คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 823 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1424/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลายมือชื่อในฟ้อง: ผู้มีอำนาจลงนามแทนโจทก์
ทนายโจทก์ลงลายมือชื่อในฟ้องแทนโจทก์ไม่ได้ ตัวโจทก์หรือผู้ที่โจทก์มอบอำนาจให้ฟ้องแทนเป็นผู้ที่ต้องลงลายมือชื่อเป็นโจทก์ในฟ้อง ชั้นฎีกาล่วงเลยเวลาที่จะสั่งแก้ไขเสียแล้ว ถือเป็นฟ้องไม่มีลายมือชื่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานเบิกความเท็จ: การบรรยายฟ้องผู้เสียหายและข้อผิดพลาดในการอ้างมาตรากฎหมาย
คำบรรยายฟ้องความผิดฐานเบิกความเท็จที่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
โจทก์บรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยในความผิดฐานเบิกความเท็จอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา177 แต่โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 เป็นเรื่องที่โจทก์อ้างมาตรา ผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามความผิดที่ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางจำเป็น: การรื้อถอนสิ่งกีดขวางทางออกของที่ดินที่ถูกล้อมรอบ และการพิพากษาชอบด้วยฟ้อง
ตามฟ้องมีข้อความตอนหนึ่งว่า จำเลยทั้งสองใช้ไม้กระดานและสังกะสีปิดกั้นทาง ขุดถนนเป็นหลุมและปลูกต้นกล้วยโจทก์ทั้งสองกับบริวารไม่สามารถใช้ทางผ่านเข้าออกและไม่มีทางอื่นที่จะให้โจทก์ผ่านออกไปได้อีกด้วย โดยที่ดินของโจทก์ถูกล้อมไว้รอบ โจทก์จำเป็นต้องตัดรั้วลวดหนามใช้บันไดปีนรั้วสังกะสีด้านหลัง ขออนุญาตชั่วคราวผ่านบ้านของผู้อื่นเป็นทางเข้าออกได้เฉพาะเวลากลางวันจากถ้อยคำในฟ้องดังกล่าวแสดงให้เห็นชัดอยู่แล้วว่า บ้านและที่ดินของโจทก์ถูกที่ดินแปลงอื่น ๆ ล้อมไว้รอบไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้ คงมีทางออกอยู่ทางเดียวที่จำเลยปิดกั้นเสีย ทางพิพาทจึงเข้าลักษณะทางจำเป็น ศาลชอบที่จะพิพากษาให้จำเลยเปิดทางจำเป็นได้ ไม่เกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 917/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างของรายละเอียดการทำร้ายในฟ้อง กับข้อเท็จจริงที่ได้จากการพิจารณา ไม่ทำให้ศาลยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มือชกทำร้ายผู้เสียหายถูกที่ขอบตาขวาถึงบาดเจ็บ ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยชกต้นคอผู้เสียหายไม่ถึงบาดเจ็บ และใช้สันขวานตีถูกที่ขอบตาของผู้เสียหายถึงบาดเจ็บ ดังนี้ เป็นเพียงข้อแตกต่างในรายละเอียดที่โจทก์ต้องกล่าวบรรยายในฟ้อง อันเป็นข้อแตกต่างมิใช่ในข้อสารสำคัญ และจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้เพราะจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 917/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อแตกต่างรายละเอียดในฟ้องกับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ ศาลลงโทษตามข้อเท็จจริงได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มือชกทำร้ายผู้เสียหายถูกที่ขอบตาขวาถึงบาดเจ็บ ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยชกต้นคอผู้เสียหายไม่ถึงบาดเจ็บและใช้สันขวานตีถูกที่ขอบตาขวาของผู้เสียหายถึงบาดเจ็บดังนี้เป็นเพียงข้อแตกต่างในรายละเอียดที่โจทก์ต้องกล่าวบรรยายในฟ้องอันเป็นข้อแตกต่างมิใช่ในข้อสารสำคัญและจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้เพราะจำเลยให้การปฏิเสธศาลย่อมลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2036/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทจากการใช้ปืน: การบรรยายฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายและการพิสูจน์ความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย
โจทก์ฟ้องบรรยายถึงการกระทำประมาทของจำเลยว่า จำเลยพาอาวุธปืนแก๊ปยาวบรรจุดินปืนพร้อมลูกปืนอยู่แล้วและยังใส่แก๊ปลงในเบ้าแก๊ปด้วย ถ้าปลายนกปืนเกิดกระทบกระเทือนจะตีแก๊ปในเบ้าแก๊ประเบิดขึ้นไปถูกผู้อื่นได้ และบรรยายต่อไปว่าจำเลยนำอาวุธปืนไปที่ตลาดวังทรายพูนในขณะที่มีคนพลุกพล่าน ในพฤติการณ์เช่นนี้บุคคลในภาวะ เช่น จำเลยควรระมัดระวังตามวิสัยโดยไม่ใส่แก๊ปลงในเบ้าแก๊ปของอาวุธปืนนั้น ซึ่งอยู่ในวิสัยของจำเลยที่จะทำได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ จำเลยพาอาวุธปืนไปด้วยความไม่ระมัดระวังเป็นเหตุให้อาวุธปืนพลัดตก นกปืนกระทบพื้น ปลายนกปืนที่สวมอยู่ในเบ้าแก๊ปตีแก๊ประเบิดลั่นขึ้น 1 นัด ลูกปืนถูกผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายสาหัส มีอาการ-ทุกขเวทนาจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน และต้องทุพพลภาพเสียอวัยวะนิ้วก้อยและนิ้วนางข้าขวา-ใช้การไม่ได้ตามปกติอาจถึงตลอดชีวิต เป็นการบรรยายให้จำเลยเข้าใจได้แล้วว่าจำเลยกระทำโดยประมาทอย่างไร ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสอย่างไรครบถ้วนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 เป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว โดยไม่ต้องบรรยายว่าเป็นอาวุธปืนไม่มีคุณภาพใช้ได้โดยปลอดภัยและไม่ต้องบรรยายอีกว่าจำเลยกระทำอย่างไร เป็นการพาอาวุธปืนไปด้วยความไม่ระมัดระวัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2036/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายจากอาวุธปืน: การบรรยายฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องบรรยายถึงการกระทำประมาทของจำเลยว่า จำเลยพาอาวุธปืนแก๊ปยาวบรรจุดินปืนพร้อมลูกปืนอยู่แล้วและยังใส่แก๊ปลงในเบ้าแก๊ปด้วย ถ้าปลายนกปืนเกิดกระทบกระเทือนจะตีแก๊ปในเบ้าแก๊ประเบิดขึ้นไปถูกผู้อื่นได้ และบรรยายต่อไปว่าจำเลยนำอาวุธปืนไปที่ตลาดวังทรายพูนในขณะที่มีคนพลุกพล่าน ในพฤติการณ์เช่นนี้บุคคลในภาวะเช่นจำเลยควรระมัดระวังตามวิสัยโดยไม่ใส่แก๊ปลงในเบ้าแก๊ปของอาวุธปืนนั้น ซึ่งอยู่ในวิสัยของจำเลยที่จะทำได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ จำเลยพาอาวุธปืนไปด้วยความไม่ระมัดระวังเป็นเหตุให้อาวุธปืนพลัดตก นกปืนกระทบพื้น ปลายนกปืนที่สวมอยู่ในเบ้าแก๊ปตีแก๊ประเบิดลั่นขึ้น 1 นัด ลูกปืนถูกผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายสาหัส มีอาการทุกขเวทนาจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน และต้องทุพพลภาพเสียอวัยวะนิ้วก้อยและนิ้วนางข้างขวาใช้การไม่ได้ตามปกติอาจถึงตลอดชีวิต เป็นการบรรยายให้จำเลยเข้าใจได้แล้วว่าจำเลยกระทำโดยประมาทอย่างไร ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสอย่างไรครบถ้วนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 เป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158แล้ว โดยไม่ต้องบรรยายว่าเป็นอาวุธปืนไม่มีคุณภาพใช้ได้โดยปลอดภัยและไม่ต้องบรรยายอีกว่าจำเลยกระทำอย่างไรเป็นการพาอาวุธปืนไปด้วยความไม่ระมัดระวัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2034/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์คดีอาญาอัตราโทษต่ำกว่า 3 ปี และความสมบูรณ์ของฟ้องในความผิดเบิกความเท็จ/แสดงหลักฐานเท็จ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งว่าคดีไม่มีมูล ดังนี้ โจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ
ฟ้องของโจทก์ในความผิดฐานเบิกความเท็จมิได้บรรยายว่าจำเลยเบิกความว่าอย่างไร ที่โจทก์ถือว่าจำเลยเบิกความเท็จในข้อสำคัญในคดี ส่วนในความผิดฐานนำสืบหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จก็มิได้บรรยายว่าเหตุเกิดขึ้นเมื่อไร ดังนี้ เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1509/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องจำเลยในฐานะนายอำเภอ และอำนาจขยายเวลาประกาศรับสมัครเลือกตั้งกำนัน
ฟ้องของโจทก์ใส่ชื่อจำเลยในช่องคู่ความโดยไม่มีข้อความว่าในฐานะนายอำเภอ แต่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยรับราชการในตำแหน่งนายอำเภอจัตุรัสเป็นเจ้าของพนักงานตามกฎหมาย จำเลยในฐานะเป็นนายอำเภอจัตุรัสได้ออกประกาศของอำเภอ และคำขอท้ายฟ้องก็ขอให้พิพากษาว่าประกาศของนายอำเภอจัตุรัสเป็นโมฆะ ดังนี้ เมื่ออ่านฟ้องโดยตลอดแล้วย่อมเข้าใจได้ชัดเจนว่า โจทก์มุ่งหมายที่จะฟ้องจำเลยในฐานะนายอำเภอจัตุรัส หาใช่ฟ้องเป็นการส่วนตัวไม่
ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 364 ข้อ 3 ให้นายอำเภอจัดให้มีการเลือกกำนันโดยรับสมัครจากผู้ใหญ่บ้านในตำบลนั้น วิธีเลือกกำนันให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย นายอำเภอจึงมีอำนาจออกประกาศกำหนดวันเลือกตั้งกำนันและระยะเวลารับสมัคร ดังนั้น เมื่อมีเหตุสมควร นายอำเภอก็ย่อมมีอำนาจที่จะขยายระยะเวลาวันเลือกตั้งและเวลารับสมัครออกไปอีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 843/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องคดีภาษีอากรที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทำให้ศาลยกฟ้องตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยไม่ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีการค้า (ภ.ค. (พ)4) ทำให้ภาษีการค้าขาดไป ไม่ใช่กรณียื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีการค้าแล้วยื่นไม่ครบแต่ประการใด แสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ศาลลงโทษจำเลยในกรณีความผิดที่ไม่ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีการค้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรอันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37 ทวิ หาใช่กรณีที่หลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรโดยการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีการค้าอันเป็นเท็จโดยวิธียื่นขาดไปไม่ครบถ้วนซึ่งเป็นความผิดตาม มาตรา 37 ไม่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้ยื่นเสียภาษีการค้าตลอดมาทุกเดือน เพียงแต่บางเดือนจำเลยยื่นไม่ครบบางเดือนก็ยื่นเกินกว่ารายรับ จึงเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสารสำคัญที่แตกต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้องลงโทษจำเลยมิได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
of 83