คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ซื้อขาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,032 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายสิทธิในมรดกก่อนได้รับมรดกเป็นโมฆะ การครอบครองที่พิพาทของทายาทเป็นการโต้แย้งสิทธิในทางแพ่ง ไม่ถือเป็นบุกรุก
โจทก์ร่วมและ ป. เป็นบุตร พ. จำเลยเป็นบุตร ป. ป.ตายก่อน พ. หลังจาก ป. ตายโจทก์ร่วมแบ่งที่ดินซึ่งเป็นของ พ. และ ป. ให้แก่จำเลยแล้วจำเลยนำที่พิพาทซึ่งโจทก์ร่วมแบ่งให้มาขายคืนให้แก่โจทก์ร่วมก่อนที่ พ. จะตาย เป็นเรื่องที่จำเลยจำหน่ายจ่ายโอนซึ่งสิทธิอันหากจะมีในภายหน้าในการสืบมรดกผู้ที่มีชีวิตอยู่โดยการรับมรดกแทนที่ ป. ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1619 สัญญาซื้อขายจึงตกเป็นโมฆะ ที่พิพาทเป็นมรดกของ พ. ที่ยังไม่ได้แบ่ง การที่จำเลยซึ่งเป็นทายาทคนหนึ่งของ พ. มีสิทธิรับมรดกแทนที่ ป. เข้ายึดถือครอบครองที่พิพาท จึงเป็นเพียงโต้แย้งสิทธิของโจทก์ร่วมซึ่งเป็นทายาทด้วยกันในทางแพ่ง จำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายไม้และการพิสูจน์เจตนาฉ้อโกง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ
โจทก์ร่วมติดต่อค้าขายกับห้าง ส. ซึ่งมีจำเลยเป็นหุ้นส่วนเป็นเวลานานเกือบ 1 ปี การซื้อขายครั้งแรก ๆ โจทก์ร่วมก็ได้รับชำระหนี้แล้ว ส่วนการซื้อขายสองครั้งหลังที่เกิดเหตุ จำเลยก็มิได้ปฎิเสธ ว่ามิได้ซื้อหรือมิได้เป็นหนี้โจทก์ร่วมโดยรับว่าเป็นหนี้อยู่จริง แต่ขอประนอมหนี้โดยขอชำระหนี้เพียงร้อยละ 15โจทก์ร่วมเองก็ยอมรับว่าห้าง ส. เป็นหนี้ซื้อไม้จากโจทก์ร่วมซึ่งเป็นนิติสัมพันธ์ในทางแพ่ง ดังนั้น การที่ห้าง ส. ซื้อไม้ครั้งเกิดเหตุแล้วไม่ชำระราคาแก่โจทก์ร่วมจึงเป็นเพียงการผิดสัญญาในทางแพ่งเท่านั้น ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องยืมทรัพย์ที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง หากมีหลักฐานการซื้อขาย ย่อมไม่สามารถบังคับตามฟ้องได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยยืมเครื่องรับ - ส่งวิทยุไปแล้วไม่คืน ขอให้บังคับจำเลยคืนทรัพย์ที่ยืมหรือใช้ค่าเสียหาย เป็นการฟ้องอ้างมูลเรื่องยืมเป็นหลักแห่งคำขอบังคับจำเลย เมื่อทางนำสืบฟังได้ว่า โจทก์จำเลยตกลงซื้อขายเครื่องรับ - ส่งวิทยุพิพาทเสร็จเด็ดขาดแล้ว ถือว่าโจทก์นำสืบไม่ได้ตามฟ้อง จึงบังคับจำเลยตามคำขอของโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเรื่องยืมหรือซื้อขายทรัพย์สิน การพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามสัญญาซื้อขายมีน้ำหนักกว่า
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยยืมเครื่องรับ-ส่งวิทยุไปแล้วไม่คืนขอให้บังคับจำเลยคืนทรัพย์ที่ยืมหรือใช้ค่าเสียหาย เป็นการฟ้องอ้างมูลเรื่องยืมเป็นหลักแห่งคำขอบังคับจำเลย เมื่อทางนำสืบฟังได้ว่า โจทก์จำเลยตกลงซื้อขายเครื่องรับ-ส่งวิทยุพิพาทเสร็จเด็ดขาดแล้ว ถือว่าโจทก์นำสืบไม่ได้ตามฟ้อง จึงบังคับจำเลยตามคำขอของโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นข้อพิพาทสัญญาจะซื้อจะขาย: การนำสืบและวินิจฉัยนอกประเด็นหรือไม่
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยผู้อาศัยให้รื้อถอนบ้านออกไปจากที่ดินพิพาทของโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ไว้ว่าโจทก์ตกลงขายที่พิพาทให้จำเลยที่ 1 ในราคา 20,000 บาท จำเลยที่ 1 ได้ชำระเงินงวดแรกให้โจทก์ 14,000 บาท ส่วนที่เหลือตกลงจะชำระให้เมื่อโจทก์โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้จำเลยที่ 1 ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำฟ้องคำให้การแล้วกำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้ว่าโจทก์ตกลงขายที่พิพาทให้แก่จำเลยโดยชำระราคาบางส่วนแล้วจริงหรือไม่ จึงเป็นการกำหนดประเด็นอย่างกว้าง ๆ ตามคำให้การของจำเลย ซึ่งย่อมรวมถึงการซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยที่ 1 ที่ชำระราคาบางส่วนและที่เหลือเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ อันเป็นลักษณะของสัญญาจะซื้อจะขายนั่นเองการที่จำเลยทั้งสองนำสืบตามคำให้การและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสองอยู่ในที่พิพาทโดยสิทธิตามสัญญาจะซื้อจะขาย จึงหาเป็นการนำสืบและวินิจฉัยนอกประเด็นไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6055/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายสุราโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เข้าข่ายต้องริบตามกฎหมาย
สุราของกลางที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขายสุราได้ซื้อไว้จากผู้ที่ไม่มีสิทธิขายโดยชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.บ. สุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 40 ทวิ นั้น ตาม พ.ร.บ. สุรา พ.ศ. 2493มาตรา 45 มิได้บัญญัติให้ริบสุราของกลาง ทั้งสุราของกลางดังกล่าวก็มิใช่ทรัพย์สินที่กฎหมายบัญญัติว่าผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิดหรือเป็นทรัพย์สินซึ่งบุคคลได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดหรือได้มาโดยได้กระทำความผิดอันจะเป็นเหตุให้ศาลพิพากษาให้ริบเสียได้ตาม ป.อ. มาตรา 32,33.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5938/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเวนคืนที่ดิน: แม้ชื่อเจ้าของเปลี่ยน โจทก์ซื้อต่อจากเจ้าของเดิม ก็ยังต้องอยู่ในบังคับเวนคืน
ขณะจำเลยสำรวจที่ดินเพื่อเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่กิ่งอำเภอบ้านฉาง อำเภอเมืองระยอง และอำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยองพ.ศ.2525 ที่ดินพิพาทซึ่งอยู่ในแนวเขตที่จะถูกเวนคืนด้วยมีชื่อ บ.เป็นเจ้าของ เมื่อสำรวจเสร็จได้มีพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลห้วยโป่ง และตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง พ.ศ.2527 ออกใช้บังคับ โดยระบุชื่อ บ.เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินพิพาทท้ายพระราชบัญญัติดังกล่าว ทั้งที่โจทก์ได้ซื้อที่ดินพิพาทมาจาก บ.ก่อนแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2526พระราชบัญญัติฉบับนี้จึงมีเจตนารมณ์มุ่งบังคับเอาแก่ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นซึ่งอยู่ในแนวเขตที่จะต้องเวนคืนโดยเฉพาะ หาได้ถือเอาตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองเป็นสาระสำคัญไม่เหตุที่ให้ระบุชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายไว้ ก็เพื่อประโยชน์ในการจ่ายหรือวางเงินค่าทดแทนเท่านั้น ดังนั้นแม้จะไม่ปรากฏชื่อโจทก์เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินพิพาทท้ายพระราชบัญญัติเวนคืนดังกล่าว ก็หามีผลทำให้ที่ดินพิพาทไม่อยู่ภายใต้บังคับที่จะถูกเวนคืนตามพระราชบัญญัติดังกล่าวไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5569/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรวมและผลของการซื้อขายโดยไม่ยินยอม สิทธิเรียกร้องแบ่งทรัพย์สิน
จำเลยและ ส. เป็นเจ้าของรวมในที่ดินและบ้านพิพาท ซึ่งเจ้าของรวมคนหนึ่งจะจำหน่ายทรัพย์สินโดยเจ้าของคนอื่นมิได้ยินยอมด้วยไม่ได้ เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยยอมให้ ส. ขายที่ดินและบ้านพิพาทแก่โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินกู้ แม้หนี้เงินกู้จะเป็นหนี้ร่วมกันระหว่างจำเลยและ ส. สัญญาขายที่ดินและบ้านพิพาทก็หาผูกพันจำเลยไม่ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย แต่โจทก์มีสิทธิเข้าสวมสิทธิของ ส. เรียกร้องให้แบ่งส่วนได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5248/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการบังคับคดีและการโต้แย้งสิทธิ: ต้องยื่นคำร้องก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้น และสิทธิซื้อขายเป็นสิทธิของจำเลย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีได้กระทำการละเมิดโจทก์โดยดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมายในเรื่องการบังคับคดีและมีคำขอในลักษณะที่จะให้มีการเพิกถอนการบังคับคดี โดยไม่ได้เรียกค่าเสียหายเอาจากจำเลยที่ 1กรณีเช่นนี้โจทก์จะต้องดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง โดยยื่นคำร้องต่อศาลก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้นลงโจทก์จะฟ้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีเป็นคดีใหม่ไม่ได้ ส่วนจำเลยที่ 2 โจทก์กล่าวในฟ้องว่า โจทก์เพียงขอซื้อที่ดินจากจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ไม่ยอมขายคืนให้ การที่จำเลยที่ 2จะขายคืนให้โจทก์หรือไม่เป็นสิทธิของจำเลยที่ 2 โจทก์ไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลยที่ 2 ปฏิบัติตามคำขอท้ายฟ้องได้ที่โจทก์ขอซื้อจึงเป็นเพียงการแสดงเจตนาต่อจำเลยที่ 2 เท่านั้น จำเลยที่ 2จะสนองรับเจตนาของโจทก์หรือไม่จึงอยู่ที่ความพอใจของจำเลยที่ 2เมื่อจำเลยที่ 2 ไม่สนองรับเจตนาของโจทก์จึงไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4630/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายทรัพย์เฉพาะสิ่ง เงื่อนไขการซื้อขาย และการฟ้องแย้งเป็นคดีต่างหาก
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อเป็ดไปจากโจทก์แล้วผิดนัดไม่ชำระราคาจำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยซื้อเป็ดไปจากโจทก์จริง แต่มีเงื่อนไขว่าถ้าเป็ดที่ซื้อไปไม่เป็นโรคตายภายใน 5 วัน จำเลยจะชำระราคาเมื่อปรากฏว่าเป็ดที่ซื้อไปตายภายในกำหนดดังกล่าว จำเลยจึงไม่ต้องชำระราคา การที่ศาลชั้นต้นฟังว่าการซื้อขายเป็ดเป็นการซื้อขายทรัพย์เฉพาะสิ่ง กรรมสิทธิ์ในเป็ดย่อมโอนไปยังจำเลยทันที ที่จำเลยต่อสู้ว่า การซื้อขายมีเงื่อนไขฟังไม่ขึ้น ดังนี้ เท่ากับศาลชั้นต้นฟังว่าการซื้อขายไม่มีเงื่อนไขและเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด ซึ่งเป็นการวินิจฉัยตามประเด็นข้อพิพาทที่ว่าจำเลยจะต้องรับผิดชำระหนี้ให้โจทก์ตามฟ้องหรือไม่แล้ว ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อเป็ดไปจากโจทก์แล้วผิดนัดไม่ชำระราคาจำเลยรับว่าซื้อเป็ดไปจากโจทก์จริง แต่เป็ดเป็นโรคตายหมดภายในกำหนดสัญญา จึงไม่ต้องชำระราคา และฟ้องแย้งว่าเชื้อโรคจากเป็ดโจทก์ติดต่อเป็ดของจำเลยตายไปด้วย ขอให้โจทก์ชำระค่าเสียหายดังนี้ ฟ้องแย้งเป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามสัญญาซื้อขาย ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสาม.
of 104