คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พฤติการณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2145/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการครอบครองรถจักรยานยนต์ผู้อื่น ศาลฎีกาวินิจฉัยพฤติการณ์บ่งชี้เจตนา
จำเลยจูงรถจักรยานยนต์ของบุคคลอื่นซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไว้ไปจากที่จอดรถหน้าสถานีตำรวจ โดยไม่มีเหตุที่จะทำให้สำคัญผิดได้ว่ารถจักรยานยนต์ดังกล่าวเป็นของจำเลย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปทันขณะจำเลยกำลังจูงรถจักรยานยนต์อยู่ จำเลยก็ไม่ได้โต้เถียงว่าเป็นรถจำเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจขอดูใบอนุญาตขับขี่และสำเนาทะเบียนรถจำเลยก็ไม่มีแสดง พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยนำรถจักรยานยนต์ไปโดยเจตนาทุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2145/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการครอบครองรถจักรยานยนต์ของผู้อื่น ศาลฎีกาวินิจฉัยพฤติการณ์บ่งชี้ถึงเจตนา
จำเลยจูงรถจักรยานยนต์ของบุคคลอื่นซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไว้ไปจากที่จอดรถหน้าสถานีตำรวจ โดยไม่มีเหตุที่จะทำให้สำคัญผิดได้ว่ารถจักรยานยนต์ดังกล่าวเป็นของจำเลย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปทันขณะจำเลยกำลังจูงรถจักรยานยนต์อยู่ จำเลยก็ไม่ได้โต้เถียงว่าเป็นรถจำเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจขอดูใบอนุญาตขับขี่และสำเนาทะเบียนรถจำเลยก็ไม่มีแสดง พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยนำรถจักรยานยนต์ไปโดยเจตนาทุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2100/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากพฤติการณ์การทำร้ายด้วยอาวุธร้ายแรง ศาลลดโทษจากเหตุบรรเทา
แม้ไม่ได้ความว่าอาวุธที่จำเลยใช้แทงทำร้ายมีขนาดเท่าใดแต่เมื่อจำเลยแทงผู้เสียหายถึงสองครั้ง ครั้งแรกถูกที่ข้อศอกขวาแล้วจำเลยแทงซ้ำอีก ผู้เสียหายปัดแขนข้างที่จำเลยถืออาวุธอาวุธของจำเลยจึงผ่านท้องมาถูกแขนซ้ายของผู้เสียหายได้รับบาดแผลและจำเลยได้แทงผู้ตายที่หน้าท้องหนึ่งครั้ง บาดแผลลึก 6 นิ้วฟุตเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย แสดงว่าอาวุธที่จำเลยใช้เป็นอาวุธที่ร้ายแรง และจำเลยตั้งใจแทงผู้เสียหายและผู้ตายที่บริเวณลำตัวอันเป็นอวัยวะสำคัญอย่างร้ายแรง จำเลยจึงมีความผิดทั้งฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายและฐานฆ่าผู้ตาย ขณะเกิดเหตุจำเลยอยู่ระหว่างศึกษาเล่าเรียน อายุเพียง 20 ปีจำเลยกระทำผิดโดยมีเจตนาเพียงช่วยพวกของจำเลยในการต่อสู้หลังเกิดเหตุ 4 วัน ก็เข้ามอบตัว และเบิกความในชั้นศาลว่าอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยจึงเป็นการลุแก่โทษและเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล คดีมีเหตุบรรเทาโทษ ควรปรานีลดมาตราส่วนโทษและลดโทษให้จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1516/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการยิงปืนป้องกันตัว: ศาลฎีกาวินิจฉัยพฤติการณ์ยิงเพื่อป้องกัน ไม่ถือเป็นเจตนาฆ่า
จำเลยถูก ส. ผู้เสียหายคนหนึ่งด่า จำเลยจึงกลับไปพาพวกมายังที่กลุ่มผู้เสียหายนั่งอยู่และตะโกนถามหาผู้ด่าจำเลยส. และพวกอีกคนหนึ่งจะเดินเข้าไปหาจำเลย จำเลยชักอาวุธปืนที่พกติดตัวออกมาจ้องสาดไปยังกลุ่มผู้เสียหายส. ซึ่งอยู่ห่างจำเลยประมาณ 2 เมตร ใช้เหล็กฉากขว้างจำเลยแต่ไม่ถูก ขณะนั้น พวกของ ส. พากันวิ่งหนีเอาตัวรอด จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงใน ลักษณะกราดไปมาป้องกันไม่ให้ใครเข้าหาจำเลยและไม่ให้ ส. กับพวกขว้างปาจำเลยอีก เช่นนี้ เหตุที่เกิดเพราะ ส. ไปด่าจำเลยก่อนซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ถึงกับจะเป็นสาเหตุให้จำเลยคิดฆ่าพวกผู้เสียหาย การที่จำเลยเอาอาวุธปืนจ้องไปทางกลุ่มผู้เสียหายก็เพื่อแสดงอำนาจให้พวกผู้เสียหายเกรงกลัว และที่จำเลยยิงก็เป็นการ ตอบโต้ที่ถูกฝ่ายผู้เสียหายด่าและป้องกันไม่ให้ส. กับพวกขว้างปาจำเลยอีก ขณะที่ยิง จำเลยก็อยู่ห่าง ส. ประมาณ 2 เมตรและห่างกลุ่มผู้เสียหายประมาณ 4 เมตร เท่านั้น กระสุนปืนที่จำเลยยิงถูกเพียงนิ้วเท้าของ ส. ทั้งไม่ปรากฏว่า จำเลยยิงไปยังกลุ่มผู้เสียหายหรือในทิศทางที่กลุ่มผู้เสียหายวิ่งหนี พฤติการณ์ ดังกล่าวถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายหรือพวกของผู้เสียหายจำเลยคงมีความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1420/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีและการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล จำเลยถูกพิจารณาจากพฤติการณ์
เดิมจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลย ยื่นคำร้องขอยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ยื่นคำให้การ ครั้นถึงวันสืบพยานจำเลย จำเลยและทนายก็ไม่มาศาลตามนัด หลังจากที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยานแล้ว ทนายจำเลยจึงมาศาลทั้งพยานที่จะนำสืบก็ไม่นำมา ดังนี้ พฤติการณ์น่าเชื่อว่าจำเลยประวิงคดี การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าวถึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1391/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษและล้างมลทินในคดีจำหน่ายยาเสพติด โดยพิจารณาจากพฤติการณ์และกฎหมายพิเศษ
ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาได้มีพระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระชนมพรรษา 60 พรรษา พ.ศ. 2530 ใช้บังคับ มาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติ ฉบับนี้บัญญัติว่าให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่าง ๆ ซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคมพ.ศ. 2530 และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้น ๆปรากฏว่า ความผิดฐานมีเฮโรอีนที่โจทก์ถือเป็นเหตุขอให้เพิ่มโทษจำเลยนั้น จำเลยได้กระทำก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2530 และได้พ้นโทษไปแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2526 ก่อนพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับดังนี้จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงในระยะใกล้ชิดกับเจตนาฆ่า: พฤติการณ์และการพิจารณาจากบาดแผลและคำเบิกความ
แพทย์เบิกความว่าบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับนอกจากจะพบหัวกระสุนปืนแล้วยังพบหมอนรองกระสุนปืนฝังอยู่ในบาดแผลด้วยแสดงว่าคนร้ายยิงผู้เสียหายในระยะใกล้ชิดมาก ซึ่งรับกับคำของผู้เสียหายว่าเห็นจำเลยเดินค่อมๆใช้มือไขว้หลังเดินมาทางด้านหลังผู้เสียหายแล้วใช้ปืนยิงห่างจากผู้เสียหายประมาณ1 เมตรเช่นนี้ คำเบิกความของผู้เสียหายรับฟังได้ เพราะหากมิได้ยิงในระยะใกล้หมอนรองกระสุนซึ่งมีน้ำหนักเบาคงไม่เข้าไปฝังอยู่ในบาดแผล
จำเลยใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นซึ่งเป็นอาวุธที่ทำให้ถึงแก่ความตายได้ยิงผู้เสียหายในระยะกระชั้นชิด แม้กระสุนถูกขาผู้เสียหาย แต่ก็เนื่องจากผู้เสียหายระวังตัวอยู่ก่อนและหลบได้ทัน กระสุนจึงพลาดจากตัวไปถูกขา เช่นนี้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเข้าร่วมทำร้าย: การยืนดูเฉยๆ โดยไม่มีพฤติการณ์สนับสนุน ไม่ถือเป็นความร่วมมือ
จำเลยรู้ว่า จ. กับพวกจะไปทำร้ายผู้เสียหาย จึงเดินตาม จ.กับพวกไปที่บ้าน ม. ซึ่งผู้เสียหายกำลังซ้อมดนตรีอยู่กับ ม.และพวก จ. กับพวกอีก 2 คน ขึ้นไปบนบ้านและใช้ไม้ตีทำร้ายผู้เสียหาย ส่วนจำเลยยืนดูอยู่เฉย ๆ ข้างล่างห่างที่เกิดเหตุประมาณ 6 - 10 เมตร ไม่ได้แสดงกริยาอาการจะเข้าร่วมทำร้ายผู้เสียหาย เมื่อไม่ปรากฏว่า จำเลยเป็นพรรคพวกของ จ. และมีเจตนาร่วมกับ จ. ทำร้ายผู้เสียหายมาแต่แรก แม้หลังจากเกิดเหตุแล้วจำเลยจะเดินตาม จ. กับพวกไปก็ตาม ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาร่วมกับ จ. ทำร้ายผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการยักยอกทรัพย์: พฤติการณ์บ่งชี้ความบริสุทธิ์ใจของผู้รับจ้าง
โจทก์ร่วมมอบนากแท่งให้จำเลยไปทำนากรูปพรรณ จำเลยนำไปจ้างร้าน ศ. รีดให้เป็นเส้นเล็ก เมื่อจำเลยให้ลูกจ้างไปรับปรากฏว่าเป็นเส้นทองแดงจำเลยนำไปให้โจทก์ร่วมดู และต่อว่าโจทก์ร่วมในวันนั้น ทั้งได้ไปแจ้งความตามคำแนะนำของโจทก์ร่วม ต่อมาจำเลยได้ทำบันทึกยอมใช้เงินแก่โจทก์ร่วมดังนี้พฤติการณ์แสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตที่จะยักยอกนากของโจทก์ร่วม.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำเลยในคดียาเสพติดและการพิพากษาข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน: พฤติการณ์และเจตนาเป็นสำคัญ
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ติดต่อขายและมาตรวจนับเงินจากผู้ที่ล่อซื้อกับเป็นผู้นำเฮโรอีนของกลางมาส่งให้สายลับต่อหน้าเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งซุ่มแอบดูอยู่เป็นจำนวนมาก จำเลยที่ 1 ถูกจับได้ในขณะนั้น เหตุที่จำเลยที่ 1 ต้องรับสารภาพในชั้นจับกุมและสอบสวนเพราะจำนนต่อพยานหลักฐาน ไม่สมควรลดโทษให้
ตำรวจไม่ได้แต่งเครื่องแบบเรียกให้จำเลยที่ 2 หยุดรถจักรยานยนต์ ตำรวจคนหนึ่งเข้ามายึดรถ อีกคนหนึ่งเข้ามาล็อคคอ จำเลยที่ 2 ตกใจคิดว่าถูกชิงรถจึงดิ้น ต่อมาทราบว่าเป็นตำรวจจึงหยุดและยอมให้จับกุม ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2มีเจตนาต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงาน.(ที่มา-ส่งเสริม)
of 79