พบผลลัพธ์ทั้งหมด 467 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113-1114/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการฆ่าโดยเจตนาและการกระทำโดยไม่ทารุณโหดร้าย
จำเลยเอาผู้ตายไปกดไว้กับเสาและเอามือรัดคอผู้ตายจนผู้ตายล้มลงแล้วผลักผู้ตายให้ตกลงไปในคู แล้วเข้าบีบคอผู้ตายอีก แล้วเอาผู้ตายไปโยนลงที่หัวคันนา และบีบคอผู้ตายจนผู้ตายคอหักถึงแก่ความตาย เป็นการกระทำเพื่อจะให้ตายต่อเนื่องกันซึ่งก็เป็นลักษณะการกระทำที่จะให้ตายอย่างหนึ่งเท่านั้น มิได้กระทำการอันแสดงถึงความโหดร้ายทารุณเป็นพิเศษ จึงยังไม่เข้าลักษณะกระทำโดยทารุณโหดร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5)
จำเลยเห็นผู้ตายกำลังถูกทำร้ายไม่ได้เข้าขัดขวางแต่อย่างใด และไล่ลูกๆ ให้ออกไป ทั้งสั่งห้ามไม่ให้ไปบอกใครด้วย เมื่อมีหญิงอีกคนหนึ่งมายังที่เกิดเหตุจำเลยวิ่งไปรับหน้า ห้ามมิให้เข้าไป โดยกล่าวเท็จว่า ผัวเมียตีกันไม่ใช่ธุระ เป็นการแสดงให้เห็นว่าจำเลยกระทำไปโดยตั้งใจเพื่อจะอำนวยความสะดวกให้ผู้ตายถูกฆ่าโดยไม่ต้องถูกผู้ใดขัดขวาง จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
จำเลยเห็นผู้ตายกำลังถูกทำร้ายไม่ได้เข้าขัดขวางแต่อย่างใด และไล่ลูกๆ ให้ออกไป ทั้งสั่งห้ามไม่ให้ไปบอกใครด้วย เมื่อมีหญิงอีกคนหนึ่งมายังที่เกิดเหตุจำเลยวิ่งไปรับหน้า ห้ามมิให้เข้าไป โดยกล่าวเท็จว่า ผัวเมียตีกันไม่ใช่ธุระ เป็นการแสดงให้เห็นว่าจำเลยกระทำไปโดยตั้งใจเพื่อจะอำนวยความสะดวกให้ผู้ตายถูกฆ่าโดยไม่ต้องถูกผู้ใดขัดขวาง จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 550/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมทำร้ายจนถึงแก่ความตาย ถือเป็นตัวการฆ่าโดยเจตนา
การที่จำเลยได้มาที่เกิดเหตุกับพวกเพื่อทำร้าย ผู้ตาย และจำเลยได้ร่วมทำร้ายก่อน โดยเข้าชกต่อย และเอาเก้าอี้ตีผู้ตายแล้วพวกของจำเลยคนหนึ่งจึงใช้มีดแทง และผู้ตายได้ตาย เพราะแผลที่ถูกแทงเช่นนี้ ย่อมถือได้ว่า จำเลยได้เป็นตัวการฆ่าผู้ตายโดยเจตนาตามกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: ตัวการร่วม
การที่จำเลยทั้งสามได้ไปด้วยกันตั้งแต่แรกที่ลวงผู้ตายให้ไปรับเงินชำระหนี้จากจำเลยที่ 1 และพาผู้ตายไปถึงที่เปลี่ยวเพื่อการฆ่าแล้วได้ฆ่าเสีย แสดงว่า จำเลยทั้ง 3 คนคิดกันประกอบการฆาตกรรมนี้ จึงต้องผิดฐานเป็นตัวการด้วยกันทุกคนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 289
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2504)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากถูกข่มเหงและสบประมาทเป็นเหตุให้ฆ่า: ศาลลดโทษตามมาตรา 72 และรอการลงโทษ
การที่จำเลยพาอาวุธปืนไปในถนนสาธารณก่อนแล้วจึงใช้ปืนยิงฆ่าเขาตายนั้น ต้องมีความผิดตามมาตรา 371 กระทงหนึ่งด้วย แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 288 ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุดตามมาตรา 91 ได้ ไม่ใช่มาตรา 90
การที่ผู้ตายรู้อยู่ว่าหญิงเป็นภรรยาของจำเลยแล้วยังพยายามติดต่อทางชู้สาวเอาไปเป็นภรรยาจนได้ จำเลยยังมีเยื่อใยจึงติดตามไปพบทั้งภรรยาและผู้ตายเดินมาด้วยกัน จำเลยได้วิงวอนขอให้ภรรยากลับไปอยู่กับตน ผู้ตายกลับสบประมาทว่าเป็น "หน้าตัวเมีย ผู้หญิงเขาไม่รักจะตามมาทำไม" ถือว่ารุนแรงสำหรับกรณีเช่นจำเลยนี้และเป็นเหตุให้บันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 72 และคำนึงถึงเหตุผลเช่นนี้กับเหตุผลตามมาตรา 56 แล้ว ศาลรออาญาโทษจำคุกไว้ตามมาตรา 56 ได้
การที่ผู้ตายรู้อยู่ว่าหญิงเป็นภรรยาของจำเลยแล้วยังพยายามติดต่อทางชู้สาวเอาไปเป็นภรรยาจนได้ จำเลยยังมีเยื่อใยจึงติดตามไปพบทั้งภรรยาและผู้ตายเดินมาด้วยกัน จำเลยได้วิงวอนขอให้ภรรยากลับไปอยู่กับตน ผู้ตายกลับสบประมาทว่าเป็น "หน้าตัวเมีย ผู้หญิงเขาไม่รักจะตามมาทำไม" ถือว่ารุนแรงสำหรับกรณีเช่นจำเลยนี้และเป็นเหตุให้บันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 72 และคำนึงถึงเหตุผลเช่นนี้กับเหตุผลตามมาตรา 56 แล้ว ศาลรออาญาโทษจำคุกไว้ตามมาตรา 56 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธอันตราย ตำแหน่งบาดแผลบ่งชี้ถึงเจตนา
จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมแทงท้องผู้ตาย แผลลึกถึง 12 ซ.ม. แสดงว่าจำเลยแทงโดยแรง และตำแหน่งบาดแผลคือที่ท้องนั้น เป็นที่เห็นได้ว่า จำเลยเลือกแทงที่สำคัญ ย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำแล้วว่าจะต้องถึงตาย เช่นนี้จำเลยย่อมมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 837/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาต่างวัตถุประสงค์: การฆ่าโดยสำคัญผิดไม่ใช่สาระสำคัญ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่านายรอก แต่มาฆ่านายอ่อนเพราะสำคัญผิดว่านายอ่อนคือนายรอก แม้ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยไม่ได้ฆ่าเพราะสำคัญผิด ก็ลงโทษได้เพราะไม่ใช่ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่างกับฟ้อง ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญอยู่ที่ว่าจำเลยได้ฆ่าผู้ตายหรือไม่ ส่วนจะฆ่าโดยสำคัญผิดหรือไม่สำคัญผิดนั้นเป็นเพียงเหตุประกอบแห่งการฆ่าเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: การพิจารณาเจตนาฆ่าและความร้ายแรงของการกระทำ
จำเลยตั้งใจจะหนีให้พ้นการจับกุมเป็นการจวนตัวจึงได้แทงไปหมายจะเอาตัวรอดเท่านั้น ทั้งบาดแผลที่ตำรวจถูกแทงที่คอก็มีขนาดเล็ก กว้าง 3/4 เซนติเมตร ยาว 3/4 เซนติเมตร ลึก 1 เซนติเมตรต่อมาประมาณ 1 เดือน ตำรวจก็ตายเพราะแผลที่เย็บไม่ติดกัน ให้อาหารไม่ได้โดยอาหารรั่วออกทางแผล ร่างกายทรุดโทรมลงจนกระทั่งตาย เช่นนี้ถือว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าให้ถึงตาย จำเลยยังไม่มีผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงานตาม มาตรา 289 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงานจนถึงตาย ตามมาตรา 290 วรรคท้าย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยที่ 2 ผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงานจนถึงตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 วรรคท้าย จำคุก 18 ปี ลด 1 ใน 3 ตามมาตรา 78 คงจำคุก 12 ปีโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานฆ่าเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 289 ศาลฎีกาเห็นด้วย กับศาลอุทธรณ์ ว่า จำเลยที่ 2 ไม่ผิดตามมาตรา 289 คงผิดตามมาตรา 290 วรรคท้ายแต่ศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์วางโทษเบาและลดโทษให้มากไป ศาลฎีกามีอำนาจแก้เป็นให้จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 20 ปี ลดโทษให้ 4 ปี คงจำคุก 16 ปีได้ไม่ขัดต่อ ป.วิ.อ. มาตรา 212
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยที่ 2 ผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงานจนถึงตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 วรรคท้าย จำคุก 18 ปี ลด 1 ใน 3 ตามมาตรา 78 คงจำคุก 12 ปีโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานฆ่าเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 289 ศาลฎีกาเห็นด้วย กับศาลอุทธรณ์ ว่า จำเลยที่ 2 ไม่ผิดตามมาตรา 289 คงผิดตามมาตรา 290 วรรคท้ายแต่ศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์วางโทษเบาและลดโทษให้มากไป ศาลฎีกามีอำนาจแก้เป็นให้จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 20 ปี ลดโทษให้ 4 ปี คงจำคุก 16 ปีได้ไม่ขัดต่อ ป.วิ.อ. มาตรา 212
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการป้องกันสิทธิโดยชอบธรรม กรณีฆ่าข้าราชการขณะปฏิบัติหน้าที่
พลตำรวจเข้าไปจับหญิงนครโสเภณี เห็นผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่งนั่งคุยในห้องซึ่งเปิดประตูอยู่ เช่นนี้ ยังเรียกไม่ได้ว่า หญิงคนนั้นกำลังกระทำผิดหรือพยายามกระทำผิดหรือพบโดยมีพฤติการณ์อันควรสงสัยว่าผู้นั้นจะกระทำผิดโดยมีเครื่องมืออาวุธหรือวัตถุอย่างอื่นอันสามารถอาจใช้ในการกระทำความผิดหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าได้กระทำความผิดมาแล้ว และจะหลบหนีตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 78 พลตำรวจจึงไม่มีอำนาจจับหญิงนั้น โดยไม่มีหมายจับ กรณีเช่นนี้ ต้องให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่จับด้วยตนเองได โดยไม่ต้องมีหมายจับ เมื่อการจับกุมของพลตำรวจเช่นนี้ไม่มีกฎหมายสนับสนุนแล้ว การที่จำเลยฆ่าพลตำรวจผู้จับจึงไม่เรียกว่าฆ่าเจ้าพนักงานเพราะเหตุที่กระทำการตามหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าด้วยความทารุณโหดร้าย ใช้ขวานฟันซ้ำหลายครั้งจนเสียชีวิต
ใช้ขวานฟันซ้ำ ๆ หลายทีจนตาย มีแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ 9 แผล ที่คอ 3 แผลและแผลไม่ฉกรรจ์ที่อื่นอีก เป็นการฆ่าด้วยความทารุณโหดร้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าด้วยความทารุณโหดร้าย: การใช้ขวานฟันซ้ำจนเสียชีวิต
ใช้ขวานฟันซ้ำๆ หลายทีจนตาย มีแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ9 แผล ที่คอ 3 แผล และแผลไม่ฉกรรจ์ที่อื่นอีก เป็นการฆ่าด้วยความทารุณโหดร้าย