คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อตกลง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,178 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3003/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รายงานประจำวันคดีใช้เป็นหลักฐานการกู้ยืมได้ หากมีลายมือชื่อผู้ยืมและระบุข้อตกลงชัดเจน
โจทก์กับจำเลยเป็นคู่รักกันต่อมาโจทก์กับจำเลยทะเลาะกันและจำเลยตบหน้าโจทก์โจทก์จึงไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนซึ่งได้เปรียบเทียบปรับจำเลยตามสำเนารายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีซึ่งได้บันทึกเกี่ยวกับคดีอาญาแล้วยังได้บันทึกว่าจำเลยได้ขอยืมเงินของโจทก์และจำเลยสัญญาจะชดใช้เงินคืนแก่โจทก์ทั้งจำเลยได้ลงลายมือชื่อไว้ข้างท้ายบันทึกนั้นด้วยแล้วกรณีถือได้ว่ารายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีดังกล่าวเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินซึ่งโจทก์สามารถใช้เป็นหลักฐานฟ้องร้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2603/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงซื้อขายที่ดินด้วยการวางมัดจำ: ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อ และจำเลยมีสิทธิเปลี่ยนแปลงราคาได้
ป.วิ.พ.มาตรา 94 ห้ามคู่ความนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารเฉพาะเมื่อมีกฎหมายบังคับว่าต้องมีพยานเอกสารมาแสดงเท่านั้น แต่ข้อตกลงจะซื้อจะขายที่ดินโดยมีการวางมัดจำไว้บางส่วนแล้ว ข้อตกลงดังกล่าวย่อมมีผลบังคับคดีกันได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 456 วรรคสอง โดยไม่ต้องการหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ ข้อตกลงจะซื้อจะขายดังกล่าวไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง จำเลยมีสิทธินำสืบถึงราคาที่จะซื้อจะขายที่ดินกันตามความเป็นจริงได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2527/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงอนุญาโตตุลาการ: สิทธิฟ้องคดีต่อศาลยังคงมีอยู่
ใบตราส่งมีข้อความระบุแต่เพียงว่า ข้อพิพาทใด ๆ ตามใบตราส่งฉบับนี้คู่กรณีต้องผูกพันตนตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเท่านั้น ไม่มีข้อความบังคับว่าคู่กรณีจำต้องมอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาดก่อนจึงจะฟ้องคดีต่อศาลได้ กรณียังถือไม่ได้ว่าข้อพิพาทที่เกิดขึ้นตามใบตราส่งนั้นจะต้องมีการชี้ขาดตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการก่อนจึงจะฟ้องคดีต่อศาลได้ ฟ้องของโจทก์ไม่ต้องห้ามตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2530 มาตรา 10 โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2527/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงอนุญาโตตุลาการในใบตราส่ง ไม่ผูกมัดให้ต้องเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการก่อนฟ้องคดี
ตามใบตราส่งระบุแต่เพียงว่าข้อพิพาทใด ๆ ตามใบตราส่ง คู่กรณีต้องผูกพันตนตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการไม่มีข้อความบังคับว่าคู่กรณีจำต้องมอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาดก่อนจึงจะฟ้องคดีต่อศาลได้ฟ้องของโจทก์ไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการพ.ศ. 2530 มาตรา 10 โจทก์จึงมีสิทธินำคดีมาฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2527/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงอนุญาโตตุลาการในใบตราส่ง ไม่ผูกพันให้ต้องเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตฯ ก่อนฟ้องคดี
ตามใบตราส่งระบุแต่เพียงว่าข้อพิพาทใดๆตามใบตราส่งคู่กรณีต้องผูกพันตนตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการไม่มีข้อความบังคับว่าคู่กรณีจำต้องมอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาดก่อนจึงจะฟ้องคดีต่อศาลได้ฟ้องของโจทก์ไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการพ.ศ.2530มาตรา10โจทก์จึงมีสิทธินำคดีมาฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2511/2538 เวอร์ชัน 5 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารต้องรับผิดต่อเช็คปลอมหากประมาทเลินเล่อ แม้มีข้อตกลงยกเว้นความรับผิด
มีผู้ลักเช็คของโจทก์ไปปลอมลายมือชื่อโจทก์ 2 ฉบับ สั่งจ่ายเงิน 54,000 บาท และ 240,000 บาท ตามลำดับ แล้วนำไปเบิกเงินจากธนาคารจำเลย สาขากาญจนบุรี ซึ่งโจทก์มีบัญชีกระแสรายวันอยู่ ช. เป็นผู้ช่วย-ผู้จัดการสาขา และ ป. เป็นสมุห์บัญชีของธนาคารจำเลย มีหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจลายมือชื่อของลูกค้าโดยตรงอยู่ตลอดเวลา ย่อมมีความชำนาญในการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อของลูกค้ามากกว่าคนธรรมดา หากได้ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยละเอียดรอบคอบ จะต้องทราบว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายในเช็คเป็นลายมือปลอม แต่ ช. และ ป. ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังให้เพียงพอ จึงเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์
แม้โจทก์กับจำเลยมีข้อตกลงกันไว้ตามข้อความในคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวัน ในข้อ 20 ว่า หากผู้ฝากละเลยหรือประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้บุคคลอื่นได้เช็คไปปลอมลายมือชื่อของผู้สั่งจ่าย และธนาคารหลงเชื่อจ่ายเงินตามเช็คปลอมนั้น ๆ ไป ธนาคารไม่ต้องรับผิดชอบต่อผู้ฝากสำหรับเงินจำนวนที่จ่ายไปนั้นก็ตาม แต่ข้อตกลงดังกล่าวจำเลยจะยกขึ้นอ้างได้ก็ต่อเมื่อจำเลยได้จ่ายเงินตามเช็คที่มีผู้ปลอมลายมือของผู้สั่งจ่ายโดยสุจริตและใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่กรณีแล้ว จำเลยจะอ้างเอาข้อตกลงดังกล่าวมาเป็นข้อยกเว้นว่าโจทก์ตกอยู่ในฐานเป็นผู้ต้องตัดบทมิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอมขึ้นเป็นข้อต่อสู้ตามประมวล-กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1008 วรรคแรก ตอนท้าย หาได้ไม่
หนี้อันเกิดจากการละเมิดที่จะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ฝ่ายผู้เสียหายมากน้อยเพียงใดนั้นต้องอาศัยพฤติการณ์เป็นประมาณ โดยถือความเสียหายที่เกิดขึ้นว่าฝ่ายใดเป็นผู้ก่อยิ่งหย่อนกว่ากันเพียงไร แม้จำเลยจะมิได้ให้การต่อสู้ไว้ว่าโจทก์จะต้องร่วมรับผิดด้วยก็ตาม เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์และจำเลยต่างประมาทเลินเล่อด้วยกัน ศาลย่อมกำหนดให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ลดลงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงราคาซื้อขายที่ดินตามข้อตกลงนอกสัญญา ไม่ขัดต่อ ป.วิ.พ.มาตรา 94(ข)
ตามสัญญาซื้อขายที่ดินท้ายเอกสารหมาย ล.5 ระบุราคาที่ซื้อขายกันเพียง 3,000,000 บาท ทั้งที่ราคาที่ซื้อขายกันจริงตามที่คู่ความรับกันว่ามีราคา9,500,000 บาท ตามสัญญาจะซื้อขายเอกสารหมาย จ.4 ดังนั้น แม้สัญญาซื้อขายท้ายเอกสารหมาย ล.5 จะมีข้อความว่า ผู้ซื้อได้ชำระและผู้ขายได้รับเงินค่าที่ดินรายนี้เรียบร้อยแล้ว การที่โจทก์นำสืบว่ายังได้รับชำระค่าที่ดินไม่ครบถ้วน ก็หาเป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญาซื้อขายที่ดินท้ายเอกสารหมาย ล.5 เพราะคู่ความได้รับกันแล้วว่าซื้อขายกันจริงในราคา 9,500,000 บาท ไม่ใช่ตามราคาที่ระบุในสัญญาดังกล่าว การนำสืบว่ายังได้รับค่าที่ดินไม่ครบถ้วนตามราคาที่แท้จริงตามที่รับกัน จึงไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ.มาตรา 94 (ข)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2166/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงแลกเปลี่ยนเช็ค: ผลกระทบต่อสิทธิฟ้องคดีอาญา
การที่ผู้เสียหายยอมรับเช็คจำนวน 25 ฉบับ เป็นการแลกเปลี่ยนกับเช็คพิพาท โดยยอมคืนเช็คพิพาทแก่จำเลยที่ 1 แต่ยังไม่อาจคืนให้ในขณะรับเช็ค25 ฉบับ และผู้เสียหายนำเช็คบางฉบับของจำนวน 25 ฉบับ ไปเรียกเก็บเงินแล้วแสดงว่าผู้เสียหายตกลงเข้าถือสิทธิตามเช็คดังกล่าวและสละสิทธิหรือไม่ยึดถือสิทธิใด ๆ ที่มีอยู่ในเช็คพิพาทอีกต่อไป รวมทั้งสิทธิที่จะดำเนินคดีอาญาเอากับจำเลยที่ 2ซึ่งเป็นผู้ออกเช็คด้วย ข้อตกลงแลกเปลี่ยนเช็คดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการยอมความกัน ทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องสำหรับเช็คพิพาทระงับไป ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2)
การที่ผู้เสียหายไม่ได้รับเงินตามเช็คจำนวน 25 ฉบับ ตามข้อตกลงแลกเปลี่ยนเช็ค ไม่ทำให้สิทธิดำเนินคดีอาญาในเช็คพิพาทซึ่งระงับไปแล้วเปลี่ยนแปลงไป เพราะผู้เสียหายสามารถที่จะดำเนินคดีแก่ผู้ออกเช็คจำนวน 25 ฉบับ เป็นคดีใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความประกาศประกวดราคาและข้อจำกัดสิทธิในการเลือกซื้อสินค้าของผู้เสนอราคา
ข้อความในหนังสือประกาศประกวดราคาระบุว่า ผู้ซื้อไม่ผูกพันที่จะตัดสินเข้าทำสัญญาซื้อขายกับผู้เสนอราคาต่ำสุด การเสนอราคาเพียงบางส่วนของหนึ่งรายการจะไม่ได้รับการพิจารณา การเสนอราคาจะพิจารณาตัดสินจากหลักว่าเป็นไปตามสเปค ราคา กำหนดการส่งของและความต้องการอื่น ๆ ไม่มีข้อความตอนใดระบุว่า โจทก์มีสิทธิเลือกซื้อสินค้าเพียงบางรายการ ข้อความในประกาศดังกล่าวเขียนไว้ชัดเจน จึงไม่มีกรณีที่จะต้องตีความ และหากเป็นกรณีที่มีข้อสงสัยก็จะต้องตีความข้อความในประกาศประกวดราคาไปในทางที่เป็นคุณแก่จำเลยคู่กรณีฝ่ายซึ่งจะเป็นผู้ต้องเสียในมูลหนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 11
คำฟ้องของโจทก์ โจทก์ยกข้ออ้างอันเป็นหลักแห่งข้อหาเพียงข้อเดียวว่า จำเลยผิดสัญญาตามประกาศประกวดราคา มิได้ยกข้ออ้างตามที่โจทก์ฎีกาว่า โจทก์และจำเลยเคยตกลงทำสัญญาซื้อขายกันตามประกาศประกวดราคาดังกล่าวมาแล้วโดยจำเลยยอมรับว่าโจทก์มีสิทธิเลือกซื้อสินค้าจากจำเลยเพียงบางรายการได้ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามมิให้โจทก์ฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงนอกเหนือจากมาตรา 733 และอายุความบังคับคดี ความรับผิดของผู้ค้ำประกัน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา733ไม่ใช่บทบัญญัติแห่งกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนผู้จำนองอาจตกลงกับผู้รับจำนองเป็นประการอื่นได้ แม้ว่าจะมีข้อตกลงต่อท้ายสัญญาจำนองยกเว้นบทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา733ก็ตามแต่หนี้ที่ น.ลูกหนี้ค้างชำระแก่โจทก์หลังจากบังคับคดีแล้วเป็นเวลากว่า10ปีนับแต่วันพิพากษาในคดีที่โจทก์ฟ้อง น. โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะบังคับเอากับ น. อีกต่อไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา271จำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา698แต่ยังคงต้องรับผิดตามทรัพย์จำนอง
of 118