พบผลลัพธ์ทั้งหมด 369 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2016/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของร่วม: การพิสูจน์ส่วนได้เสียและผลของการรับโอนโดยไม่สุจริต
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1357 เป็นแต่เพียงความสันนิษฐานของกฎหมายเท่านั้นว่า ผู้เป็นเจ้าของร่วมมีส่วนเท่ากันแต่ผู้เป็นเจ้าของร่วมกัน ย่อมนำสืบได้ว่า มีส่วนมากน้อยกว่ากันได้ ฉะนั้นผู้มีชื่อในโฉนดร่วมกันย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้แสดงว่าใครมีส่วนเป็นเจ้าของมากน้อยเพียงใดได้
ที่ดินมีชื่อผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในโฉนดร่วมกัน 2 คน เจ้าของร่วมคนหนึ่งขายส่วนของตนให้แก่ผู้ซื้อ แล้วถูกผู้ซื้อฟ้องศาลจนศาลพิพากษาให้โอนแก่ผู้ซื้อ ในชั้นบังคับคดีผู้เป็นเจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลว่าเจ้าของร่วมผู้ขายมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นเพียง 3 ไร่ ไม่ใช่ครึ่งหนึ่ง ศาลได้รับข้อค้านนั้นไว้ดำเนินการพิจารณาต่อไป หลังจากนั้นผู้ซื้อจึงได้รับโอนที่ดินนั้นกึ่งหนึ่ง ดังนี้ ย่อมถือได้ว่ารับโอนไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าผู้ขายมีกรรมสิทธิ์ไม่ถึงครึ่งหนึ่งดังที่มีชื่อในโฉนด เพราะมีข้อพิพาทกันต่อไปแล้วว่า ผู้ขายมีส่วนเป็นเจ้าของเท่าไรแน่ ฉะนั้นจึงเป็นการรับโอนโดยไม่สุจริต
ที่ดินมีชื่อผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในโฉนดร่วมกัน 2 คน เจ้าของร่วมคนหนึ่งขายส่วนของตนให้แก่ผู้ซื้อ แล้วถูกผู้ซื้อฟ้องศาลจนศาลพิพากษาให้โอนแก่ผู้ซื้อ ในชั้นบังคับคดีผู้เป็นเจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลว่าเจ้าของร่วมผู้ขายมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นเพียง 3 ไร่ ไม่ใช่ครึ่งหนึ่ง ศาลได้รับข้อค้านนั้นไว้ดำเนินการพิจารณาต่อไป หลังจากนั้นผู้ซื้อจึงได้รับโอนที่ดินนั้นกึ่งหนึ่ง ดังนี้ ย่อมถือได้ว่ารับโอนไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าผู้ขายมีกรรมสิทธิ์ไม่ถึงครึ่งหนึ่งดังที่มีชื่อในโฉนด เพราะมีข้อพิพาทกันต่อไปแล้วว่า ผู้ขายมีส่วนเป็นเจ้าของเท่าไรแน่ ฉะนั้นจึงเป็นการรับโอนโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยไม่สุจริตและผลกระทบต่อสิทธิในที่ดินส่วนของผู้อื่น
มารดาเอาที่ดินที่ตนและบุตรเป็นเจ้าของร่วมกันไปขอทำสัญญาขายให้แก่ผู้อื่น ทางอำเภอจึงประกาศโฆษณาการขาย บุตรจึงไปร้องคัดค้านจนทางอำเภอสั่งระงับการทำสัญญาซื้อขายไว้ ผู้จะซื้อจึงเลี่ยงมาขออำนาจศาล ฟ้องมารดาให้โอนขายที่นั้นตามสัญญา แล้วทำยอมกัน ศาลพิพากษาให้โอนขายกันตามยอม แล้วแจ้งให้อำเภอทำสัญญาซื้อขายให้ ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าผู้ซื้อใช้สิทธิไม่สุจริต ผู้ซื้อจะเถียงว่าตนรับซื้อไว้โดยสุจริตควรได้สิทธิทางทะเบียนหาได้ไม่ นิติกรรมซื้อขายนั้นย่อมไม่ผูกพันที่ดินส่วนของบุตรด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งมอบทรัพย์สินหลังพ้นหน้าที่ตัวแทนและการครอบครองโดยไม่สุจริตของผู้รับโอน
ตัวแทนเมื่อพ้นหน้าที่เป็นตัวแทน จะต้องส่งมอบทรัพย์สินที่ตนปกครองดูแลคืนให้ตัวการโดยสิ้นเชิง, ทรัพย์สิ่งใดที่ตัวแทนยังคงยึดถือครอบครองไว้ ไม่ส่งคืนให้ตัวการ โดยตัวการไม่ทราบนั้น ตัวแทนจะอ้างว่าเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์เพื่อเอาเป็นของตนเสียมิได้ ต้องถือว่ายังคงยึดถือครอบครองไว้แทนตัวการและผู้อื่นที่เข้าครอบครองโดยตัวแทนแบ่งให้เมื่อทราบว่าตัวแทนไม่มีอำนาจเอาทรัพย์นั้นมาแบ่งให้ตนแล้ว การที่ผู้อื่นเข้าครอบครอง จึงตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ครอบครองแทนตัวการเช่นเดียวกับตัวแทนนั้นซึ่งจะอ้างมาใช้ยันตัวการไม่ได้ จนกว่าจะได้บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการครอบครองแห่งการครอบครองตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 1381, 93 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยไม่สุจริตและการครอบครองปรปักษ์ ศาลต้องฟังพยานทั้งสองฝ่าย
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินและเรือนจาก ป.กับได้โอนโฉนดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยเข้าครอบครองโดยไม่มีสิทธิ ขอให้ขับไล่จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ซื้อไปโดยไม่สุจริตโดยโจกท์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยเป็นเจ้าของครอบครองขณะโจทก์รับโอนดังนี้ ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโดยเห็นว่า โฉนดมีชื่อ ป.เป็นเจ้าของโจทก์ไม่มีหน้าที่จะต้องไปรู้ถึงการครอบครองของจำลเย แล้วพิพากษาขับไล่จำเลย หาชอบไม่ ศาลต้องดำเนินการ การพิจารณาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยไม่สุจริต ศาลต้องรับฟังพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์การครอบครองของจำเลย
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินและเรือนจาก ป. กับได้โอนโฉนดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยเข้าครอบครองโดยไม่มีสิทธิ ขอให้ขับไล่จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ซื้อไปโดยไม่สุจริตโดยโจทก์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยเป็นเจ้าของครอบครองขณะโจทก์รับโอน ดังนี้ ศาลชั้นต้นจะสั่งงดสืบพยานโดยเห็นว่า โฉนดมีชื่อ ป. เป็นเจ้าของโจทก์ไม่มีหน้าที่จะต้องไปรู้ถึงการครอบครองของจำเลย แล้วพิพากษาขับไล่จำเลย หาชอบไม่ ศาลต้องดำเนินการการพิจารณาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1813/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำนาในที่พิพาทโดยผู้ซื้อที่ไม่สุจริต ถือเป็นการละเมิดสิทธิเจ้าของเดิม แม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้ชนะคดีก่อน
แม้จะปรากฏว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชนะคดีจำเลยจึงเข้าทำนาพิพาทก็ตาม เมื่อในชั้นที่สุดศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์แต่เดิมมา จำเลยรับซื้อไว้จากผู้มีชื่อโดยไม่สุจริต และคดีถึงที่สุดแล้วดังนี้ ก็เป็นอันว่าจำเลยไม่มีสิทธิเหนือที่พิพาทแต่ประการใด ที่พิพาทคงเป็นของโจทก์ตลอดมา ฉะนั้นการที่จำเลยเข้าทำนาพิพาทโดยพลการของจำเลยเองจึงเป็นการทำละเมิดต่อสิทธิของโจทก์ในนาพิพาท โจทก์มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อที่ดินร่วมกับเงื่อนไขการโอนสิทธิ - การโอนโดยไม่สุจริตไม่กระทบสิทธิเจ้าของร่วม
โจทก์ออกเงินซื้อที่ดินร่วมกับจำเลยโดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียบร้อยแล้ว จำเลยจะโอนโฉนดใส่ชื่อโจทก์ร่วมด้วย ดังนี้ หาเป็นสัญญาที่ผิดกฎหมายไม่ และต่อมาเมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียบร้อยแล้ว จำเลยก็ต้องปฏิบัติตามสัญญานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนขายนา การโอนที่ไม่สุจริตและไม่มีค่าตอบแทน ประเด็นอยู่ที่การพิสูจน์ความสุจริตและค่าตอบแทน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ขายนาให้โจทก์ ๆ ชำระราคาแล้ว จำเลยที่ 1 กลับโอนนาให้แก่จำเลยที่ 2-3 โดยไม่สุจริตและไม่มีค่าตอบแทน ขอให้ศาลเพิกถอนและบังคับให้จำเลยโอนขายให้แก่โจทก์ตามสัญญา จำเลยให้การว่า การโอนระหว่างจำเลยเป็นไปโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน ประเด็นจึงมีว่า การโอนระหว่างจำเลยเป็นไปโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนหรือไม่ ซึ่งต้องฟังคำพะยานต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนขายที่ดินไม่สุจริตและไม่มีค่าตอบแทน ศาลต้องฟังพยานเพื่อพิสูจน์ความสุจริต
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ขายนาให้โจทก์ โจทก์ชำระราคาแล้ว จำเลยที่ 1 กลับโอนนาให้แก่จำเลยที่ 2-3 โดยไม่สุจริตและไม่มีค่าตอบแทนขอให้ศาลเพิกถอนและบังคับให้จำเลยโอนขายให้แก่โจทก์ตามสัญญาจำเลยให้การว่า การโอนระหว่างจำเลยเป็นไปโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนประเด็นจึงมีว่า การโอนระหว่างจำเลยเป็นไปโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนหรือไม่ ซึ่งต้องฟังคำพยานต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 698/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยไม่สุจริตและไม่มีค่าตอบแทนหลังเจ้าของได้กรรมสิทธิ์แล้ว
โจทก์ครองครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิตามมาตรา 1382 แล้วได้ไปกู้เงินโดยเอาโฉนดที่พิพาทให้เจ้าหนี้ยึดไว้ จำเลยที่ 1 ลอบไปไถ่คืนเอาโฉนดมาจากเจ้าหนี้ของโจทก์ แล้วโอนใส่ชื่อจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของโดยโจทก์ไม่ทราบ แล้วจำเลยที่ 1 ยังโอนยกให้จำเลยที่ 2 ผู้เป็นบุตร ดังนี้ การโอนโฉนดลงชื่อจำเลยที่ 1 ก็ดีการโอนระหว่างจำเลยที่ 1 กับ ที่ 2 ก็ดี เป็นไปโดยไม่สุจริตและไม่มีค่าตอบแทน จำเลยทั้งสองจะยกมาตรา 1299, 1300 ขึ้น ต่อสู้โจทก์ไม่ได้.