คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พยาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 670 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 87/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชี้ขาดข้อพิพาทตามคำท้า และหน้าที่การนำสืบพยานเมื่อคู่ความไม่สืบ
คู่ความท้ากันว่า ถ้าจำเลยนำหนังสือซื้อขายที่ดินหรือสำเนาที่อำเภอรับรองมาจากอำเภอได้โจทก์ยอมแพ้ ถ้าไม่มีหนังสือดังกล่าวที่พิพาทตกเป็นของโจทก์เมื่ออำเภอมีหนังสือแจ้งมาว่าค้นไม่พบคู่ความท้ากันใหม่ว่าให้ศาลเอาหนังสือตอบนี้ไปประกอบกับคำท้าเดิมแล้ววินิจฉัยว่าที่พิพาทจะเป็นของฝ่ายใด ศาลวินิจฉัยว่าตามหนังสือตอบของอำเภอฟังไม่ถนัดว่ามีหนังสือซื้อขายที่พิพาทหรือไม่จึงชี้ขาดให้แพ้ชนะกันตามคำท้าไม่ได้ เมื่อต่างแถลงไม่สืบพยานคดีนี้ หน้าที่นำสืบตกแก่โจทก์ โจทก์จึงต้องแพ้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 454/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขัดขืนหมายเรียกพยาน: โจทก์ต้องเป็นผู้เสียหายโดยตรงจากการกระทำนั้น
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 170 มุ่งหมายเอาโทษแก่ผู้ที่ขัดขืนหมายหรือคำสั่งศาลที่ให้มาให้ถ้อยคำ ให้มาเบิกความ หรือให้ส่งทรัพย์หรือเอกสารในการพิจารณาคดีเป็นบทบัญญัติถึงการกระทำความผิดต่อศาลซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในการยุติธรรม
เหตุที่ศาลมีคำสั่งตัดพยานโจทก์เพราะไม่มาเบิกความตามหมายเรียกของศาลนั้น โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงจากการกระทำของพยานนั้นโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องผู้ที่ขัดขืนหมายเรียกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 170

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 454/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีขัดขืนหมายเรียกศาล: ผู้เสียหายโดยตรงเท่านั้นที่ฟ้องได้
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 170 มุ่งหมายเอาโทษแก่ผู้ที่ขัดขืนหมายหรือคำสั่งศาลที่ให้มาให้ถ้อยคำ ให้มาเบิกความ หรือให้ส่งทรัพย์หรือเอกสารในการพิจารณาคดี. เป็นบทบัญญัติถึงการกระทำความผิดต่อศาลซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในการยุติธรรม.
เหตุที่ศาลมีคำสั่งตัดพยานโจทก์เพราะไม่มาเบิกความตามหมายเรียกของศาลนั้น. โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงจากการกระทำของพยานนั้น. โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องผู้ที่ขัดขืนหมายเรียกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 170.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานภายหลัง และสิทธิในการนำพยานสืบเพิ่มเติมของคู่ความ
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ถ้าศาลยอมรับฟังพยานจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายที่สืบภายหลัง โดยที่จำเลยไม่ได้ถามค้านโจทก์ไว้ขณะโจทก์เบิกความคู่ความที่ได้นำพยานสืบก่อนจะเรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาสืบอีกก็ได้. ถ้าโจทก์เพียงแต่ยื่นคำแถลงคัดค้านว่าคำสั่งศาลคลาดเคลื่อนด้วยกฎหมาย. ขอโต้แย้งไว้ให้ศาลสูงวินิจฉัย. โจทก์ไม่ได้ขอให้เรียกพยานที่เกี่ยวข้องของโจทก์มาสืบตามสิทธิที่มีอยู่. ดังนี้ จะว่าศาลไม่อนุญาตให้โจทก์นำพยานที่เกี่ยวข้องมาสืบอีกหาได้ไม่.
โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่จำเลยกู้ไป จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้ทำสัญญากู้ไว้กับโจทก์. โจทก์เอาสัญญากู้ซึ่งไม่มีข้อความอื่น นอกจากจำเลยเซ็นชื่อในช่องผู้กู้ให้ ป. มากรอกข้อความแล้วเอามาฟ้อง. ดังนี้ เท่ากับจำเลยสู้ว่าสัญญากู้นั้นปลอม. โจทก์จึงต้องนำสืบก่อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานฟังไม่พอลงโทษคดีลักทรัพย์ จำเป็นต้องมีพยานรู้เห็นการกระทำผิด
โจทก์ไม่ได้ตัวผู้ที่รู้เห็นว่าจำเลยทำผิดมาสืบในชั้นศาล คงมีแต่บันทึกถ้อยคำของพยานปากนั้นในชั้นสอบสวนส่งเป็นพยานเท่านั้น ส่วนพยานอื่นของโจทก์ก็ไม่มีผู้ใดรู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำของจำเลย พยานหลักฐานของโจทก์จึงไม่พอฟังลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อต้องมีพยานลงชื่อรับรองลายมือ หากไม่มีถือเป็นโมฆะ แม้จะมีการจดทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้น
การโอนหุ้นบริษัทจำกัดชนิดระบุชื่อในใบหุ้นนั้น แม้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้โอนกับผู้รับโอน แต่เมื่อไม่มีพยานลงชื่อรับรองลายมือย่อมเป็นโมฆะ
การโอนหุ้นซึ่งตกเป็นโมฆะ แม้บริษัทจะได้ลงชื่อผู้รับโอนในทะเบียนผู้ถือหุ้น และเคยนัดหมายให้ผู้รับโอนเข้าประชุมในฐานะผู้ถือหุ้นก็ดี ก็ไม่ทำให้ผู้รับโอนกลายเป็นผู้ถือหุ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ส่งให้ผู้ร้องชำระค่าหุ้นเป็นการไม่ชอบโดยอ้างเหตุว่าผู้ร้องมิใช่ผู้ถือหุ้นและสัญญาโอนหุ้นเป็นโมฆะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ มิได้ยกข้อต่อสู้ในคำคัดค้านว่า ผู้ร้องได้ครอบครองหุ้นมากว่า 5 ปี จนได้กรรมสิทธิ์แล้วย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลจะวินิจฉัยว่าการครอบครองสิทธิในการถือหุ้นมิได้หรือไม่เพียงใด
การปฏิเสธหนี้ต่อเจ้าหนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119 นั้น กฎหมายบัญญัติไว้แต่เพียงว่าถ้าจะปฏิเสธให้แสดงเหตุผลประกอบการปฏิเสธ เมื่อผู้ปฏิเสธหนี้ได้ยกเหตุผลขึ้นปฏิเสธไปแล้ว แม้ไม่ได้ยกข้อกฎหมายบางข้อขึ้นกล่าวอ้างก็ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้ยกข้อกฎหมายนั้นขึ้นว่ากล่าวในชั้นศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อต้องมีพยานลงชื่อรับรอง มิฉะนั้นเป็นโมฆะ แม้มีการจดทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้นก็ไม่สมบูรณ์
การโอนหุ้นบริษัทจำกัดชนิดระบุชื่อในใบหุ้นนั้น แม้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้โอนกับผู้รับโอน แต่เมื่อไม่มีพยานลงชื่อรับรองลายมือย่อมเป็นโมฆะ
การโอนหุ้นซึ่งตกเป็นโมฆะ แม้บริษัทจะได้ลงชื่อผู้รับโอนในทะเบียนผู้ถือหุ้น และเคยนัดหมายให้ผู้รับโอนเข้าประชุมในฐานะผู้ถือหุ้นก็ดี ก็ไม่ทำให้ผู้รับโอนกลายเป็นผู้ถือหุ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งให้ผู้ร้องชำระค่าหุ้นเป็นการไม่ชอบโดยอ้างเหตุว่า ผู้ร้องมิใช่ผู้ถือหุ้นและสัญญาโอนหุ้นเป็นโมฆะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มิได้ยกข้อต่อสู้ในคำคัดค้านว่าผู้ร้องได้ครอบครองหุ้นมากว่า 5 ปี จนได้กรรมสิทธิ์แล้วย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลจะวินิจฉัยว่า การครอบครองสิทธิในการถือหุ้นมีได้หรือไม่เพียงใด
การปฏิเสธหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 119 นั้น กฎหมายบัญญัติไว้แต่เพียงว่าถ้าจะปฏิเสธให้แสดงเหตุผลประกอบการปฏิเสธ เมื่อผู้ปฏิเสธหนี้ได้ยกเหตุผลขึ้นปฏิเสธไปแล้ว แม้ไม่ได้ยกข้อกฎหมายบางข้อขึ้นกล่าวอ้างก็ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้ยกข้อกฎหมายนั้นขึ้นว่ากล่าวในชั้นศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนหุ้นระบุชื่อต้องมีพยานรับรองลายมือ มิฉะนั้นเป็นโมฆะ แม้จะมีการลงทะเบียนและใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้น
การโอนหุ้นบริษัทจำกัดชนิดระบุชื่อในใบหุ้นนั้น แม้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้โอนกับผู้รับโอน. แต่เมื่อไม่มีพยานลงชื่อรับรองลายมือย่อมเป็นโมฆะ.
การโอนหุ้นซึ่งตกเป็นโมฆะ. แม้บริษัทจะได้ลงชื่อผู้รับโอนในทะเบียนผู้ถือหุ้น และเคยนัดหมายให้ผู้รับโอนเข้าประชุมในฐานะผู้ถือหุ้นก็ดี. ก็ไม่ทำให้ผู้รับโอนกลายเป็นผู้ถือหุ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย.
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลว่า. เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งให้ผู้ร้องชำระค่าหุ้นเป็นการไม่ชอบโดยอ้างเหตุว่า.ผู้ร้องมิใช่ผู้ถือหุ้นและสัญญาโอนหุ้นเป็นโมฆะ.เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มิได้ยกข้อต่อสู้ในคำคัดค้านว่า.ผู้ร้องได้ครอบครองหุ้นมากว่า 5 ปี จนได้กรรมสิทธิ์แล้ว. ย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลจะวินิจฉัยว่า.การครอบครองสิทธิในการถือหุ้นมีได้หรือไม่เพียงใด.
การปฏิเสธหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 119 นั้น. กฎหมายบัญญัติไว้แต่เพียงว่าถ้าจะปฏิเสธให้แสดงเหตุผลประกอบการปฏิเสธ.เมื่อผู้ปฏิเสธหนี้ได้ยกเหตุผลขึ้นปฏิเสธไปแล้ว. แม้ไม่ได้ยกข้อกฎหมายบางข้อขึ้นกล่าวอ้าง.ก็ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้ยกข้อกฎหมายนั้นขึ้นว่ากล่าวในชั้นศาล.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ราชพัสดุเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้มีการจดทะเบียนโอน สิทธิไม่สมบูรณ์ ทะเบียนที่ราชพัสดุมีน้ำหนักเป็นพยาน
ที่ราชพัสดุราชการใช้สำหรับรับเสด็จและเป็นที่พักกรมการอำเภอ สุขาภิบาลใช้ปลูกสร้างที่ทำการประปา ที่ประชุมสุขาภิบาล จึงเป็นทรัพย์สินใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 (3) แม้จะได้มีการจดทะเบียนโอนไปยังบุคคลภายนอกโดยสุจริต และเสียค่าตอบแทนก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิประการใด
ทะเบียนที่ราชพัสดุที่จำเลยอ้าง เป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้น ย่อมให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง เป็นหน้าที่ของคู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายัน จะต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือไม่ถูกต้องแห่งเอกสาร จำเลยไม่จำต้องนำพยานบุคคลมาสืบประกอบ เมื่อโจทก์สืบหักล้างเอกสารไม่ได้ ศาลก็รับฟังทะเบียนที่ราชพัสดุเป็นพยานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 477/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีและการโต้แย้งคำสั่งศาล: โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ แม้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่มีพยาน
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก โจทก์ยื่นคำร้องว่าทนายป่วยมาศาลไม่ได้.พร้อมทั้งส่งใบรับรองแพทย์เป็นหลักฐาน. ปรากฏว่าโจทก์มิได้ขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานไว้. และวันสืบพยานนั้นตัวโจทก์เดินทางไปต่างจังหวัด. ศาลสอบถามจำเลย จำเลยแถลงว่าแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร. ตามพฤติการณ์ทั้งหมดนี้ยังฟังไม่ได้ว่าโจทก์แกล้งประวิงคดี.
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนสืบพยานโจทก์.และถือว่าโจทก์ไม่มีพยานนำสืบ. โจทก์ได้ยื่นคำร้องชี้แจงเหตุผลในการที่โจทก์มีความจำเป็นที่จะต้องขอเลื่อนการสืบพยาน. ขอให้ศาลนัดไต่สวนและมีคำสั่งให้โจทก์เข้าสืบ. เช่นนี้ ถือได้ว่าโจทก์ได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นไว้แล้ว. โจทก์อุทธรณ์ฎีกาได้.
of 67