พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,640 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5495/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอริบของกลาง: ผลจากการยกฟ้อง และการไม่โต้แย้งในชั้นอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยและขอให้ริบของกลาง ศาลชั้นต้นพิพากษา ยกฟ้องซึ่งมีผลเท่ากับได้วินิจฉัยให้ยกคำขอของโจทก์ที่ขอให้ ริบของกลางด้วยแล้ว ไม่จำต้องระบุด้วยว่า ของกลางไม่ริบ และเมื่อ ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาแล้ว โจทก์ก็ไม่ได้ยกปัญหาข้อนี้ขึ้น อุทธรณ์ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์โดยมิได้วินิจฉัย เรื่องของกลางในคดีนั้นชอบแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5495/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำพิพากษายกฟ้องต่อคำขอริบของกลาง และการไม่โต้แย้งประเด็นในชั้นอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยและขอให้ริบของกลาง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องซึ่งมีผลเท่ากับได้วินิจฉัยให้ยกคำขอของโจทก์ที่ขอให้ริบของกลางด้วยแล้ว ไม่จำต้องระบุด้วยว่าของกลางไม่ริบ และเมื่อศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาแล้ว โจทก์ก็ไม่ได้ยกปัญหาข้อนี้ขึ้นอุทธรณ์ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์โดยมิได้วินิจฉัยเรื่องของกลางในคดีนั้นชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5495/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการยกฟ้องคดีอาญาต่อคำขอริบของกลาง และการไม่โต้แย้งคำพิพากษาชั้นต้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยและขอให้ริบของกลาง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องซึ่งมีผลเท่ากับได้วินิจฉัยให้ยกคำขอของโจทก์ที่ขอให้ริบของกลางด้วยแล้ว ไม่จำต้องระบุด้วยว่า ของกลางไม่ริบ และเมื่อศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาแล้ว โจทก์ก็ไม่ได้ยกปัญหาข้อนี้ขึ้นอุทธรณ์ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์โดยมิได้วินิจฉัยเรื่องของกลางในคดีนั้นชอบแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5465/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาถูกยกฟ้องทั้งชั้นต้นและอุทธรณ์ ทำให้ฎีกาขัดต่อหลักกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาร่วมกับพวกฆ่า ล. และร่วมกับพวกทำร้ายร่างกาย ช. ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสองข้อหาเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดในข้อหาร่วมกับพวกทำร้ายร่างกายเพียงข้อหาเดียว ย่อมมีผลเท่ากับศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องในข้อหาความผิดฐานร่วมกับพวกฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โจทก์จึงฎีกาในข้อหาความผิดนี้ไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5159/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานโจทก์ไม่เพียงพอ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจยกฟ้องจำเลย แม้ไม่ได้อุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 คงมีแต่จำเลยที่ 5เท่านั้นที่อุทธรณ์ ส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 4 ได้ถอนอุทธรณ์แล้ว แต่เมื่อพฤติการณ์แห่งคดีไม่พอฟังว่า จำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 เป็นคนร้าย ย่อมเป็นเหตุในลักษณะคดีที่ศาลอุทธรณ์มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยยกฟ้องไปถึงจำเลยที่ 3 ที่ 4 ด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5159/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานโจทก์ไม่เพียงพอ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจยกฟ้องจำเลย แม้ไม่ได้อุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 คงมีแต่จำเลยที่ 5เท่านั้นที่อุทธรณ์ ส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 4 ได้ถอนอุทธรณ์แล้วแต่เมื่อพฤติการณ์แห่งคดีไม่พอฟังว่า จำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5เป็นคนร้าย ย่อมเป็นเหตุในลักษณะคดีที่ศาลอุทธรณ์มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยยกฟ้องไปถึงจำเลยที่ 3 ที่ 4 ด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5044/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม เนื่องจากศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องในข้อหาเดิมที่ฎีกา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 55, 78 ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้อง แม้โจทก์ฎีกาในข้อกฎหมายก็ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 มาตรา 13
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5044/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามเนื่องจากศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ยกฟ้องในข้อหาเครื่องกระสุนปืน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 55,78 ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้อง แม้โจทก์ฎีกาในข้อกฎหมายก็ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 มาตรา 13
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4824/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสั่งไม่ประทับฟ้องและการยกฟ้องในคดีอาญา มาตรา 220 เป็นเหตุต้องห้ามฎีกา
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องของโจทก์แล้วสั่งไม่ประทับฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนผลเท่ากับศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โจทก์ฎีกาไม่ได้ทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เพราะต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4508/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยนอกฟ้องและนอกประเด็นแห่งคดี ศาลฎีกาพิพากษากลับให้ยกฟ้องเมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเกินขอบเขตที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็น
โจทก์มิได้ฟ้องขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนระหว่างโจทก์และจำเลยโดยอ้างว่ามีเหตุที่ทำให้ห้างหุ้นส่วนเหลือวิสัยที่จะดำรง อยู่ต่อไป และในชั้นชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นก็กำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้แต่เพียงว่า สัญญาเข้าหุ้นส่วนชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เท่านั้น ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าห้างหุ้นส่วนระหว่างโจทก์และจำเลยเลิกกันเพราะจำเลยที่ 1 ไม่ดำเนินกิจการของหุ้นส่วนตามที่ตกลงกัน ทำให้กิจการของหุ้นส่วนเหลือวิสัยที่จะดำรงคงอยู่ต่อไป จึงเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็นไม่ชอบด้วย กระบวนพิจารณา