พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,515 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาในศาลแขวง: อธิบดีกรมอัยการมีอำนาจอนุญาตฟ้องได้ แม้พ้นกำหนดผัดฟ้อง
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงพ.ศ. 2499 มาตรา 9 ได้ให้อำนาจอธิบดีกรมอัยการไว้อย่างกว้างขวางในอันที่จะพิจารณาเป็นราย ๆ ไปว่า คดีอาญาคดีใดที่อยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาได้ เมื่อมีการจับตัวผู้ต้องหาแล้ว หากผู้ว่าคดีมิได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงให้ทันภายในกำหนดเวลาเจ็ดสิบสองชั่วโมงนับแต่เวลาที่ผู้ต้องหาถูกจับก็ดี หรือเมื่อพ้นกำหนดเวลาเจ็ดสิบสองชั่วโมงไปแล้วมิได้มีการขอผัดฟ้องก็ดี อธิบดีกรมอัยการจะเห็นสมควรอนุญาตให้ฟ้องคดีนั้น ๆ หรือไม่ แม้ในการสอบสวนไม่มีการขอผัดฟ้องทั้ง ๆ ที่ระหว่างสอบสวนจำเลยถูกควบคุมตัวตลอดมานับแต่วันเวลาที่จำเลยถูกจับก็ตามเมื่ออธิบดีกรมอัยการได้พิจารณาแล้วอนุญาตให้ฟ้องจำเลยในข้อหาดังกล่าวได้โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้ได้
บทบัญญัติมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯมุ่งถึงการควบคุมตัวผู้ต้องหาเป็นสารสำคัญ ส่วนกำหนดเวลาที่พนักงานสอบสวนหรือผู้ว่าคดีจะต้องปฏิบัติในการยื่นฟ้องหรือขอผัดฟ้องผู้ต้องหา ย่อมเป็นไปตามมาตรา 7 อำนาจของอธิบดีกรมอัยการตามความในมาตรา 9 หาได้ถูกลบล้างแต่ ประการใดไม่ (อ้างฎีกาที่ 661/2503 และ 133/2506)
บทบัญญัติมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯมุ่งถึงการควบคุมตัวผู้ต้องหาเป็นสารสำคัญ ส่วนกำหนดเวลาที่พนักงานสอบสวนหรือผู้ว่าคดีจะต้องปฏิบัติในการยื่นฟ้องหรือขอผัดฟ้องผู้ต้องหา ย่อมเป็นไปตามมาตรา 7 อำนาจของอธิบดีกรมอัยการตามความในมาตรา 9 หาได้ถูกลบล้างแต่ ประการใดไม่ (อ้างฎีกาที่ 661/2503 และ 133/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้เรื่องการโอนเช็คโดยเจตนาทุจริตและการสมคบคิดฉ้อฉล ผู้รับโอนมีอำนาจฟ้องหรือไม่
จำเลยให้การว่าออกเช็คให้ผู้อื่นเพื่อไปซื้อของให้จำเลย แล้วผู้นั้นพาเช็คหลบหนีไป ต่อมาโจทก์ได้รับเช็คดังกล่าวจากผู้พาเช็คหลบหนีไปโดยสมคบกันเพื่อมาเรียกร้องเอาเงินจากจำเลย ด้วยเจตนาทุจริตและปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ ถือได้ว่าจำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ได้รับเช็ครายพิพาทจากผู้ที่พาเช็คหลบหนีไป โดยคบคิดกันฉ้อฉลจำเลยฉะนั้นจำเลยชอบที่จะนำพยานสืบปฏิเสธความรับผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1410/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีละเมิดจากการไม่บำรุงทางน้ำสาธารณะ ต้องพิสูจน์ความเสียหายเฉพาะตัวของผู้ฟ้อง
โจทก์ฟ้องเทศบาลเป็นจำเลยว่าไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่จะต้องจัดให้มีและบำรุงทางน้ำ ทางบก และทางระบายน้ำ ตลอดจนการรักษาความสะอาด ทำให้โจทก์และประชาชนทั่วไปไม่อาจใช้ทางน้ำสาธารณะเป็นทางสัญจรได้เหมือนแต่ก่อน ดังนี้ ย่อมหมายความว่า พลเมืองที่ใช้ทางน้ำสาธารณะนั้น ๆ ร่วมกันเป็นผู้ได้รับความเสียหาย ไม่ใช่ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายยิ่งกว่าประชาชนทั่วไป ไม่พอให้ถือว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ระหว่างโจทก์กับจำเลย อันจะทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1410/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีละเมิดจากการไม่บำรุงทางน้ำสาธารณะ ต้องพิเคราะห์ความเสียหายเฉพาะตัวของผู้ฟ้อง
โจทก์ฟ้องเทศบาลเป็นจำเลยว่าไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่จะต้องจัดให้มีและบำรุงทางน้ำ ทางบก และทางระบายน้ำ ตลอดจนการรักษาความสะอาดทำให้โจทก์และประชาชนทั่วไปไม่อาจใช้ทางน้ำสาธารณะเป็นทางสัญจรได้เหมือนแต่ก่อน ดังนี้ ย่อมหมายความว่าพลเมืองที่ใช้ทางน้ำสาธารณะนั้น ๆร่วมกันเป็นผู้ได้รับความเสียหาย ไม่ใช่ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายยิ่งกว่าประชาชนทั่วไป ไม่พอให้ถือว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ระหว่างโจทก์กับจำเลย อันจะทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับการเลือกตั้ง: เอกชนไม่มีอำนาจฟ้องหากความเสียหายเกิดต่อแผ่นดิน
พระราชบัญญัติเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482 มาตรา 60 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้มีหน้าที่ในการเลือกตั้งหรือเจ้าพนักงานผู้ใดมีหน้าที่จัดการอย่างใด ๆ ในการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัตินี้ จงใจไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่หรือกระทำการอันใดโดยเจตนาขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย กฎข้อบังคับหรือคำสั่งของศาล อันเกี่ยวแก่การเลือกตั้งตามพระราชบัญญัตินี้มีความผิด ฯลฯ นั้นมุ่งประสงค์จะเอาโทษแก่ผู้มีหน้าที่ในการเลือกตั้งหรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการในการเลือกตั้ง ซึ่งจงใจไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่หรือเจตนาขัดขวางมิให้เป็นไปตามกฎหมาย อันเป็นความเสียหายต่อแผ่นดินและบ้านเมือง เอกชนจึงไม่ถือว่าเป็นผู้เสียหายที่จะมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องบุคคลผู้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามบทบัญญัตินี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีเลือกตั้ง: เอกชนไม่มีอำนาจฟ้องเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งเทศบาล
พระราชบัญญัติเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482 มาตรา 60ซึ่งบัญญัติว่า ผู้มีหน้าที่ในการเลือกตั้งหรือเจ้าพนักงานผู้ใดมีหน้าที่จัดการอย่างใด ๆ ในการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัตินี้จงใจไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่ หรือกระทำการอันใดโดยเจตนาขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย กฎข้อบังคับหรือคำสั่งของศาลอันเกี่ยวแก่การเลือกตั้งตามพระราชบัญญัตินี้มีความผิด ฯลฯ นั้นมุ่งประสงค์จะเอาโทษแก่ผู้มีหน้าที่ในการเลือกตั้งหรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการในการเลือกตั้งซึ่งจงใจไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่หรือเจตนาขัดขวางมิให้เป็นไปตามกฎหมายอันเป็นความเสียหายต่อแผ่นดินและบ้านเมือง เอกชนจึงไม่ถือว่าเป็นผู้เสียหายที่จะมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องบุคคลผู้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามบทบัญญัตินี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องสัญญาเช่าซื้อ: พนักงานลงนามแทนบริษัท ถือเป็นคู่สัญญาที่ถูกต้อง
สัญญาเช่าซื้อระบุชื่อบริษัทโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อกับจำเลยผู้เช่าซื้อไว้ชัดแจ้ง โดยพนักงานของบริษัทโจทก์ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการซื้อขายลงชื่อในสัญญาเช่าซื้อในนามบริษัทโจทก์ เป็นการทำแทนบริษัทโจทก์ มิใช่ทำเป็นส่วนตัว ซึ่งจำเลยก็ทราบดี เมื่อจำเลยลงชื่อไว้ในสัญญาและได้รับทรัพย์ที่เช่าซื้อไปแล้ว สัญญาเช่าซื้อย่อมมีผลผูกพันบริษัทโจทก์กับจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องสัญญาเช่าซื้อ: การลงนามในสัญญาโดยพนักงานย่อมผูกพันบริษัท, สัญญาชัดเจนคู่สัญญาทราบดี
สัญญาเช่าซื้อระบุชื่อบริษัทโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อกับจำเลยผู้เช่าซื้อไว้ชัดแจ้งโดยพนักงานของบริษัทโจทก์ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการซื้อขายลงชื่อในสัญญาเช่าซื้อในนามบริษัทโจทก์ เป็นการทำแทนบริษัทโจทก์ มิใช่ทำเป็นส่วนตัว ซึ่งจำเลยก็ทราบดี เมื่อจำเลยลงชื่อไว้ในสัญญาและได้รับทรัพย์ที่เช่าซื้อไปแล้วสัญญาเช่าซื้อย่อมมีผลผูกพันบริษัทโจทก์กับจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องสัญญาเช่าซื้อ: การลงชื่อแทนบริษัทโดยพนักงานย่อมมีผลผูกพัน
สัญญาเช่าซื้อระบุชื่อบริษัทโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อกับจำเลยผู้เช่าซื้อไว้ชัดแจ้งโดยพนักงานของบริษัทโจทก์ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการซื้อขายลงชื่อในสัญญาเช่าซื้อในนามบริษัทโจทก์. เป็นการทำแทนบริษัทโจทก์. มิใช่ทำเป็นส่วนตัว. ซึ่งจำเลยก็ทราบดี เมื่อจำเลยลงชื่อไว้ในสัญญาและได้รับทรัพย์ที่เช่าซื้อไปแล้ว. สัญญาเช่าซื้อย่อมมีผลผูกพันบริษัทโจทก์กับจำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 722/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีฉ้อโกงและคดีเกี่ยวกับสมาคม: ผู้เสียหายและองค์ประกอบความผิด
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเจตนาทุจริตใช้อุบายหลอกลวงนางคอย ทรัพย์อ่วม โจทก์และประชาชนด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดความจริง แต่มิได้บรรยายมาในฟ้องว่าความจริงเป็นอย่างไร และความเท็จเป็นอย่างไร ฟ้องโจทก์จึงไม่มีมูลเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
โจทก์ไม่ใช่สมาชิกของสมาคม ได้ฟ้องสมาคมซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้วกับพวกเป็นจำเลย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. 2499 มาตรา 52, 53, 55, 56 ตามมาตรา 53 ของพระราชบัญญํติดังกล่าวเป็นเรื่องที่สมาชิกของสมาคมจะดำเนินคดีโจทก์จะมาดำเนินคดีหาได้ไม่ และตามมาตรา 52, 55 โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้เสียหาย ส่วนมาตรา 56 ก็เป็นเรื่องของสมาคมที่ยังไม่ได้จดทะเบียนแต่เรื่องนี้สมาคมจำเลยได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องที่ควรรับไว้พิจารณา
โจทก์ไม่ใช่สมาชิกของสมาคม ได้ฟ้องสมาคมซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้วกับพวกเป็นจำเลย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. 2499 มาตรา 52, 53, 55, 56 ตามมาตรา 53 ของพระราชบัญญํติดังกล่าวเป็นเรื่องที่สมาชิกของสมาคมจะดำเนินคดีโจทก์จะมาดำเนินคดีหาได้ไม่ และตามมาตรา 52, 55 โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้เสียหาย ส่วนมาตรา 56 ก็เป็นเรื่องของสมาคมที่ยังไม่ได้จดทะเบียนแต่เรื่องนี้สมาคมจำเลยได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องที่ควรรับไว้พิจารณา