คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สืบพยาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 971 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5755/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีโดยจงใจ และการนำสืบพยานหลักฐานไม่ตรงตามขั้นตอน ทำให้โจทก์แพ้คดี
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องเพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยที่ 1ขาดนัดยื่นคำให้การ แล้วได้ขอกำหนดวันเวลานัดสืบพยานโจทก์กับพนักงานรับฟ้องโดยนัดวันที่ 25 พฤศจิกายน 2525 เวลา 9 นาฬิกาแต่ทนายโจทก์ลงนัดไว้ในสมุดบันทึกของตนเองว่าเป็นนัดเวลา 13.30นาฬิกา ครั้นเมื่อทนายโจทก์มาขอรับหมายนัดแจ้งกำหนดวันสืบพยานโจทก์ให้จำเลยทราบเพื่อส่งให้แก่จำเลย ในหมายนัดดังกล่าวก็ได้ลงเวลานัดไว้ว่าเวลา 9 นาฬิกา เช่นนี้ การที่ทนายโจทก์นัดหมายให้พยานโจทก์มาศาลในวันนัด เวลา 13.30 นาฬิกาและพากันมาศาลตามเวลาดังกล่าวแม้จะเกิดขึ้นเนื่องจากการสับสนจดจำผิดพลาดของทนายโจทก์ มิใช่ความผิดพลาดอันเกิดขึ้นจากตัวโจทก์เองโดยตรงก็ตาม ก็ถือว่าการขาดนัดพิจารณาของโจทก์เป็นไปโดยจงใจและไม่มีเหตุอันสมควรที่โจทก์จะขอพิจารณาใหม่ ในชั้นไต่สวนขอให้พิจารณาใหม่ โจทก์มีหน้าที่นำพยานหลักฐานเข้าสืบแสดงให้ศาลเห็นเพียงว่าการขาดนัดพิจารณาของโจทก์นั้นมิได้เป็นไปโดยจงใจหรือมีเหตุอันสมควรเท่านั้น โจทก์นำสืบในชั้นไต่สวนขอให้พิจารณาใหม่ก้าวล่วงไปถึงฐานะแห่งการเป็นนิติบุคคลและบุคคลผู้เป็นผู้แทนของโจทก์กับการมอบอำนาจให้ อ.ฟ้องดำเนินคดีแทนอันเป็นประเด็นข้อที่ 1 แห่งคดีซึ่งโจทก์มีภาระการพิสูจน์ในชั้นพิจารณาคดี เช่นนี้ จะนำพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบในชั้นไต่สวนขอให้พิจารณาใหม่ดังกล่าวมาใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นพิจารณาประเด็นแห่งคดีไม่ได้ เมื่อภาระการพิสูจน์ในประเด็นแห่งคดีดังกล่าวตกแก่โจทก์ และโจทก์ไม่มีสิทธินำพยานเข้าสืบแล้วโจทก์ก็ต้องตกเป็นฝ่ายแพ้คดี จึงไม่จำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ในประเด็นอื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5312/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้าทำให้ไม่อาจสืบพยานได้ ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลล่าง
ผู้ร้องอ้างว่ามิได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน เพราะทนายผู้ร้องไม่ได้อ่านหมายนัดสืบพยานโจทก์โดยเข้าใจว่าเป็นหมายนัดชี้สองสถานนั้น เป็นข้ออ้างที่ปราศจากเหตุผลไม่อาจรับฟังได้ไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะรับบัญชีระบุพยานของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 และผู้ร้องไม่อาจนำพยานหลักฐานหรือตนเองเข้าสืบได้เพราะต้องห้ามตามมาตรา 87

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5212/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำฟ้องคดีแรงงานหลังสืบพยาน และการคำนวณดอกเบี้ยค้างชำระ
โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมคำขอท้ายฟ้อง โดยขอให้จำเลยจ่ายเงินเพิ่มร้อยละสิบห้าทุกระยะเจ็ดวันของค่าจ้างที่เป็นค่านายหน้าจากการขายไปจนกว่าจะชำระเสร็จ อันเป็นกรณีที่โจทก์เรียกร้องเงินเพิ่มตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 31 ซึ่งขณะยื่นฟ้องโจทก์ทราบถึงสิทธิในข้อนี้อยู่แล้วและคดีไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องก่อนวันชี้สองสถาน หรือก่อนวันสืบพยานแล้วแต่กรณี โจทก์ฟ้องเรียกค่านายหน้าจากการขายจากจำเลย จำเลยให้การว่าค่านายหน้าที่โจทก์เรียกมา 8,103.55 บาท นั้น จำเลยขอปฏิเสธความจริงจำเลยค้างชำระอยู่เพียง 2,722.29 บาท ถือได้ว่าจำเลยได้ปฏิเสธจำนวนค่านายหน้าที่ต้องรับผิดต่อโจทก์แล้ว ที่จำเลยนำสืบว่าจำเลยไม่ต้องจ่ายค่านายหน้าตามจำนวนที่โจทก์ฟ้อง เพราะจำเลยยังมิได้รับชำระราคาสินค้า จึงอยู่ในประเด็นที่จำเลยได้ให้การต่อสู้ไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5132/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการสืบพยานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ชื่อโจทก์ และการคิดดอกเบี้ยจากวันผิดนัด
การที่ศาลชั้นต้นเรียกให้โจทก์สืบพยานเพิ่มเติมภายหลังจากสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยเสร็จแล้วเพียงรอฟัง คำพิพากษา เพื่อพิสูจน์ชื่อโจทก์เพราะชื่อโจทก์ตามฟ้องกับหนังสือรับรองของกระทรวงพาณิชย์ไม่ตรงกันนั้นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลชั้นต้นมีอำนาจดำเนินการได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคท้าย และ 187
จำเลยผู้ซื้อผิดนัดชำระราคาตามสัญญาซื้อขาย โจทก์ผู้ขายมีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากยอดหนี้ที่ค้างชำระนับแต่วันที่จำเลยผิดนัด แต่เมื่อโจทก์มิได้นำสืบว่าโจทก์ทวงถามวันใดอันจะถือว่าจำเลยผิดนัด ศาลให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5132/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการสืบพยานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ตัวโจทก์ และการพิพากษาคดีซื้อขายถ่านหิน
การที่ศาลชั้นต้นเรียกให้โจทก์สืบพยานเพิ่มเติมภายหลังจากสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยเสร็จแล้วเหลือเพียงรอฟังคำพิพากษาเพื่อพิสูจน์ชื่อโจทก์เพราะชื่อโจทก์ตามฟ้องกับหนังสือรับรองของกระทรวงพาณิชย์ไม่ตรงกันนั้น เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลชั้นต้นมีอำนาจดำเนินการได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 86 วรรคท้าย และ 187 จำเลยผู้ซื้อผิดนัดชำระราคาตามสัญญาซื้อขาย โจทก์ผู้ขายมีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากยอดหนี้ที่ค้างชำระนับแต่วันที่จำเลยผิดนัดแต่เมื่อโจทก์มิได้นำสืบว่าโจทก์ทวงถามวันใดอันจะถือว่าจำเลยผิดนัด ศาลให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5011-5036/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีแรงงานและการสิทธิในการสืบพยานหลังพ้นกำหนด
เมื่อจำเลยขาดนัดพิจารณา ศาลย่อมมีอำนาจสั่งและดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 202 แล้วจดแจ้งเรื่องที่กระทำหรือการดำเนินกระบวนพิจารณาทั้งหลายนั้นคงไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาฉบับเดียวกันได้
จำเลยมาศาลในขณะที่ศาลแรงงานกลางกำลังอ่านรายงานกระบวนพิจารณา ซึ่งศาลแรงงานกลางได้มีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์ที่เหลือนั้นต่อไปและจดแจ้งว่าคดีเสร็จการพิจารณา ดังนี้ เป็นเรื่องที่จำเลยมาศาลเมื่อพ้นเวลาที่จำเลยจะนำพยานของตนเข้าสืบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสาม (1) จำเลยจึงไม่มีสิทธินำพยานเข้าสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4823/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มาศาลของโจทก์ในวันสืบพยาน ไม่ถือเป็นการขาดนัดพิจารณา สิทธิขอพิจารณาใหม่จึงไม่เกิดขึ้น
โจทก์ไม่มาศาลในวันสืบพยาน ศาลแรงงานกลางสั่งว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบและสั่งงดสืบพยานจำเลย พิพากษายกฟ้อง เช่นนี้มิใช่การพิจารณาโดยขาดนัดอันจะเป็นเหตุให้คู่ความร้องขอให้มีการพิจารณาใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 207 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานกลางฯพ.ศ. 2522 มาตรา 31

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องละเมิดหลังการบังคับคดีเสร็จสิ้น และการสืบพยานเพื่อพิสูจน์ความรับผิด
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง การคัดค้านการบังคับคดีต้องกระทำก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง เมื่อการบังคับคดีได้เสร็จลงไปแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการยึดและการขายทอดตลาด
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ให้รับผิดต่อโจทก์เพราะจำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันละเมิดต่อโจทก์โดยฝ่าฝืนกฎหมายจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นชอบที่จะฟังพยานหลักฐานจากการสืบพยานทั้งสองฝ่ายในส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องละเมิดเสียก่อนว่า ฟ้องโจทก์รับฟังได้หรือไม่ และจำเลยทั้งสามจะต้องรับผิดหรือไม่เพียงใด การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยและมีคำพิพากษาจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาย่อมย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานโจทก์ จำเลยแล้วพิพากษาใหม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดชี้สองสถานและวันนัดสืบพยาน: ผลต่อการดำเนินคดี
จำเลยทราบวันนัดชี้สองสถานโดยชอบแล้ว แต่ถึงวันนัดจำเลยไม่มาและศาลได้ชี้สองสถานไปโดยกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ไว้ด้วยการกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ดังกล่าวเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาล ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2527บัญญัติไว้ให้ถือว่าคู่ความฝ่ายที่ไม่มาศาลในวันชี้สองสถานทราบแล้วจึงต้องถือว่าจำเลยได้ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ เมื่อจำเลยไม่มาในวันนัดสืบพยานที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาจึงเป็นการชอบแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4545/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา: พยานหลักฐานมั่นคง, การต่อสู้, และอำนาจสั่งให้สืบพยานเพิ่มเติม
ในคดีอาญา ศาลสั่งให้งดสืบพยานโจทก์ที่ไม่มาศาลไปแล้วต่อมาระหว่างสืบพยานจำเลย พยานมาศาล เนื่องจากเป็นประจักษ์พยานโจทก์เพียงปากเดียวที่รู้เห็นเกี่ยวกับประเด็นในคดีศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้สืบพยานดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228.
of 98