พบผลลัพธ์ทั้งหมด 401 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาตกลงรับผิดแม้เกิดเหตุสุดวิสัย ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม และศาลใช้ดุลพินิจลดค่าปรับได้
การทำสัญญายินยอมรับผิดตลอดถึงเหตุสุดวิสัยนั้น หาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่อย่างใดไม่
จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนข้าวไป 5,500 กระสอบ โดยมีข้อสัญญาว่าถ้าจำเลยผิดสัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะโดยเหตุสุดวิสัย หรือเหตุใดใดก็ตาม จำเลยยอมใช้เบี้ยปรับให้แก่โจทก์เป็นเงิน 813,998 บาท ปรากฏว่าข้าวสารส่งถึงปลายทางเพียง 2605 กระสอบขาดไป 2895 กระสอบ ศาลย่อมใช้ดุลพินิจให้จำเลยใช้เบี้ยปรับลดลงเป็นเงิน 400,000 บาทได้
จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนข้าวไป 5,500 กระสอบ โดยมีข้อสัญญาว่าถ้าจำเลยผิดสัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะโดยเหตุสุดวิสัย หรือเหตุใดใดก็ตาม จำเลยยอมใช้เบี้ยปรับให้แก่โจทก์เป็นเงิน 813,998 บาท ปรากฏว่าข้าวสารส่งถึงปลายทางเพียง 2605 กระสอบขาดไป 2895 กระสอบ ศาลย่อมใช้ดุลพินิจให้จำเลยใช้เบี้ยปรับลดลงเป็นเงิน 400,000 บาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคำนวณค่าปรับในคดีฝิ่นเมื่อไม่มีราคามูลฝิ่นอ้างอิง ศาลต้องใช้ค่าปรับขั้นต่ำตามกฎหมาย
คดีหาว่ามีมูลฝิ่นโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อไม่มีราคามูลฝิ่นซึ่งรัฐบาลขายในท้องที่ และเวลาเกิดเหตุที่จะตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับ ก็ไม่มีทางที่จะคำนวณปรับจำเลย 5 เท่าของราคามูลฝิ่นได้ จึงต้องปรับจำเลยตามอัตราคั่นต่ำ คือ 50 บาท ตาม พ.ร.บ.ฝิ่น (ฉะบับที่ 4) 2481 มาตรา 6.
(อ้างฎีกาที่ 1037/2482)
(อ้างฎีกาที่ 1037/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคำนวณค่าปรับคดียาเสพติด (ฝิ่น) กรณีไม่มีราคามูลฝิ่นอ้างอิง
คดีหาว่ามีมูลฝิ่นโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อไม่มีราคามูลฝิ่นซึ่งรัฐบาลขายในท้องที่ และเวลาเกิดเหตุที่จะตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับ. ก็ไม่มีทางที่จะคำนวณปรับจำเลย 5 เท่าของราคามูลฝิ่นได้ จึงต้องปรับจำเลยตามอัตราขั้นต่ำ คือ 50 บาท ตามพระราชบัญญัติฝิ่น(ฉบับที่4)2481 มาตรา 6
(อ้างฎีกาที่ 1037/2482)
(อ้างฎีกาที่ 1037/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมงผิดกฎหมาย: ค่าปรับและเงินบำเหน็จนำจับ
จำเลยในคดีใช้เครื่องมือทำการประมงโดยไม่มีอาชญาบัตร์ ต้องรับผิดชอบในค่าปรับและเงินบำเหน็จนำจับร่วมกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดราคาข้าวที่ใช้คำนวณค่าปรับและโทษริบทรัพย์ในคดีลักลอบนำข้าวออกนอกราชอาณาจักร
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยนำข้าวสาร 100 กระสอบ ออกนอกราชอาณาจักร ตามฟ้องข้อ ก.โจทก์กล่าวว่าราคา 10274 บาท 40 สตางค์ แต่ท้ายฟ้องขอให้ริบข้าว100 กระสอบถ้านำมาริบไม่ได้ ขอให้จำเลยใช้ราคา 1705 บาท 92 สตางค์ เมื่อตามท้องสำนวนไม่ปรากฎว่าราคาข้าวที่ถูกต้องต่อความจริงเป็นราคาอย่างมากหรืออย่างน้อย ศาลจำต้องถือราคาข้าว 100 กระสอบที่ขอมาในฟ้องว่า 1705 บาท 92 สตางค์
จำเลย 6 คนต้องโทษปรับรวมกันเป็นเงิน 6823 บาท 68 สตางค์ เมื่อจำเลยจะต้องจำแทนค่าปรับ ให้แบ่งกันจำแทนคนละ 2 เดือน
ข้าวของกลางในคดีที่นำออกไปนอกราชอาณาจักร์โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องริบทั้งสิ้น
(อ้างฎีกา 503/2492)
จำเลย 6 คนต้องโทษปรับรวมกันเป็นเงิน 6823 บาท 68 สตางค์ เมื่อจำเลยจะต้องจำแทนค่าปรับ ให้แบ่งกันจำแทนคนละ 2 เดือน
ข้าวของกลางในคดีที่นำออกไปนอกราชอาณาจักร์โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องริบทั้งสิ้น
(อ้างฎีกา 503/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดราคาข้าวในคดีนำข้าวออกนอกราชอาณาจักร การริบของกลาง และการแบ่งชำระค่าปรับ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยนำข้าวสาร 100 กระสอบ ออกนอกราชอาณาจักร ตามฟ้องข้อ ก.โจทก์กล่าวว่าราคา 10,274 บาท 40 สตางค์ แต่ท้ายฟ้องขอให้ริบข้าว 100 กระสอบถ้านำมาริบไม่ได้ ขอให้จำเลยใช้ราคา 1,705 บาท 92 สตางค์เมื่อตามท้องสำนวนไม่ปรากฏว่าราคาข้าวที่ถูกต้องต่อความจริงเป็นราคาอย่างมากหรืออย่างน้อย ศาลจำต้องถือราคาข้าว 100 กระสอบที่ขอมาในฟ้องว่า 1,705 บาท 92 สตางค์
จำเลย 6 คนต้องโทษปรับรวมกันเป็นเงิน 6,823 บาท 68 สตางค์ เมื่อจำเลยจะต้องจำแทนค่าปรับ ให้แบ่งกันจำแทนคนละ 2 เดือน
ข้าวของกลางในคดีที่นำออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องริบทั้งสิ้น (อ้างฎีกา 503/2492)
จำเลย 6 คนต้องโทษปรับรวมกันเป็นเงิน 6,823 บาท 68 สตางค์ เมื่อจำเลยจะต้องจำแทนค่าปรับ ให้แบ่งกันจำแทนคนละ 2 เดือน
ข้าวของกลางในคดีที่นำออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องริบทั้งสิ้น (อ้างฎีกา 503/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความ 'ฝิ่น' ตาม พ.ร.บ.ฝิ่น และการคำนวณค่าปรับเมื่อไม่ปรากฏราคามูลฝิ่น
ผ้าเช็ดฝิ่นไม่ใช่สิ่งที่ผสมอยู่กับฝิ่นตามความหมายในมาตรา3(1) แห่ง พระราชบัญญัติฝิ่น 2472 จึงจะถือว่าเป็นฝิ่นไม่ได้
เมื่อไม่ปรากฏราคามูลฝิ่นของกลางตามราคาซึ่งรัฐบาลขายในท้องที่และเวลาเกิดเหตุก็ไม่มีทางจะคำนวณ 5 เท่าของราคามูลฝิ่นของกลางได้ จึงต้องปรับในอัตราขั้นต่ำในกฎหมาย
(อ้างฎีกา 1037/2482,768/2492)
เมื่อไม่ปรากฏราคามูลฝิ่นของกลางตามราคาซึ่งรัฐบาลขายในท้องที่และเวลาเกิดเหตุก็ไม่มีทางจะคำนวณ 5 เท่าของราคามูลฝิ่นของกลางได้ จึงต้องปรับในอัตราขั้นต่ำในกฎหมาย
(อ้างฎีกา 1037/2482,768/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 813/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายทรัพย์สินที่มีข้อจำกัดในการโอน และการกำหนดค่าปรับที่สมเหตุสมผล
ทำสัญญาขายทรัพย์ซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของ แล้วทำการโอนไม่ได้เพราะ เจ้าของอีกคนหนึ่งคัดค้านนั้น ไม่ทำให้ผู้ขายหลุดพ้นจากความรับผิดในฐานผิดสัญญา
เบี้ยปรับฐานผิดสัญญาซึ่งคู่ความตกลงกันไว้ในสัญญา เมื่อศาลได้พิจารณาข้อสัญญาประกอบด้วยเหตุผลทั่วๆ ไปที่ปรากฏตามทางพิจารณาแล้วศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามจำนวนที่เห็นสมควรตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ได้
การคืนเงินมัดจำในกรณีเลิกสัญญา ไม่ใช่คิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้อง
เบี้ยปรับฐานผิดสัญญาซึ่งคู่ความตกลงกันไว้ในสัญญา เมื่อศาลได้พิจารณาข้อสัญญาประกอบด้วยเหตุผลทั่วๆ ไปที่ปรากฏตามทางพิจารณาแล้วศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามจำนวนที่เห็นสมควรตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ได้
การคืนเงินมัดจำในกรณีเลิกสัญญา ไม่ใช่คิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1037/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากผิดสัญญา: ศาลให้ได้ทั้งค่าเสียหายจริงและค่าปรับตามสัญญา
คดีเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญา เมื่อจำเลยรู้ดีว่า เมื่อตนผิดสัญญาโจทก์จะต้องเสียหาย ดังนี้ จำเลยต้องรับผิดในค่าเสียหาย ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 380 วรรค2 ซึ่งศาลอาจจะให้ค่าเสียหายได้
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญา 1,000 บาทและค่าเสียหายจากการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 7,000 บาทศาลชั้นต้นให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 1,000 บาท โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์เห็นควรให้ค่าเสียหายทั้งหมดรวมกัน 7,000 บาทดังนี้ จะเรียกว่าศาลอุทธรณ์ไปวินิจฉัยในเรื่อง 1,000 บาทซึ่งโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ไม่ได้
เมื่อมีกรณีผิดสัญญาแล้ว ก็ย่อมเรียกค่าเสียหายแก่กันได้ถ้าผู้ได้รับความเสียหายพิสูจน์ได้ว่าตนได้เสียหายจริงจังเป็นเงินเท่าใดแล้ว ศาลก็ให้ตามนั้น หากพิสูจน์ไม่ได้ ศาลก็ให้ค่าเสียหายตามควรแก่กรณีโดยศาลกำหนดให้เองแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร และผู้เสียหายอาจได้รับค่าเสียหายทั้งสองประเภทก็ได้
คดีนี้ โจทก์ต้องเสียหายเพราะต้องรื้อสิ่งปลูกสร้างไป และต้องเสียหายเพราะไม่ได้ที่ดิน โจทก์จึงชอบที่จะได้ค่าเสียหายทั้งสองจำนวนรวมกันเป็น8,000 บาท
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญา 1,000 บาทและค่าเสียหายจากการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 7,000 บาทศาลชั้นต้นให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 1,000 บาท โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์เห็นควรให้ค่าเสียหายทั้งหมดรวมกัน 7,000 บาทดังนี้ จะเรียกว่าศาลอุทธรณ์ไปวินิจฉัยในเรื่อง 1,000 บาทซึ่งโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ไม่ได้
เมื่อมีกรณีผิดสัญญาแล้ว ก็ย่อมเรียกค่าเสียหายแก่กันได้ถ้าผู้ได้รับความเสียหายพิสูจน์ได้ว่าตนได้เสียหายจริงจังเป็นเงินเท่าใดแล้ว ศาลก็ให้ตามนั้น หากพิสูจน์ไม่ได้ ศาลก็ให้ค่าเสียหายตามควรแก่กรณีโดยศาลกำหนดให้เองแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร และผู้เสียหายอาจได้รับค่าเสียหายทั้งสองประเภทก็ได้
คดีนี้ โจทก์ต้องเสียหายเพราะต้องรื้อสิ่งปลูกสร้างไป และต้องเสียหายเพราะไม่ได้ที่ดิน โจทก์จึงชอบที่จะได้ค่าเสียหายทั้งสองจำนวนรวมกันเป็น8,000 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกข้อกฎหมายใหม่ในชั้นฎีกา และการไม่คัดค้านประเด็นค่าปรับในชั้นต้น ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
จำเลยมิได้คัดค้านอำนาจฟ้องของโจทก์ในคำให้การ จะยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาไม่ได้
พฤติการณ์ที่ถือว่าไม่ปรากฏว่าเบี้ยปรับสูงเกินควร
พฤติการณ์ที่ถือว่าไม่ปรากฏว่าเบี้ยปรับสูงเกินควร