พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,640 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ของกลางไม่จำเป็นต้องนำส่งศาล เพียงพยานบุคคลเพียงพอลงโทษได้
ของกลางที่เจ้าพนักงานจับได้จากจำเลย โจทย์ไม่จำต้องอ้างนำส่งศาล การพิจารณาคดีแม้โจทย์จะสืยเพียงพะยานบุคคลเท่านั้นหากเป็นการเพียงพอก็ลงโทษได้ ไม่จำต้องมีของกลางหรือวัตถุพะยาน อ้างฎีกาที่ 619/2479
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้ถ่อไม่ใช่สาตราวุธ การลดโทษอยู่ในดุลยพินิจศาล
ไม้ถ่อซึ่งจำเลยใช้ตีเป็นเพื่อลักเอกไปนั้น ไม่ใช่สาตราวุธตาม ม.6 ข้อ 15 สมควรลดโทษตาม ม.59 หรือไม่นั้นอยู่ในดุลยพินิจของศาล ไม่ใช่ปัญหากฎหมาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 142/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลยพินิจศาลในการส่งตัวผู้กระทำผิดไปกักกัน ตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย
โจทย์ฟ้องว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายขอให้ส่งตัวไปกักัน เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายขอให้ส่งตัวไปกักกัน เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายก็ไม่ควรลงโทษกักกันแก่จำเลยจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายหรือไม่เป็นดุลยพินิจของศาล ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.118 ศาลเดิมลงโทษจำเลยตาม ม.254 และส่งไปกักกัน 3 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ว่าไม่ควรส่งไปกักกันดังนี้ ฏีกาในข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้ (หมายเหตุ ครั้งก่อนจำเลยต้องโทษฐานชิงทรัพย์ตามกฏหมายอาญา ม.298 ครั้งที่ 2 ฐานลักทรัพย์ตาม ม.288)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งคืนของกลาง: กรณีโต้แย้งกรรมสิทธิ์ในคดีอาญา
ในคดีที่อัยยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร จำเลยต่อสู้ว่าของกลางเป็นของจำเลยเมื่อศาลไม่ฟังว่าจำเลยมีความผิด แต่ฟังว่าของกลางเป็นของเจ้าทรัพย์ก็สั่งคืนของกลางให้เจ้าทรัพย์ได้
อ้างฎีกาที่ 647/2478,
ที่ 1102/2481
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.48 วรรค 3 เป็นเรื่องโต้แย้งระหว่างผู้อื่น ไม่เกี่ยวกับจำเลย.
อ้างฎีกาที่ 647/2478,
ที่ 1102/2481
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.48 วรรค 3 เป็นเรื่องโต้แย้งระหว่างผู้อื่น ไม่เกี่ยวกับจำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1355/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่ซ้ำ: ศาลมิได้ชี้ขาดกรรมสิทธิ์เดิม จึงไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
เดิมโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าที่ดินเป็นของโจทก์ตามหน้าโฉนด ศาลพิพากษายกฟ้องมิได้ชี้ขาดว่าเป็นที่ของผู้ใดดังนี้ โจทก์นำคดีมาฟ้องขับไล่ใหม่โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของทางครอบครองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1258/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับในชั้นสอบสวนใช้ลงโทษจำเลยไม่ได้หากไม่ได้นำสืบประกอบพยานหลักฐาน
โจทก์ไม่ได้อ้างคำรับชั้นสอบสวนของจำเลยมาเป็นพะยาน แล้วศาลก็จะยกเอาคำรับมาเป็นพะยานวินิจฉัยเพื่อลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1139/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษกักกันตามมาตรา 59 อาญา: ศาลไม่ลดโทษเนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพแต่ยังคงมีพฤติกรรมกระทำผิดซ้ำ
โทษกักกันนั้นเมื่อวางกำหนดโทษแล้วศาลอาจลดโทษ+ได้ตามกฎหมายอาญา ม.59
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 983/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการพิจารณาข้อความหมิ่นประมาทจากฟ้องอุทธรณ์: ดุลยพินิจศาล
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์โดยกล่าวข้อ+ในอุทธรณ์คดีเรื่องก่อน+จำเลย ศาลตรวจ+แล้วเรียกสำเนา+อุทธรณ์คดีก่อนมาดูแล้วสั่ง+ฟ้องทีเดียวได้ +ที่ว่าข้อความในฟ้องอุทธรณ์เป็นข้อความอยู่นอก+ในประเด็นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง +จะฟังข้อเท็จจริงโดยตรวจหลักฐานแต่เพียงชั้นเดียวหรือหลายชั้นก็ย่อมอยู่ดุลยพินิจของศาลจะเห็นสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปิดเผยเอกสารพยานในคดีอาญา: หน้าที่ส่งสำเนาเมื่อคู่ความร้องขอและศาลเห็นสมควร
คดีอาญาผู้อ้างพะยานเอกสารจะต้องคัดสำเนาให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าต่อเมื่อฝ่ายนั้นร้องขอ+ละศาลเห็นสมควรเมื่อประมวลวิธีพิจารณาอาญามีบทบัญญัติว่าได้โดยฉะเพาะแล้วจะนำประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งมาอนุโลมใช้บังคับหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาโดยระบุวันที่ผิดพลาด แต่ศาลพบว่าวันเกิดเหตุที่เข้าใจตรงกัน ไม่ถือว่าฟ้องผิดวัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดในระหว่างกลางคืนวันที่ 19-30 ซึ่งตรงกับวันขึ้น 1-2 ค่ำ ทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยกระทำผิดในระหว่างคืนวันขึ้น 1-2 ค่ำ ซึ่งตรงกับวันที่ 30-31 ดังนี้ เมื่อโจทก์จำเลยรวมทั้งพะยานทั้งหลายต่างเข้าใจและให้การเป็นวันขึ้นแรมทั้งสิ้นไม่เรียกว่าโจทก์ฟ้องผิดวัน