คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทำร้ายร่างกาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,834 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: การบุกรุกและทำร้ายร่างกายเป็นความผิดต่อเนื่อง
การที่จำเลยกับพวกบุกรุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหายแล้วทำร้ายผู้เสียหายทันที เป็นการกระทำต่อเนื่องในคราวเดียวกันจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท มิใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 72/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเป็นโจทก์ร่วม: การพิจารณาความชัดเจนของข้อเท็จจริงเรื่องการทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันก่อนวินิจฉัยสิทธิ
ระหว่างสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นสอบถามโจทก์ร่วมได้ความเพียงว่า โจทก์ร่วมถูกโจทก์ฟ้องเป็นจำเลยในมูลคดีเดียวกันกับคดีนี้ว่าทำร้ายร่างกายจำเลยทั้งสองในคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษโจทก์ร่วมแล้ว คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ข้อเท็จจริงจึงยังไม่ปรากฏว่าโจทก์ร่วมยอมรับว่าวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันกับจำเลยในคดีนี้ เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงดังกล่าว และศาลอุทธรณ์ในคดีที่โจทก์ร่วมถูกฟ้องก็ยังมิได้ชี้ขาดว่าเป็นเรื่องวิวาททำร้ายร่างกายกันจริงหรือไม่และคดียังไม่ถึงที่สุดประกอบกับในคดีนี้โจทก์ก็บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายคือโจทก์ร่วมเท่านั้น ข้อเท็จจริงจึงยังไม่เป็นที่ยุติว่าโจทก์ร่วมวิวาททำร้ายร่างกายกับจำเลย เมื่อไม่ได้ความชัดเช่นนี้ จึงยังไม่สมควรด่วนวินิจฉัยว่าโจทก์ร่วมมิใช่ผู้เสียหายไม่มีสิทธิขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาเพื่อให้ได้ความชัดในประเด็นนี้เสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาเรื่องบันดาลโทสะและเจตนาในการกระทำความผิด
จำเลยฟันโจทก์ร่วมอ้างว่าบันดาลโทสะเพราะโจทก์ร่วมกล่าวหาว่าลักมะพร้าว และด่าว่าจำเลย แต่จำเลยมิได้นำสืบให้เห็นว่าโจทก์ร่วมด่าว่าอย่างไรอันจะเป็นถ้อยคำรุนแรงจนเป็นเหตุให้ถึงกับบันดาลโทสะและจำเลยอ้างว่าที่ใช้มีดฟันโจทก์ร่วมเพราะโจทก์ร่วมจะทำร้ายจำเลยมิใช่จำเลยฟันโจทก์ร่วมเพราะบันดาลโทสะ การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เพราะบันดาลโทสะ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาความรุนแรงบาดแผลและเจตนาของผู้กระทำ
จำเลยฟันโจทก์ร่วม 2 ที โดยใช้มีดพร้าที่มีใบมีดยาวประมาณ 1 ศอก และด้ามยาวแขนเศษ แต่จำเลยฟันโดยโจทก์ร่วมมิได้ป้องกันหรือขัดขวางแต่อย่างใดเป็นโอกาสที่จำเลยจะเลือกฟันตามถนัด แม้บาดแผลที่เกิดขึ้นจะยาวหลายเซนติเมตร แต่เป็นการเกิดขึ้นจากความยาวของคมมีดพร้า บาดแผลที่บริเวณหูขวาและที่หน้าผากเหนือคิ้วซ้ายลึก 1/4 และ 1/2 เซนติเมตรตามลำดับสามารถรักษาให้หายภายใน 7 วัน แสดงให้เห็นว่าจำเลยมิได้ฟันโจทก์ร่วมอย่างรุนแรง พฤติการณ์เช่นนี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยเจตนาฆ่าโจทก์ร่วม จำเลยคงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 510/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน การป้องกันสิทธิ และเหตุแห่งการกระทำผิด
จำเลยและ อ. โต้เถียงกันก่อนแล้วใช้อาวุธทำร้ายกัน จำเลยชกต่อยแล้วใช้มีดฟันและแทง อ.จนได้รับบาดเจ็บจึงถูกอ. ตีจนได้รับบาดเจ็บ การกระทำของจำเลยมิใช่เกิดจากการที่จำเลย กระทำโดยป้องกันสิทธิของตน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดทำร้ายร่างกาย: การลงโทษตามความร้ายแรงของผลกระทบ
ความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจและความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัสนั้น ประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติไว้ในหมวดเดียวกัน องค์ประกอบความผิดในส่วนการกระทำก็เป็นอย่างเดียวกันต่างกันตรงผลแห่งการกระทำเท่านั้น คือถ้าเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายได้รับอันตรายสาหัส ก็เป็นความผิดตามมาตรา 297 มีผลให้ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษหนักขึ้น เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นเหตุให้โจทก์ร่วมรับอันตรายสาหัสเพียงแต่เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายของโจทก์ร่วมเท่านั้นแม้โจทก์จะไม่ได้อ้างมาตรา 295 เป็นบทลงโทษมาด้วย ศาลก็ลงโทษจำเลยตามมาตรา 295 ซึ่งมีอัตราโทษเบากว่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ศาลลงโทษตามมาตราที่เหมาะสม และพิจารณาสถานโทษ
ประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัสไว้ในหมวดเดียวกัน องค์ประกอบความผิดในส่วนการกระทำก็เป็นอย่างเดียวกัน ต่างกันตรงผลแห่งการกระทำคือถ้าเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายได้รับอันตรายสาหัส ก็เป็นความผิดตามมาตรา 297มีผลให้ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษหนักขึ้น เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นเหตุให้โจทก์ร่วมรับอันตรายสาหัสเพียงแต่เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายของโจทก์ร่วม แม้โจทก์ไม่ได้อ้างมาตรา 295 เป็นบทลงโทษมาด้วย ศาลก็ลงโทษจำเลยตามมาตรา 295ซึ่งมีอัตราโทษเบากว่าได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย: ศาลลงโทษตามบทที่โจทก์ขอ หรือบทที่มีอัตราโทษเบากว่าได้
ความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจและความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัสนั้น ประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติไว้ในหมวดเดียวกัน องค์ประกอบความผิดในส่วนการกระทำก็เป็นอย่างเดียวกันต่างกันตรงผลแห่งการกระทำเท่านั้น คือถ้าเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายได้รับอันตรายสาหัส ก็เป็นความผิดตามมาตรา 297 มีผลให้ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษหนักขึ้น เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นเหตุให้โจทก์ร่วมรับอันตรายสาหัสเพียงแต่เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายของโจทก์ร่วมเท่ากัน แม้โจทก์จะไม่ได้อ้างมาตรา 295 เป็นบทลงโทษมาด้วย ศาลก็ลงโทษจำเลยตามมาตรา 295ซึ่งอัตราโทษเบากว่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 408/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและมีอาการเจ็บป่วยเกิน 20 วัน ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
ตามรายงานการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ปรากฏว่า โจทก์ร่วมมีบาดแผลฟกช้ำที่ใต้ตาขวา เจ็บคอด้านหลัง เจ็บหน้าอก เจ็บกลางหลังนิ้วก้อยขวาเหยียดไม่ได้เต็มที่สูญเสียหน้าที่เนื่องจากข้อเคลื่อนและลงความเห็นว่าใช้เวลารักษาประมาณหนึ่งเดือน ส่วน ส.ผู้เสียหายอีกคนหนึ่งแพทย์ได้บันทึกว่าลูกตาขวาช้ำ เลือดออกใต้เยื่อบุตารอบ ๆ ขอบตาช้ำ แก้มขวาบวมช้ำ ริมฝีปากบนช้ำ ฟันหน้าโยกและหลุดไป ศีรษะบริเวณหลังใบหูซ้ายมีรอยช้ำ เจ็บบริเวณคอและหน้าอกเจ็บหัวไหล่ขวา ยกแขนขวาไม่ได้ และลงความเห็นว่าใช้เวลารักษาประมาณสองเดือน ตามลักษณะของบาดแผลดังกล่าวถือได้ว่า โจทก์ร่วมและ ส. ป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน ถึงขั้นได้รับอันตรายสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3999/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย: ศาลลงโทษตามความผิดที่รวมอยู่ด้วยได้
บันทึกการจับกุมที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจลงชื่อ 16 คน แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลงชื่อในบันทึกการจับกุมทั้งหมดจะไปร่วมจับกุมด้วยหรือไม่แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คน ร่วมทำการจับคนร้ายจริง แม้บันทึกบางส่วนจะไม่เป็นจริง ก็ไม่ทำให้พยานหลักฐานโจทก์เสียไป
จำเลยเข้าแย่งกระเป๋าจากผู้เสียหาย นาย อ.ซึ่งนั่งติดกับผู้เสียหายได้ช่วยเหลือผู้เสียหาย ในขณะที่มีการแย่งกระเป๋ากันอยู่ จำเลยก็อยู่ใกล้นาย อ.ทั้งมือจำเลยก็ไม่มีอะไรขัดขวางไม่ให้เคลื่อนไหว จำเลยย่อมมีโอกาสยิง นาย อ.ตรงส่วนใดของร่างกายก็ได้ การที่จำเลยยิงที่มือนาย อ.เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าประสงค์จะให้นาย อ.ปล่อยกระเป๋า มิใช่ประสงค์จะฆ่านาย อ. จำเลยจึงมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 296 เท่านั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 289, 339, 340 ตรีทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายตาม ป.อ.มาตรา 296ซึ่งเป็นความผิดที่รวมอยู่ในการกระทำข้อหาพยายามฆ่า ศาลมีอำนาจลงโทษตามความผิดฐานทำร้ายร่างกายได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย
of 184