คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้เยาว์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 452 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1109/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในทรัพย์มรดก, อายุความ, และผลของสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำโดยผู้ใช้อำนาจปกครองเด็ก
จำเลยซึ่งเป็นน้องเจ้ามรดก ไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกของผู้ตาย จึงยกอายุความ 1 ปีขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นบุตรของเจ้ามรดกไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1755
ที่นาพิพาทเป็นทรัพย์ของเจ้ามรดกตกทอดได้แก่โจทก์ซึ่งเป็นบุตรกับมารดาเจ้ามรดก โจทก์ทั้งสามเป็นผู้เยาว์ มารดาโจทก์ไม่มีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับที่พิพาทได้โดยพลการ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546 สัญญาประนีประนอมยอมความ ส.กับมารดาโจทก์ทำไว้ไม่มีผลบังคับแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครองปรปักษ์: ฟ้องคืนที่ดินหลัง 1 ปี เกินกำหนด ขาดอายุความ แม้ผู้เยาว์
นาพิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน เดิมเป็นของโจทก์ ต่อมาจำเลยชนะคดีบิดาโจทก์ได้นำยึดที่พิพาท ในการบังคับคดีและจำเลยซื้อที่พิพาทได้จากการขายทอดตลาด แล้วจำเลยเข้าครอบครองทำประโยชน์ ก่อนโจทก์ฟ้องประมาณ 3 ปี ดังนี้โจทก์ฟ้องเอาคืนการครอบครองที่พิพาทไม่ได้ เพราะเกินกำหนด 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 แม้โจทก์จะเป็นผู้เยาว์และได้ฟ้องคดีนี้ภายใน 1 ปี นับแต่โจทก์บรรลุนิติภาวะก็ตาม แต่เมื่อโจทก์มีผู้แทนโดยชอบธรรมอยู่ตลอดเวลา จึงยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 183 เป็นประโยชน์แก่โจทก์ไม่ได้
จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยซื้อนาที่พิพาทแล้วเข้าครอบครองทำนามา 3 ปี โจทก์ไม่เคยเกี่ยวข้องเพราะละทิ้งสละสิทธิครอบครองเกิน 1 ปี คดีโจทก์ขาดอายุความข้อต่อสู้เช่นนี้เป็นข้อต่อสู้เรื่องกำหนดเวลาฟ้องเรียกคืนการครอบครองโดยตรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครอง: ผู้เยาว์ละทิ้งสิทธิเกิน 1 ปี ทำให้ฟ้องเรียกคืนไม่ได้ แม้พ้นภาวะผู้เยาว์
นาพิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน เดิมเป็นของโจทก์ต่อมาจำเลยชนะคดีบิดาโจทก์ได้นำยึดที่พิพาทในการบังคับคดีและจำเลยซื้อที่พิพาทได้จากการขายทอดตลาด แล้วจำเลยเข้าครอบครองทำประโยชน์ ก่อนโจทก์ฟ้องประมาณ 3 ปี ดังนี้โจทก์ฟ้องเอาคืนการครอบครองที่พิพาทไม่ได้ เพราะเกินกำหนด 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 แม้โจทก์จะเป็นผู้เยาว์และได้ฟ้องคดีนี้ภายใน 1 ปีนับแต่โจทก์บรรลุนิติภาวะก็ตาม แต่เมื่อโจทก์มีผู้แทนโดยชอบธรรมอยู่ตลอดเวลา จึงยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 183 เป็นประโยชน์แก่โจทก์ไม่ได้
จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยซื้อนาที่พิพาทแล้วเข้าครอบครองทำนามา 3 ปี โจทก์ไม่เคยเกี่ยวข้องเพราะละทิ้งสละสิทธิครอบครองเกิน 1 ปีคดีโจทก์ขาดอายุความข้อต่อสู้เช่นนี้เป็นข้อต่อสู้เรื่องกำหนดเวลาฟ้องเรียกคืนการครอบครองโดยตรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครอง – การครอบครองปรปักษ์ – สิทธิเรียกคืนที่ดิน – ผู้เยาว์
นาพิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน เดิมเป็นของโจทก์. ต่อมาจำเลยชนะคดีบิดาโจทก์ได้นำยึดที่พิพาท. ในการบังคับคดีและจำเลยซื้อที่พิพาทได้จากการขายทอดตลาด. แล้วจำเลยเข้าครอบครองทำประโยชน์ ก่อนโจทก์ฟ้องประมาณ 3 ปี. ดังนี้โจทก์ฟ้องเอาคืนการครอบครองที่พิพาทไม่ได้. เพราะเกินกำหนด 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375. แม้โจทก์จะเป็นผู้เยาว์และได้ฟ้องคดีนี้ภายใน 1 ปีนับแต่โจทก์บรรลุนิติภาวะก็ตาม. แต่เมื่อโจทก์มีผู้แทนโดยชอบธรรมอยู่ตลอดเวลา. จึงยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 183 เป็นประโยชน์แก่โจทก์ไม่ได้.
จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยซื้อนาที่พิพาทแล้วเข้าครอบครองทำนามา 3 ปี. โจทก์ไม่เคยเกี่ยวข้องเพราะละทิ้งสละสิทธิครอบครองเกิน 1 ปี. คดีโจทก์ขาดอายุความข้อต่อสู้เช่นนี้เป็นข้อต่อสู้เรื่องกำหนดเวลาฟ้องเรียกคืนการครอบครองโดยตรง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องแทนผู้เยาว์ และอายุความมรดก: การละเลยอายุความโดยปริยาย
พนักงานอัยการมีสิทธิยกคดีขึ้นกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1534 ได้ โดยผู้เยาว์ไม่ต้องได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน
จำเลยไม่ได้ปฏิเสธว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับมรดกเสียเลย แต่ยอมให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งมรดกโดยเกี่ยวกันในเรื่องจำนวนเนื้อที่ที่จะแบ่งให้มากหรือน้อยเท่านั้น จนกระทั่งล่วงเลยกำหนดอายุความมรดก 1 ปี ก็ยังโต้เถียงกันแต่ในเรื่องจำนวนเนื้อที่ และขัดข้องในการที่ให้โจทก์บางคนซึ่งเป็นผู้เยาว์ต้องมีผู้แทนโดยชอบธรรมร้องขออนุญาตต่อศาลก่อนเท่านั้น ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้ละเสียแล้วซึ่งประโยชน์แห่งอายุความโดยปริยายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 192 จำเลยจึงยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้
ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 บัญญัติให้ผู้เยาว์จะเสนอข้อหาต่อศาลได้โดยได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน และการให้ความยินยอมเช่นนี้ต้องทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลนั้น เพื่อรวมไว้ในสำนวนความ ก็เป็นเรื่องที่ผู้เยาว์ใช้สิทธิฟ้องร้องนั่นเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพนักงานอัยการฟ้องแทนผู้เยาว์ & อายุความมรดกเมื่อจำเลยยังเจรจาแบ่งมรดกอยู่
พนักงานอัยการมีสิทธิยกคดีขึ้นกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1534 ได้โดยผู้เยาว์ไม่ต้องได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน
จำเลยไม่ได้ปฏิเสธว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับมรดกเสียเลยแต่ยอมให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งมรดกโดยเกี่ยงกันในเรื่องจำนวนเนื้อที่ที่จะแบ่งให้มากหรือน้อยเท่านั้นจนกระทั่งล่วงเลยกำหนดอายุความมรดก 1 ปี ก็ยังโต้เถียงกันแต่ในเรื่องจำนวนเนื้อที่ และขัดข้องในการที่ให้โจทก์บางคนซึ่งเป็นผู้เยาว์ต้องมีผู้แทนโดยชอบธรรมร้องขออนุญาตต่อศาลก่อนเท่านั้น ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้ละเสียแล้วซึ่งประโยชน์แห่งอายุความโดยปริยายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 192 จำเลยจึงยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้
ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 บัญญัติให้ผู้เยาว์จะเสนอข้อหาต่อศาลได้โดยได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน และการให้ความยินยอมเช่นนี้ต้องทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลนั้นเพื่อรวมไว้ในสำนวนความ ก็เป็นเรื่องที่ผู้เยาว์ใช้สิทธิฟ้องร้องนั่นเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแทนผู้เยาว์โดยพนักงานอัยการ และการละเลยอายุความมรดกจากการเจรจาต่อรอง
พนักงานอัยการมีสิทธิยกคดีขึ้นกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1534 ได้. โดยผู้เยาว์ไม่ต้องได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน.
จำเลยไม่ได้ปฏิเสธว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับมรดกเสียเลย. แต่ยอมให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งมรดกโดยเกี่ยงกันในเรื่องจำนวนเนื้อที่ที่จะแบ่งให้มากหรือน้อยเท่านั้น.จนกระทั่งล่วงเลยกำหนดอายุความมรดก 1 ปี. ก็ยังโต้เถียงกันแต่ในเรื่องจำนวนเนื้อที่ และขัดข้องในการที่ให้โจทก์บางคนซึ่งเป็นผู้เยาว์ต้องมีผู้แทนโดยชอบธรรมร้องขออนุญาตต่อศาลก่อนเท่านั้น. ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้ละเสียแล้วซึ่งประโยชน์แห่งอายุความโดยปริยายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 192. จำเลยจึงยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้.
ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 บัญญัติให้ผู้เยาว์จะเสนอข้อหาต่อศาลได้โดยได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน และการให้ความยินยอมเช่นนี้ต้องทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลนั้น. เพื่อรวมไว้ในสำนวนความ ก็เป็นเรื่องที่ผู้เยาว์ใช้สิทธิฟ้องร้องนั่นเอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1986/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองแทนและการฟ้องเรียกคืนมรดกส่วนแบ่งของผู้เยาว์ แม้จะออกจากที่ดินไปนานก็ไม่ขาดอายุความ
บิดาโจทก์ครอบครองที่มรดกแทนโจทก์ไว้ตั้งแต่โจทก์ยังเยาว์ตลอดมา จนภายหลังที่โจทก์บรรลุนิติภาวะแล้วจนกระทั่งบิดาตาย ก็ไม่ปรากฏว่าได้บอกกล่าวแสดงเจตนาว่าจะไม่ยึดถือครอบครองแทนอีกต่อไป ฉะนั้น แม้โจทก์จะออกจากที่พิพาทไปนานแล้ว ก็ยังไม่ขาดอายุความฟ้องเรียกมรดกส่วนของตนซึ่งบิดาครอบครองแทนไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1986/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองแทนและอายุความฟ้องเรียกมรดกของผู้เยาว์ แม้ออกจากที่ดินไปแล้วก็ไม่ขาดอายุความ
บิดาโจทก์ครอบครองที่มรดกแทนโจทก์ไว้ตั้งแต่โจทก์ยังเยาว์ตลอดมา จนภายหลังที่โจทก์บรรลุนิติภาวะแล้วจนกระทั่งบิดาตาย ก็ไม่ปรากฏว่าได้บอกกล่าวแสดงเจตนาว่าจะไม่ยึดถือครอบครองแทนอีกต่อไป ฉะนั้น แม้โจทก์จะออกจากที่พิพาทไปนานแล้ว ก็ยังไม่ขาดอายุความฟ้องเรียกมรดกส่วนของตนซึ่งบิดาครอบครองแทนไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1986/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองแทนและอายุความฟ้องเรียกมรดกส่วนแบ่งของผู้เยาว์
บิดาโจทก์ครอบครองที่มรดกแทนโจทก์ไว้ตั้งแต่โจทก์ยังเยาว์ตลอดมา. จนภายหลังที่โจทก์บรรลุนิติภาวะแล้วจนกระทั่งบิดาตาย ก็ไม่ปรากฏว่าได้บอกกล่าวแสดงเจตนาว่าจะไม่ยึดถือครอบครองแทนอีกต่อไป. ฉะนั้น แม้โจทก์จะออกจากที่พิพาทไปนานแล้ว ก็ยังไม่ขาดอายุความฟ้องเรียกมรดกส่วนของตนซึ่งบิดาครอบครองแทนไว้.
of 46