พบผลลัพธ์ทั้งหมด 443 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 805/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลคดีขายฝาก: คำนวณจากทุนทรัพย์เต็มจำนวน ไม่ใช่ยอดค้างชำระ แม้มีการอุทธรณ์คำสั่ง
โจทก์ฟ้องว่าขายฝากที่ดินไว้กับจำเลยเป็นเงิน 800,000 บาท โจทก์ชำระค่าไถ่ถอนแล้ว 400,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยรับสิทธิไถ่ถอนที่ดินที่ขายฝากจากโจทก์ แล้วจดทะเบียนโอนที่ดินคืนให้โจทก์ จำเลยให้การว่าไม่เคยรับเงินจำนวนดังกล่าว โจทก์ไม่ไถ่ถอนที่ดินภายในกำหนด ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยแล้ว ดังนี้ เป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ที่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ตามราคาที่ดินที่พิพาท ต้องเสียค่าขึ้นศาลในจำนวนทุนทรัพย์ตามราคาที่ดินพิพาท 800,000 บาทไม่ใช่ 400,000 บาท ตามที่อ้างว่าค้างชำระ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลภายใน 7 วัน ต่อมาได้ขยายระยะเวลาให้อีก 15 วัน ก่อนครบกำหนดโจทก์ขอขยายระยะเวลาไปอีก 30 วัน อ้างเหตุว่าได้อุทธรณ์คำสั่งศาลที่ให้โจทก์ชำระค่าขึ้นศาลแล้วในวันเดียวกับที่ยื่นคำร้อง เหตุผลในคำร้องขอขยายระยะเวลาของโจทก์ ดังนี้ เมื่อศาลมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษที่จะให้ศาลสั่งขยายระยะเวลาชำระเงินค่าขึ้นศาลให้โจทก์ได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลภายใน 7 วัน ต่อมาได้ขยายระยะเวลาให้อีก 15 วัน ก่อนครบกำหนดโจทก์ขอขยายระยะเวลาไปอีก 30 วัน อ้างเหตุว่าได้อุทธรณ์คำสั่งศาลที่ให้โจทก์ชำระค่าขึ้นศาลแล้วในวันเดียวกับที่ยื่นคำร้อง เหตุผลในคำร้องขอขยายระยะเวลาของโจทก์ ดังนี้ เมื่อศาลมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษที่จะให้ศาลสั่งขยายระยะเวลาชำระเงินค่าขึ้นศาลให้โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 704/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มเติม ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดีและไม่คืนค่าธรรมเนียม
โจทก์ทราบคำสั่งของศาลแล้วโจทก์เพิกเฉยไม่ชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มตามที่ศาลกำหนด ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(2)
การทิ้งฟ้องนั้นไม่มีกฎหมายบัญญัติให้คืนค่าขึ้นศาลให้แก่โจทก์ เหมือนอย่างกรณีที่ศาลไม่รับคำฟ้อง หรือถอนฟ้อง หรือยอมความกัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151
การทิ้งฟ้องนั้นไม่มีกฎหมายบัญญัติให้คืนค่าขึ้นศาลให้แก่โจทก์ เหมือนอย่างกรณีที่ศาลไม่รับคำฟ้อง หรือถอนฟ้อง หรือยอมความกัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลกรณีบังคับจำนองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 คำร้องมีทุนทรัพย์ต้องเสียค่าขึ้นศาล
ผู้ร้องเป็นผู้รับจำนองที่ดินของจำเลย ซึ่งโจทก์นำยึดไว้ในอีกคดีหนึ่งเพื่อขายทอดตลาด และผู้ร้องขอให้ขายที่ดินนั้นโดยวิธีปลดจำนองแล้วให้นำเงินที่ขายทอดตลาดได้มาชำระหนี้จำนองก่อน ย่อมเป็นคำฟ้องที่ขอให้บังคับจำนองโดยอาศัยบุริมสิทธิของเจ้าหนี้ผู้รับจำนองด้วยวิธีการเป็นพิเศษตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 เป็นผลให้ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นโดยปลดจำนอง คำร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง ตามตาราง 1 ข้อ 1 ค. ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3448/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลไม่ถูกต้องและทิ้งฟ้อง คดีพินัยกรรม
โจทก์ฟ้องขอให้ทำลายพินัยกรรม อันเป็นการเรียกร้องให้ทรัพย์ตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมคืนมาเป็นทรัพย์มรดกเพื่อประโยชน์แก่โจทก์ผู้เป็นทายาท จึงเป็นคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรม แต่โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาอย่างคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ซึ่งไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาได้สั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่ม แต่โจทก์ไม่จัดการเสียเพิ่มภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา174 (2) ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3448/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลไม่ถูกต้องและทิ้งฟ้อง ทำให้จำหน่ายคดี
โจทก์ฟ้องขอให้ทำลายพินัยกรรม อันเป็นการเรียกร้องให้ทรัพย์ตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมคืนมาเป็นทรัพย์มรดกเพื่อประโยชน์แก่โจทก์ผู้เป็นทายาท จึงเป็นคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรม แต่โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาอย่างคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ซึ่งไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาได้สั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่ม แต่โจทก์ไม่จัดการเสียเพิ่มภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา174(2) ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2834/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคำร้องค่าขึ้นศาลก่อนพิพากษาคดี หากศาลละเลยต้องให้พิจารณาใหม่ การอุทธรณ์ฎีกาต้องเป็นไปตามขั้นตอน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งคำร้องของโจทก์ที่ขอให้ยกเลิกคำสั่งที่ให้โจทก์วางเงินค่าขึ้นศาลเพิ่ม แล้วดำเนินการพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดีศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว มีคำสั่งว่าคดีโจทก์เป็นคดีมีทุนทรัพย์ให้ยกคำร้องของโจทก์ ให้โจทก์นำเงินมาชำระต่อศาล โจทก์ต้องอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลอุทธรณ์ มิใช่อุทธรณ์มายังศาลฎีกาเพราะมิใช่เป็นฎีกาโต้แย้งในประเด็นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา จึงไม่เป็นฎีกาคัดค้านคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2427/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลกรณีฟ้องจำเลยที่ไม่ใช่ผู้จำนอง: แยกพิจารณาค่าขึ้นศาลตามประเภทจำเลย
โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้เบิกเงินเกินบัญชีและบังคับจำนองที่ดินที่จำเลยที่ 1 จำนองค้ำประกันหนี้เบิกเงินเกินบัญชีดังกล่าว ในส่วนจำเลยที่ 2 ซึ่งมิใช่ผู้จำนองนั้น โจทก์ฟ้องบังคับให้ชำระหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีโดยเฉพาะ โจทก์จึงต้องเสียค่าขึ้นศาลร้อยละสองครึ่งในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2243-2245/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตให้ใช้คำร้องแทนฟ้องอุทธรณ์ได้หากศาลรับไว้และมีการชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มเติม
คำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ใช้แบบพิมพ์คำร้องแทนที่จะใช้แบบพิมพ์อุทธรณ์ เป็นการไม่ถูกต้องแต่เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับมาโดยมิได้สั่งให้ทำใหม่ก็ชอบที่จะอนุโลมให้ถือเป็นอุทธรณ์ที่ชอบได้เมื่อได้เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มครบถ้วนแล้วศาลอุทธรณ์ก็รับวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีจำหน่าย: โจทก์ไม่เสียค่าขึ้นศาล ศาลจำหน่ายคดีแล้ว ไม่สามารถกลับมาเสียค่าขึ้นศาลในคดีเดิมได้ ต้องยื่นฟ้องใหม่
ในชั้นพิจารณาคำฟ้อง ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลอย่งคดีมีทุนทรัพย์ แต่โจทก์ไม่ยอมเสียอ้างว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี โจทก์อุทธรณ์และฎีกาคัดค้านในที่สุดศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีไปแล้วก็เท่ากับไม่มีคดีของโจทก์อยู่ในศาล โจทก์จะมายื่นคำแถลงขอเสียค่าขึ้นศาลในคดีที่ศาลชั้นต้นได้สั่งจำหน่ายไปแล้วไม่ได้ หากประสงค์จะดำเนินการต่อไปก็ชอบที่จะยื่นฟ้องเป็นคดีใหม่โดยกำหนดทุนทรัพย์มาในฟ้อง และเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสียค่าขึ้นศาลหลังศาลสั่งจำหน่ายคดี: โจทก์ต้องยื่นฟ้องเป็นคดีใหม่
ในชั้นพิจารณาคำฟ้อง ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีมีทุนทรัพย์แต่โจทก์ไม่ยอมเสียอ้างว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีโจทก์อุทธรณ์และฎีกาคัดค้านในที่สุดศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น ดังนี้เมื่อศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีไปแล้วก็เท่ากับไม่มีคดีของโจทก์อยู่ในศาลโจทก์จะมายื่นคำแถลงขอเสียค่าขึ้นศาลในคดีที่ศาลชั้นต้นได้สั่งจำหน่ายไปแล้วไม่ได้ หากประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปก็ชอบที่จะยื่นฟ้องเป็นคดีใหม่โดยกำหนดทุนทรัพย์มาในฟ้องและเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์นั้น