พบผลลัพธ์ทั้งหมด 479 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2941-2942/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบแร่ที่ขนส่งโดยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาต: แร่ที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายไม่เข้าข่ายต้องริบ
แร่ของกลางเป็นแร่ที่ได้รับอนุญาตโดยถูกต้องตามกฎหมายทั้งทรัพยากรธรณีจังหวัดได้ออกใบอนุญาตขนแร่ให้จำเลยแล้วการกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพราะไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาตขนแร่ที่ให้บันทึกการขนแร่พร้อมกับลงลายมือชื่อกำกับในใบอนุญาตขนแร่ทันทีที่ขนแร่ออกจากต้นทาง แร่ของกลางจึงหาใช่แร่ที่บุคคลได้มาได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามมาตรา 148 อันต้องริบตามมาตรา 154ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342-2345/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบแร่ที่ขนโดยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาต: แร่ที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ถือเป็นแร่ที่ใช้ในการกระทำความผิด
แร่ของกลางเป็นแร่ที่ได้รับอนุญาตโดยถูกต้องตามกฎหมาย และทรัพยากรธรณีประจำท้องที่ก็ได้ออกใบอนุญาตขนแร่ให้จำเลยทำการขนได้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้วแต่จำเลยละเว้นไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาตขนแร่ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตขนแร่ต้องบันทึกการขนแร่พร้อมกับลงลายมือชื่อกำกับในใบอนุญาตขนแร่ทันทีที่ขนแร่ออกจากต้นทางความผิดของจำเลยจึงอยู่ที่มิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นเท่านั้น แร่ของกลางจึงไม่ใช่แร่ที่ได้มาได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ได้ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด อันพึงต้องริบตามนัยมาตรา 154 แห่งพระราชบัญญัติแร่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342-2345/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบแร่ที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย หากความผิดเกิดจากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาตขนแร่
แร่ของกลางเป็นแร่ที่ได้รับอนุญาตโดยถูกต้องตามกฎหมายและทรัพยากรธรณีประจำท้องที่ก็ได้ออกใบอนุญาตขนแร่ให้จำเลยทำการขนได้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้วแต่จำเลยละเว้นไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาตขนแร่ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตขนแร่ต้องบันทึกการขนแร่พร้อมกับลงลายมือชื่อกำกับในใบอนุญาตขนแร่ทันทีที่ขนแร่ออกจากต้นทางความผิดของจำเลยจึงอยู่ที่มิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นเท่านั้น แร่ของกลางจึงไม่ใช่แร่ที่ได้มาได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด อันพึงต้องริบตามนัยมาตรา 154 แห่งพระราชบัญญัติแร่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาชดเชยค่าก่อสร้าง: การตีความเงื่อนไขการจ่ายเงิน การอนุมัติงวดเงินเป็นวิธีการจ่าย ไม่ใช่เงื่อนไข
ข้อความในสัญญาที่ว่า "ผู้ว่าจ้างตกลงจะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้รับจ้างเป็นเงินจำนวนหนึ่ง เมื่อได้รับอนุมัติงวดเงินจากสำนักงบประมาณตามกฎหมายแล้ว" นั้นไม่ใช่เป็นเงื่อนไขในการจ่ายเงินชดเชยว่าจะจ่ายเงินให้ผู้รับจ้างต่อเมื่อสำนักงบประมาณอนุมัติให้จ่าย หากไม่รับอนุมัติก็ไม่ต้องจ่าย แต่เป็นวิธีการที่จะจ่ายเงินค่าจ้างให้ต่อเมื่อได้รับอนุมัติงวดเงินจากสำนักงบประมาณตามกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเพิ่มค่าก่อสร้าง: ข้อกำหนดการจ่ายเงินไม่ใช่เงื่อนไข แต่เป็นวิธีการชำระหนี้ และประเด็นอายุความที่ไม่อุทธรณ์ในชั้นต้น
กระทรวงสาธารณสุขจำเลยทำสัญญาเพิ่มเงินค่าก่อสร้างให้แก่โจทก์ผู้รับจ้าง เพราะอุปกรณ์การก่อสร้างมีราคาสูงขึ้นผิดปกติ เนื่องจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ หากจำเลยผู้ว่าจ้างไม่เพิ่มให้โจทก์อาจทิ้งงานเป็นผลให้งานก่อสร้างของทางราชการต้องล่าช้าเสียหาย เงินเพิ่มชดเชยนี้เป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้างตามสัญญาเดิมซึ่งโจทก์ผู้รับจ้างจะต้องวางเงินสดหรือหนังสือค้ำประกันเช่นเดียวกับสัญญาเดิม และเป็นเงินที่เพิ่มตามมติคณะรัฐมนตรีซึ่งมีจำนวนตามที่คู่สัญญาตกลงกันแล้วว่า จะเพียงพอให้งานก่อสร้างตามสัญญาเดิมดำเนินไปจนเสร็จสิ้น ดังนั้น ข้อความในสัญญาเพิ่มเงินค่าก่อสร้างที่ว่า " ผู้ว่าจ้างตกลงจะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้รับจ้าง เป็นจำนวนเงิน 1,530,880 บาท เมื่อได้รับอนุมัติงวดเงินจากสำนักงบประมาณตามกฎหมายแล้ว " จึงมิใช่เงื่อนไข แต่เป็นวิธีการกำหนดการจ่ายเงินค่าจ้าง คือ จำเลยผู้ว่าจ้างจะจ่ายเงินค่าจ้างให้โจทก์ เมื่อได้รับอนุมัติงวดเงินจากสำนักงบประมาณแล้ว จำเลยจะอ้างว่าไม่ต้องรับผิดในกรณีที่สำนักงบประมาณไม่อนุมัติงวดเงินที่ค้างชำระอยู่อีก 356,690 บาทหาได้ไม่
จำลยไม่ได้ยกปัญหาเรื่องอายุความขึ้นในชั้นอุทธรณ์ จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมเดิม พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 7
จำลยไม่ได้ยกปัญหาเรื่องอายุความขึ้นในชั้นอุทธรณ์ จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมเดิม พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 7
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเพิ่มค่าก่อสร้าง: การจ่ายเงินเมื่อได้รับอนุมัติงบประมาณไม่ใช่เงื่อนไข แต่เป็นวิธีการจ่าย
กระทรวงสาธารณสุขจำเลยทำสัญญาเพิ่มเงินค่าก่อสร้างให้แก่โจทก์ผู้รับจ้างเพราะอุปกรณ์การก่อสร้างมีราคาสูงขึ้นผิดปกติเนื่องจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ หากจำเลยผู้ว่าจ้างไม่เพิ่มให้โจทก์อาจทิ้งงานเป็นผลให้งานก่อสร้างของทางราชการต้องล่าช้าเสียหาย เงินเพิ่มชดเชยนี้เป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้างตามสัญญาเดิมซึ่งโจทก์ผู้รับจ้างจะต้องวางเงินสดหรือหนังสือค้ำประกันเช่นเดียวกับสัญญาเดิม และเป็นเงินที่เพิ่มตามมติคณะรัฐมนตรีซึ่งมีจำนวนตามที่คู่สัญญาตกลงกันแล้วว่า จะเพียงพอให้งานก่อสร้างตามสัญญาเดิมดำเนินไปจนเสร็จสิ้น ดังนั้น ข้อความในสัญญาเพิ่มเงินค่าก่อสร้างที่ว่า "ผู้ว่าจ้างตกลงจะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้รับจ้าง เป็นจำนวนเงิน 1,530,880 บาท เมื่อได้รับอนุมัติงวดเงินจากสำนักงบประมาณตามกฎหมายแล้ว" จึงมิใช่เงื่อนไข แต่เป็นวิธีการกำหนดการจ่ายเงินค่าจ้างคือ จำเลยผู้ว่าจ้างจะจ่ายเงินค่าจ้างให้โจทก์ เมื่อได้รับอนุมัติงวดเงินจากสำนักงบประมาณแล้ว จำเลยจะอ้างว่าไม่ต้องรับผิดในกรณีที่สำนักงบประมาณไม่อนุมัติงวดเงินที่ค้างชำระอยู่อีก 356,690 บาทหาได้ไม่
จำเลยไม่ได้ยกปัญหาเรื่องอายุความขึ้นในชั้นอุทธรณ์ จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมเดิมพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 7
จำเลยไม่ได้ยกปัญหาเรื่องอายุความขึ้นในชั้นอุทธรณ์ จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมเดิมพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 7
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1614/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายคอมพิวเตอร์มีเงื่อนไข: สิทธิบอกเลิกสัญญาเมื่อไม่สามารถส่งมอบสินค้าตามสัญญา และสิทธิเรียกร้องค่าใช้ทรัพย์
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ขายทำงานได้ระบบเดียว อีก 6 ระบบทำงานไม่ได้ตามสัญญา ผู้ซื้อเลิกสัญญาได้ศาลให้คืนเครื่องคอมพิวเตอร์ผู้ซื้อไม่ต้องใช้ราคา แต่ให้ใช้ค่าใช้ทรัพย์ที่ใช้ได้ 1 ระบบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1562/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนเมื่อซื้อขาย แม้ยังไม่โอนทะเบียน สัญญาซื้อขายมีเงื่อนไข กรรมสิทธิ์ยังไม่โอนจนกว่าจะชำระเงินและโอนทะเบียนครบถ้วน
ซื้อขายรถยนต์ แม้ไม่โอนทะเบียนเป็นชื่อผู้ซื้อกรรมสิทธิ์ก็โอนไปเป็นของผู้ซื้อตาม มาตรา 458 ผู้ซื้อขายต่อไปโดยมีข้อสัญญาว่า ชำระราคาครบจึงจะโอนทะเบียนรถให้ และให้ถือการโอนชื่อในทะเบียนเป็นเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์ ดังนี้ เป็นสัญญาซื้อขายมีเงื่อนไขตามมาตรา459 กรรมสิทธิ์ยังไม่โอนจนกว่าจะชำระราคาครบและโอนทะเบียนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายมีผลผูกพันเมื่อตกลงเงื่อนไขกันได้ชัดเจน แม้มีการผ่อนปรนเงื่อนไขเดิม และจำเลยต้องรับผิดชอบค่าเสียหายจากการผิดสัญญา
โจทก์สอบถามเพื่อซื้อสินค้าจากจำเลย จำเลยวางเงื่อนไขว่าโจทก์จะต้องชำระราคาเป็นเงินสด 15% พร้อมกับใบสั่งสินค้า หลังจากนั้นโจทก์ได้ติดต่อขอลดราคาและขอให้ยื่นราคาต่อไปอีก จำเลยกำหนดให้โจทก์ชำระราคาเป็นเงินภายใน 4 วัน หลังจากการส่งมอบโดยมีธนาคารค้ำประกัน ไม่ได้กล่าวถึงการวางเงินสด 15% อีก โจทก์สั่งซื้อสินค้า จำเลยตอบรับว่าจะส่งสินค้าให้ ดังนี้ สัญญาซื้อขายเกิดขึ้นแล้ว จำเลยจะอ้างว่าสัญญายังไม่มีผลผูกพันเพราะโจทก์ไม่ได้ชำระเงิน 15% หาได้ไม่
ในระยะเวลาที่จำเลยสัญญาว่าจะส่งสินค้าให้โจทก์ดังกล่าว โจทก์ได้แจ้งเป็นหนังสือให้จำเลยทราบถึงสองคราวว่า สินค้าดังกล่าว โจทก์ได้ตกลงขายต่อให้กับลูกค้าแล้ว หากจำเลยส่งสินค้าดังกล่าวล่าช้าไม่ทันกำหนด โจทก์จะต้องถูกปรับ จำเลยผิดสัญญาโจทก์ถูกลูกค้าปรับ ค่าปรับดังกล่าวถือได้ว่าเป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษที่จำเลยได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าก่อนแล้ว จำเลยจึงต้องรับผิดในค่าปรับดังกล่าวด้วย
ในระยะเวลาที่จำเลยสัญญาว่าจะส่งสินค้าให้โจทก์ดังกล่าว โจทก์ได้แจ้งเป็นหนังสือให้จำเลยทราบถึงสองคราวว่า สินค้าดังกล่าว โจทก์ได้ตกลงขายต่อให้กับลูกค้าแล้ว หากจำเลยส่งสินค้าดังกล่าวล่าช้าไม่ทันกำหนด โจทก์จะต้องถูกปรับ จำเลยผิดสัญญาโจทก์ถูกลูกค้าปรับ ค่าปรับดังกล่าวถือได้ว่าเป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษที่จำเลยได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าก่อนแล้ว จำเลยจึงต้องรับผิดในค่าปรับดังกล่าวด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายมีผลผูกพันเมื่อตกลงเงื่อนไขครบถ้วน แม้มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขบางส่วน ผู้ขายต้องรับผิดต่อค่าเสียหายจากการผิดสัญญา
โจทก์สอบถามเพื่อซื้อสินค้าจากจำเลย จำเลยวางเงื่อนไขว่าโจทก์จะต้องชำระราคาเป็นเงินสด 15% พร้อมกับใบสั่งสินค้าหลังจากนั้นโจทก์ ได้ติดต่อขอลดราคาและขอให้ยื่นราคาต่อไปอีกจำเลยกำหนดให้โจทก์ชำระราคาเป็นเงินสดภายใน 4 วัน หลังจากการส่งมอบโดยมีธนาคารค้ำประกันไม่ได้กล่าวถึงการวางเงินสด 15% อีก โจทก์สั่งซื้อสินค้าจำเลยตอบรับว่าจะส่งสินค้าให้ ดังนี้สัญญาซื้อขายเกิดขึ้นแล้วจำเลยจะอ้างว่าสัญญายังไม่มีผลผูกพันเพราะโจทก์ไม่ได้ชำระเงิน 15% หาได้ไม่
ในระยะเวลาที่จำเลยสัญญาว่าจะส่งสินค้าให้โจทก์ดังกล่าวโจทก์ได้แจ้งเป็นหนังสือให้จำเลยทราบถึงสองคราวว่าสินค้าดังกล่าว โจทก์ได้ตกลงขายต่อให้กับลูกค้าแล้วหากจำเลยส่งสินค้าดังกล่าวล่าช้าไม่ทันกำหนดโจทก์จะต้องถูกปรับจำเลยผิดสัญญาโจทก์ถูกลูกค้าปรับค่าปรับดังกล่าวถือได้ว่าเป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษที่จำเลยได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าก่อนแล้วจำเลยจึงต้องรับผิด ในค่าปรับดังกล่าวด้วย
ในระยะเวลาที่จำเลยสัญญาว่าจะส่งสินค้าให้โจทก์ดังกล่าวโจทก์ได้แจ้งเป็นหนังสือให้จำเลยทราบถึงสองคราวว่าสินค้าดังกล่าว โจทก์ได้ตกลงขายต่อให้กับลูกค้าแล้วหากจำเลยส่งสินค้าดังกล่าวล่าช้าไม่ทันกำหนดโจทก์จะต้องถูกปรับจำเลยผิดสัญญาโจทก์ถูกลูกค้าปรับค่าปรับดังกล่าวถือได้ว่าเป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษที่จำเลยได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าก่อนแล้วจำเลยจึงต้องรับผิด ในค่าปรับดังกล่าวด้วย