยังอีกศาลหนึ่ง.ศาลมีคำสั่งว่าไม่มีอำนาจ ให้ยกคำร้องโจทก์ โจทก์มิได้โต้แย้งคัดค้านอย่างใด แม้ในชั้นศาลอุทธรณ์ โจทก์ก็มิได้ยกเรื่องการโอนคดีขึ้นว่ากล่าวคัดค้าน จึงทำให้ประเด็นข้อนี้ยุติ โจทก์จะกล่าวอ้างขึ้นใหม่ในชั้นฎีกาอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1977/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับสิทธิฟ้องคดีอาญาเนื่องจากมีคำพิพากษาถึงที่สุดในความผิดเดียวกัน และประเด็นการโอนคดีที่ยุติแล้ว
ภรรยาผู้ตายเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยฐานฆ่าสามีตายโดยเจตนาซึ่งศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องไว้แล้ว ในระหว่างดำเนินกระบวนพิจารณาคดีโจทก์ ผู้ว่าคดีได้ยื่นฟ้องจำเลยฐานทำร้ายร่างกายสามีโจทก์ในมูลกรณีเดียวกัน ศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด เช่นนี้ สิทธิของโจทก์ที่ได้ฟ้องคดีไว้แล้วย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
โจทก์ยื่นคำร้องขอโอนคดีจากศาลหนึ่งไปยังอีกศาลหนึ่งศาลมีคำสั่งว่าไม่มีอำนาจ ให้ยกคำร้องโจทก์ โจทก์มิได้โต้แย้งคัดค้านอย่างใด แม้ในชั้นศาลอุทธรณ์ โจทก์ก็มิได้ยกเรื่องการโอนคดีขึ้นว่ากล่าวคัดค้าน จึงทำให้ประเด็นข้อนี้ยุติ โจทก์จะกล่าวอ้างขึ้นใหม่ในชั้นฎีกาอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1977/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับสิทธิฟ้องคดีอาญาเนื่องจากมีคำพิพากษาถึงที่สุดในความผิดเดียวกัน และประเด็นการโอนคดีที่ยุติแล้ว
ภรรยาผู้ตายเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยฐานฆ่าสามีตายโดยเจตนาซึ่งศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องไว้แล้ว. ในระหว่างดำเนินกระบวนพิจารณาคดีโจทก์ ผู้ว่าคดีได้ยื่นฟ้องจำเลยฐานทำร้ายร่างกายสามีโจทก์ในมูลกรณีเดียวกัน. ศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด. เช่นนี้ สิทธิของโจทก์ที่ได้ฟ้องคดีไว้แล้วย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4).
โจทก์ยื่นคำร้องขอโอนคดีจากศาลหนึ่งไปยังอีกศาลหนึ่ง.ศาลมีคำสั่งว่าไม่มีอำนาจ ให้ยกคำร้องโจทก์. โจทก์มิได้โต้แย้งคัดค้านอย่างใด แม้ในชั้นศาลอุทธรณ์ โจทก์ก็มิได้ยกเรื่องการโอนคดีขึ้นว่ากล่าวคัดค้าน จึงทำให้ประเด็นข้อนี้ยุติ. โจทก์จะกล่าวอ้างขึ้นใหม่ในชั้นฎีกาอีกไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนคดีระหว่างศาล: ดุลพินิจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.23 และเหตุผลแห่งการโอน
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 23 วรรค 2 นั้นการโอนคดีไปชำระยังศาลอื่น กฎหมายให้ศาลใช้ดุลพินิจสั่งตามสมควรแก่พฤติการณ์แห่งคดี และเหตุผลเป็นเรื่อง ๆ ไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจโอนคดีระหว่างศาล: ดุลพินิจตามมาตรา 23 ว.พ.พ. และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 23 วรรคสองนั้น
การโอนคดีไปชำระยังศาลอื่น กฎหมายให้ศาลใช้ดุลพินิจสั่งตามสมควรแก่พฤติการณ์แห่งคดี และเหตุผลเป็นเรื่องๆ ไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งโอนคดีระหว่างศาลทหารและศาลจังหวัด: คำสั่งระหว่างพิจารณาไม่อุทธรณ์ได้
ศาลมณฑลทหารที่ 5 (เพ็ชร์บุรี) สั่งโอนคดีที่มาเป็นของศาลจังหวัดเพ็ชร์บุรีอัยยการเพ็ชร์บุรียื่นคำร้องคัดค้านว่าคดีนี้มีทหารประจำการกระทำร่วมด้วยคดีอยู่ในอำนาจศาลทหาร ขอให้โอนคดีให้ศาลมณฑลทหารที่ 5 ศาลเพ็ชร์บุรีสั่งยกคำร้องโจท จะอุทธรณ์คำสั่งนี้ไม่ได้ เพราะเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ต้องห้ามอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาล: การโอนคดีจากศาลทหารไปศาลพลเรือน และข้อจำกัดในการอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา
ศาลมณฑลทหารที่ 5 เพชรบุรี สั่งโอนคดีมาเป็นคดีของศาลจังหวัดเพชรบุรีอัยการเพชรบุรียื่นคำร้องคัดค้านว่าคดีนี้มีทหารประจำการกระทำผิดร่วมด้วย คดีอยู่ในอำนาจศาลทหาร ขอให้โอนคดีให้ศาลมณฑลทหารที่ 5ศาลเพชรบุรีสั่งยกคำร้อง โจทก์จะอุทธรณ์คำสั่งนี้ไม่ได้ เพราะเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ต้องห้ามอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418-419/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนคดีจากศาลทหารสู่ศาลพลเรือนตาม พ.ร.บ.กฎอัยยการศึก และการพิจารณาโทษที่ชอบด้วยกฎหมาย
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และให้ลงโทษจำคุกจำเลย 2 กะทง ๆ ละ 5 ปี รวมเป็น 10 ปีเมื่อโทษที่ลงแก่จำเลยแต่ละกะทงไม่เกิน 5 ปี แล้วจำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงตลอดทั้งฎีกาในเรื่องใช้ดุลยพินิจกำหนดโทษไม่ได้ ต้องห้ามตาม วิ.อาญา ม.218
อ้างฎีกาที่ 76/2484
คดีของศาลทหารที่โอนมาพิจารณาพิพากษายังศาลพลเรือน ตาม พ.ร.บ.กฎอัยยการศึก (ฉะบับที่ 3 ) พ.ศ. 2487 ม.8 แล้ว การพิจารณาพิพากษาคดีนั้นยังศาลทหารและการพิจารณาพิพากษาคดีนั้นยังศาลพลเรือนย่อมเป็นการชอบด้วยกฎหมายโดยตลอด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20053/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีทรัพย์สินทางปัญญา: ผลของการโอนคดีระหว่างศาล และการนับอายุความจากคำสั่งจำหน่ายคดี
ประธานศาลฎีกามีคำวินิจฉัยว่าคดีอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ศาลแพ่งจึงมีคำสั่งโอนคดีไปยังศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2550 แม้จะมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีจากสารบบความศาลแพ่งด้วยก็ตาม แต่เมื่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยังมิได้มีคำสั่งรับโอนคดี ถือว่าคดีอยู่ระหว่างการโอนจึงยังไม่เสร็จเด็ดขาดไปจากศาลแพ่ง และคำสั่งให้โอนคดีของศาลแพ่งถือไม่ได้ว่าเป็นคำสั่งไม่รับหรือคืนคำฟ้อง แต่เมื่อศาลแพ่งมีคำสั่งจำหน่ายคดีจากสารบบความศาลแพ่งและให้โจทก์ไปดำเนินคดีที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2550 ทำให้คดีเสร็จเด็ดขาดไปจากศาลแพ่ง มีผลเท่ากับเป็นคำสั่งไม่รับหรือคืนคำฟ้องเพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจศาลแพ่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/17 วรรคสอง โจทก์ฟ้องคดีนี้ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2550 ยังไม่เกิน 60 วัน นับแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2550 ฟ้องโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ
of 4