พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,077 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1513/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมที่แก้ไขโดยการขีดฆ่าและการเขียนใหม่ ยังสมบูรณ์หากไม่เปลี่ยนแปลงเจตนาเดิม
เอกสารที่มีข้อความว่าผู้ยกทรัพย์สินยอมยกให้เป็นกรรมสิทธิแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง ต่อเมื่อผู้ให้วายชนม์ และผู้รับได้ทำการณาปนกิจผู้ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าเป็นพินัยกรรม์
ในพินัยกรรม์ แม้จะมีการขีดฆ่าถ้อยคำบางตอนออก โดยผู้เขียนเซ็นชื่อกำกับที่ข้างกระดาษเอง ผู้ทำพินัยกรรม์มิได้ลงลายมือชื่อกำกับด้วยนั้น ถ้าเป็นที่เห็นได้ชัดว่าผู้เขียน เขียนพลาดไปจึงได้ขีดฆ่าคำที่กล่าวนั้นออก เอามาเขียนไว้ในข้อต่อมา จะขีดฆ่าคำที่เขียนไว้ออกเสียดังกล่าวแล้วหรือจะไม่ขีดฆ่าออกก็ตาม หากระทำให้ข้อความ ในพินัยกรรมนั้นเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใดไม่ดังนี้ ย่อมไม่เป็นเหตุทำให้พินัยกรรมนั้นไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด หากจะว่าไม่สมบูรณ์ ก็ไม่สมบูรณ์เฉพาะข้อความที่ขีดฆ่าออกดังกล่าวเท่านั้น
ในพินัยกรรม์ แม้จะมีการขีดฆ่าถ้อยคำบางตอนออก โดยผู้เขียนเซ็นชื่อกำกับที่ข้างกระดาษเอง ผู้ทำพินัยกรรม์มิได้ลงลายมือชื่อกำกับด้วยนั้น ถ้าเป็นที่เห็นได้ชัดว่าผู้เขียน เขียนพลาดไปจึงได้ขีดฆ่าคำที่กล่าวนั้นออก เอามาเขียนไว้ในข้อต่อมา จะขีดฆ่าคำที่เขียนไว้ออกเสียดังกล่าวแล้วหรือจะไม่ขีดฆ่าออกก็ตาม หากระทำให้ข้อความ ในพินัยกรรมนั้นเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใดไม่ดังนี้ ย่อมไม่เป็นเหตุทำให้พินัยกรรมนั้นไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด หากจะว่าไม่สมบูรณ์ ก็ไม่สมบูรณ์เฉพาะข้อความที่ขีดฆ่าออกดังกล่าวเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำกรณีเช่าเคหะ: การเปลี่ยนแปลงเจตนาเช่าจากที่อยู่อาศัยเป็นค้าขายต้องชัดเจน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยในคดีก่อน อ้างว่าจำเลยใช้สถานที่เช่าเพื่อประกอบการค้าประเภทรับจ้างซักรีดเช่นเดียวกับคดีนี้ ศาลวินิจฉัยว่า จำเลยเช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯลฯ แม้ภายหลังได้มีคำพิพากษาฎีกาหลายเรื่องวินิจฉัยคำว่า "เคหะ" ตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ก็ไม่เป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงผลแห่งคำพิพากษาในคดีก่อนว่าไม่เป็น "เคหะ" ได้ การที่โจทก์ฟ้องคดีใหม่อ้างเหตุว่าจำเลยยอมเสียค่าเช่าเพิ่มจากเดิมโดยจำเลยได้ขยายกิจการการค้าในร้านนี้กว้างขวางออกไปอีก รับจ้างซักรีดผ้าทุกชนิด เพียงเท่านี้ยังไม่พอให้เห็นว่า คู่สัญญาได้เปลี่ยนเจตนาจากการเช่าอยู่อาศัย เป็นการเช่าเพื่อประกอบการค้า จึงเป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงเจตนาเช่าจากที่อยู่อาศัยเป็นค้า และฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยในคดีก่อน อ้างว่าจำเลยใช้สถานที่เช่าเพื่อประกอบการค้าประเภทรับจ้างซักรีดเช่นเดียวกับคดีนี้ ศาลวินิจฉัยว่า จำเลยเช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ แม้ภายหลังได้มีคำพิพากษาฎีกาหลายเรื่องวินิจฉัยคำว่า "เคหะ" ตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯก็ไม่เป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงผลแห่งคำพิพากษาในคดีก่อนว่าไม่เป็น"เคหะ" ได้ การที่โจทก์ฟ้องคดีใหม่อ้างเหตุว่าจำเลยยอมเสียค่าเช่าเพิ่มจากเดิมโดยจำเลยได้ขยายกิจการค้าในร้านนี้กว้างขวางออกไปอีก รับจ้างซักรีดผ้าทุกชนิดเพียงเท่านี้ยังไม่พอให้เห็นว่า คู่สัญญาได้เปลี่ยนเจตนาจากการเช่าอยู่อาศัยเป็นการเช่าเพื่อประกอบการค้าจึงเป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา: ศาลฎีกาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าโดยเจตนา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโดยไม่เชื่อข้อเท็จจริงดังนี้ โจทก์ยังมีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริง ขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยในความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249 ได้ไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.
อาญามาตรา 219.
อาญามาตรา 219.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณา 'เคหะ' เพื่อบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: เจตนาคู่สัญญาและสภาพแวดล้อม
สัญญาเช่าจะตกอยู่ในความควบคุมแห่งพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯหรือไม่อีกนัยหนึ่งสถานที่เช่านั้นจะเป็น 'เคหะ'หรือไม่นั้น มีหลักการวินิจฉัยอยู่ตามคำพิพากษาฎีกาที่1099-1147/2491 ซึ่งมีความสำคัญอยู่ว่าจะต้องพิจารณาเจตนาของคู่กรณีในเวลาทำสัญญาประกอบกับเหตุผลแวดล้อมอื่นๆเช่น สภาพของสิ่งปลูกสร้าง อัตราค่าเช่า ทำเลที่ตั้งและการปฏิบัติของคู่สัญญาแต่ละฝ่ายเหล่านี้ รวมกันว่าการเช่าสิ่งปลูกสร้างนั้นเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือมิใช่
ภรรยาโจทก์ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าออกจากตึกเช่าศาลพิพากษาถึงที่สุดว่าจำเลยใช้เป็นที่อยู่อาศัย ถือว่าเป็นเคหะจึงพิพากษายกฟ้องฟังคำพิพากษาแล้ว 4 วัน โจทก์กับจำเลยทำสัญญาเช่าขึ้นใหม่มีข้อความเพิ่มเติมขึ้นอีกว่า เช่าเพื่อทำการค้ามีกำหนดเวลาเช่า 2 เดือน พอครบกำหนดเวลาเช่าตามสัญญาใหม่ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย จำเลยต่อสู้คดีว่าอยู่อาศัยอย่างเดิม ดังนี้ ศาลจะงดสืบพยานโดยถือเอาผลคำพิพากษาในคดีเดิมมาเป็นเครื่องชี้ขาดว่าเป็นเคหะไม่ได้ ต้องให้สืบพยานเพื่อจะได้วินิจฉัยตามหลักที่วางไว้ในฎีกาที่1099-1147/2491 การที่สัญญาเช่าจะตกอยู่ในความควบคุมแห่งพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน หรือไม่มีหลักการวินิจฉัยอยู่ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 1099-1147/2491 แล้วจึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานของคู่ความจนสิ้นกระแสความแล้วพิพากษาใหม่
ภรรยาโจทก์ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าออกจากตึกเช่าศาลพิพากษาถึงที่สุดว่าจำเลยใช้เป็นที่อยู่อาศัย ถือว่าเป็นเคหะจึงพิพากษายกฟ้องฟังคำพิพากษาแล้ว 4 วัน โจทก์กับจำเลยทำสัญญาเช่าขึ้นใหม่มีข้อความเพิ่มเติมขึ้นอีกว่า เช่าเพื่อทำการค้ามีกำหนดเวลาเช่า 2 เดือน พอครบกำหนดเวลาเช่าตามสัญญาใหม่ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย จำเลยต่อสู้คดีว่าอยู่อาศัยอย่างเดิม ดังนี้ ศาลจะงดสืบพยานโดยถือเอาผลคำพิพากษาในคดีเดิมมาเป็นเครื่องชี้ขาดว่าเป็นเคหะไม่ได้ ต้องให้สืบพยานเพื่อจะได้วินิจฉัยตามหลักที่วางไว้ในฎีกาที่1099-1147/2491 การที่สัญญาเช่าจะตกอยู่ในความควบคุมแห่งพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน หรือไม่มีหลักการวินิจฉัยอยู่ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 1099-1147/2491 แล้วจึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานของคู่ความจนสิ้นกระแสความแล้วพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาปลอมตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ การแต่งเครื่องแบบตำรวจต้องมีเจตนาและลงมือกระทำการด้วยจึงผิด
เพียงแต่ว่าจำเลยสรวมหมวกอันเป็นเครื่องแบบตำรวจจะฟังว่าจำเลยปลอมตนเป็นเจ้าพนักงานเสมอไป หาได้ไม่ คดีจะต้องได้ความว่าการกระทำเช่นนั้นจำเลยจะมีเจตนาปลอมตนเป็นเจ้าพนักงาน ทั้งจะต้องได้ความต่อไปอีกว่า ไปกระทำการเป็นเจ้าพนักงานด้วย จึงจะเป็นผิดตามมาตรา 127
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสวมหมวกตำรวจไม่ใช่การปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงาน ต้องมีเจตนาและลงมือกระทำการ
เพียงแต่จำเลยสวมหมวกอันเป็นเครื่องแบบตำรวจ จะฟังว่าจำเลยปลอมตนเป็นเจ้าพนักงานเสมอไปหาได้ไม่ คดีจะต้องได้ความว่าการกระทำเช่นนั้นจำเลยจะมีเจตนาปลอมตนเป็นเจ้าพนักงาน ทั้งจะต้องได้ความต่อไปอีกว่าไปกระทำการเป็นเจ้าพนักงานด้วย จึงจะเป็นผิดตามมาตรา 127
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนีประนอมข้อพิพาทเรื่องกระบือหายและการกักตัวผู้ต้องสงสัย ศาลตัดสินว่าไม่มีเจตนาทุจริต
ลูกบ้านได้ขอให้กำนันเอาผู้เสียหายไปสอบถามให้แน่นอนในเรื่องที่ลูกบ้านสงสัยว่าผู้เสียหายซ่อนกระบือของตนที่หายไป กำนันจึงเอาตัวผู้เสียหายไปบ้านกำนัน เรียกร้องให้ผู้เสียหายใช้ราคากระบือแก่ลูกบ้านแล้วลูกบ้านจะไม่เอาเรื่อง ผู้เสียหายก็ยอมเสียค่ากระบือให้ลูกบ้าน ๆ ก็ไม่เอาเรื่องต่อไปและกำนันได้จัดการทำหนังสือปรองดองกันไว้ แล้วไม่เอาตัวผู้เสียหายส่งไปยังพนักงานสอบสวน ดังไม่ใช่มีเจตนาจะกระทำการทุจจริตต่อหน้าที่ จึงไม่มีผิดฐานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ทางทุจริติตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 136,137,138,+42 และการที่กำนันกักตัวผู้เสียหายไว้จนชำระเงินกันแล้ว +ปล่อยนั้นเมื่อกำนันคิดว่ากำนันก็อำนาจทำได้ ไม่มีเจตนาที่จะกักขังให้ผู้เสียหายเสื่อมเสียอิสสระภาพแล้ว กำนันก็ยังไม่ผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 268,270
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจกำนันในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและการกักขังชั่วคราว: ไม่มีเจตนาทุจริตหรือขัดขวางอิสรภาพ
ลูกบ้านได้ขอให้กำนันเอาตัวผู้เสียหายไปสอบถามให้แน่นอนในเรื่องที่ลูกบ้านสงสัยว่าผู้เสียหายซ่อนกระบือของตนที่หายไป กำนันจึงเอาตัวผู้เสียหายไปที่บ้านกำนัน เรียกร้องให้ผู้เสียหายใช้ราคากระบือแก่ลูกบ้านแล้วลูกบ้านจะไม่เอาเรื่อง ผู้เสียหายก็ยอมเสียค่ากระบือให้ลูกบ้านลูกบ้านก็ไม่เอาเรื่องต่อไปและกำนันได้จัดการทำหนังสือปรองดองกันไว้ แล้วไม่เอาตัวผู้เสียหายส่งไปยังพนักงานสอบสวน ดังนี้ ไม่ใช่มีเจตนาจะกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ จึงไม่มีผิดฐานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 136,137,138,142 และการที่กำนันกักตัวผู้เสียหายไว้จนชำระเงินกันแล้วจึงปล่อยนั้นเมื่อกำนันคิดว่ากำนันมีอำนาจทำได้ ไม่มีเจตนาที่จะกักขังให้ผู้เสียหายเสื่อมเสียอิสระภาพแล้วกำนันก็ยังไม่ผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 268,270
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 61/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการกระทำผิดฐานฆ่าคนตาย: การเบี่ยงเบนเป้าหมายและการพลาดไปถูกผู้อื่น
เมียน้อยโกรธเมียหลวงเพราะเมียหลวงพูดถ้อยคำบาดหูจึงเอามีดฟันเมียหลวงไปในทันทีทันใดนั้น โดยหมายฟันตรงแขนเมียหลวงแต่เมียหลวงเบนหนี มีดที่ฟันลงจึงไปถูกกลางศีรษะเด็กหญิงอายุ 7 เดือนที่เมียหลวงอุ้มพาดตักและแขนเข้า กะโหลกศีรษะแตกตายดังนี้ วินิจฉัยว่าหากเมียหลวงไม่เบนหนี มีดที่ฟันก็จะถูกแขนเมียหลวงและเมียหลวงก็ไม่ถึงตายฉะนั้นเมื่อเกิดพลาดไปถูกเด็กจนถึงตายขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ชี้ขาดว่าเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่ได้คงเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251