พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์ลักทรัพย์ไม่สำเร็จ: การกระทำที่ยังไม่ถึงขั้นเคลื่อนย้ายทรัพย์สินเข้าถือครอง ถือเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์
ในคืนเกิดเหตุจำเลยเดินเข้าไปใต้ถุนบ้านของผู้เสียหายแล้วจับและดึงท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายซึ่งใส่กุญแจคอ(ล็อก) อยู่บนขาตั้งผู้เสียหายร้องขึ้นว่า ขโมยจำเลยวิ่งหนีไป แม้รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายจะยังไม่เคลื่อนที่ไปก็ถือได้ว่า จำเลยได้ลงมือกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ แล้วแต่กระทำไปไม่ตลอด การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากบาดแผลสาหัส: พฤติการณ์การทำร้ายด้วยอาวุธอันตรายบ่งชี้เจตนา แม้ผลไม่สำเร็จ
จำเลยใช้มีดดาบปลายแหลม ด้ามยาว 23 เซนติเมตร ตัวมีดยาว 52เซนติเมตรและกว้าง 4 เซนติเมตร ฟันผู้เสียหายประมาณ 7-8 ทีมือซ้ายผู้เสียหายถูกฟันเกือบขาด บาดแผลที่แก้มยาวประมาณ5 นิ้ว บาดแผลที่หู 2 แผล (หูฉีกขาดแยกออกจากกัน) อาการสาหัสแพทย์ผ่าตัดฉุกเฉินให้ผู้เสียหายใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จจากลักษณะบาดแผลดังกล่าวแสดงว่าจำเลยฟันผู้เสียหายอย่างแรงหลายทีหากผู้เสียหายไม่ยกมือขึ้นปิดป้องคมมีดที่จำเลยฟันมาอย่างแรง คมมีดอาจผ่านกะโหลกศีรษะเข้าไปถึงสมองทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้หรือหากผู้เสียหายไม่ได้รับการรักษาพยาบาลจากแพทย์ทันท่วงที ผู้เสียหายคงถึงแก่ความตายเนื่องจากผลแห่งการกระทำของจำเลย กรณีเช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในการเติมน้ำมันแล้วหลีกเลี่ยงการชำระเงิน ถือเป็นการลักทรัพย์
จำเลยขับรถยนต์เข้าไปสั่งให้เติมน้ำมันรถยนต์ที่ปั๊มน้ำมันของผู้เสียหาย เมื่อคนเติมน้ำมันเติมน้ำมันเกือบจะเต็มถังจำเลยพูดว่าไม่มีเงินเดี๋ยวจะเอามาให้ คนเติมน้ำมันบอกว่าต้องไปบอกผู้เสียหายก่อน แต่จำเลยได้ขับรถออกไปทันที ขณะเติมน้ำมันจำเลยไม่ได้ดับเครื่องยนต์รถและฝาปิดถังน้ำมันก็ไม่มีโดยใช้ผ้าอุดไว้แทนแสดงให้เห็นว่าจำเลยได้วางแผนการไว้เพื่อจะไม่ชำระเงินค่าน้ำมันเมื่อได้น้ำมันมาแล้ว โดยจะรีบหนีไปอันเป็นอุบายอย่างหนึ่งในการที่จะทำให้ลักทรัพย์สำเร็จ พฤิตการณ์แสดงว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตมาตั้งแต่ต้นที่จะลักเอาน้ำมันของผู้เสียหาย.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6010/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่าต้องดูจากพฤติการณ์ การจ้องเล็งปืนโดยไม่มีการง้างนกหรือใส่ไกปืน ไม่ถือเป็นความพยายามฆ่า
จำเลยใช้ปืนลูกซองสั้นจ้องเล็งไปยังผู้เสียหายที่อยู่ห่างเพียง 7 - 8 เมตร หากจำเลยมีเจตนาจะยิงผู้เสียหายจริงแล้ว ก็คงจะใช้ปืนยิงได้โดยง่ายเพราะผู้เสียหายวิ่งหลบหนีอยู่บริเวณนั้น ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ง้างนกปืนขึ้นหรือนิ้วมือของจำเลยอยู่ในโกร่งไกปืนพร้อมที่จะยิงได้ และไม่ปรากฏว่า ผู้เสียหายมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน พฤติการณ์จึงส่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยชักปืนออกมาเพื่อขู่ผู้เสียหายที่ไปทวงค่าอาหารมากกว่าอย่างอื่น จำเลยไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6010/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์ข่มขู่ด้วยอาวุธปืน ไม่ถึงเจตนาพยายามฆ่า
จำเลยใช้ปืนลูกซองสั้นจ้องเล็งไปยังผู้เสียหายที่อยู่ห่างเพียง 7-8 เมตร หากจำเลยมีเจตนาจะยิงผู้เสียหายจริงแล้ว ก็คงจะใช้ปืนยิงได้โดยง่ายเพราะผู้เสียหายวิ่งหลบหนีอยู่บริเวณนั้น ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ง้างนกปืนขึ้นหรือนิ้วมือของจำเลยอยู่ในโกร่งไกปืนพร้อมที่จะยิงได้ และไม่ปรากฏว่า ผู้เสียหายมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน พฤติการณ์จึงส่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยชักปืนออกมาเพื่อขู่ผู้เสียหายที่ไปทวงค่าอาหารมากกว่าอย่างอื่น จำเลยไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5957/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าและพฤติการณ์ร่วมกระทำความผิด กรณีใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำเลยไม่มีเจตนาและไม่ได้ร่วมกระทำความผิด
จำเลยกับพวกพากันไปที่บ้านผู้ตายเพื่อต่อว่าน้องของผู้ตายไม่ได้มีเจตนาจะไปฆ่าใคร น้องของผู้ตายออกจากบ้านมาชกต่อยกับ ล.พวกของจำเลย จำเลยกับคนอื่นเพียงแต่ยืนดูเฉย ๆ เมื่อผู้ตายออกจากบ้านเดินเข้าไปที่คู่ต่อสู้ จำเลยก็เพียงแต่ชักอาวุธปืนออกมาขู่ไม่ให้ผู้ตายเข้าไปช่วยน้องเท่านั้น หากจำเลยมีเจตนาฆ่าก็คงยิงผู้ตายตั้งแต่ผู้ตายออกจากบ้านแล้วการที่ ล. ยิงผู้ตาย เป็นการกระทำของ ล.แต่ผู้เดียว ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยร่วมฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5733/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยไม่ไตร่ตรองไว้ก่อน: พฤติการณ์ที่ศาลไม่เห็นว่าเป็นการวางแผน
จำเลยเคยโกรธเคืองผู้ตายที่ไม่ยอมให้จำเลยเหมารอบรำวงถึง กับชักอาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าก่อนเกิดเหตุประมาณ 27-28 วัน ในวันเกิดเหตุผู้ตายไปนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่ร้านอาหารซึ่งมีจำเลยกับพวกนั่งอยู่ก่อน ต่อมาจำเลยได้เดินมาทางด้านหลังของผู้ตายและพูดว่าเฮ้ยนักเลงหรือไง พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายด้านหลังถึงแก่ความตาย ดังนี้ผู้ตายพบจำเลยโดยบังเอิญจำเลยอาจมีความเจ็บแค้นผู้ตายมาก่อนที่ขัดขวางไม่ยอมให้จำเลยเหมารอบรำวงซึ่งเวลาได้ผ่านพ้นไปแล้วนานเกือบเดือน ความโกรธแค้นน่าจะลดหายไปไม่ปรากฏว่าจำเลยมีความอาฆาตคอยติดตามเพื่อจะทำร้ายผู้ตายอีก ที่จำเลยพบผู้ตายในคืนเกิดเหตุ ความแค้นที่เคยมีต่อผู้ตายอาจเกิดขึ้นกะทันหันก็ได้พฤติการณ์แห่งคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีแผนการอย่างหนึ่งอย่างใดไว้ล่วงหน้าหรือไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อที่จะฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5673/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีหนี้สินล้นพ้นตัวและการพิพากษาให้ล้มละลายจากพฤติการณ์หลีกเลี่ยงชำระหนี้
จำเลยทั้งสองถูกเจ้าหนี้รายอื่นกับโจทก์ฟ้องเป็นคดีอาญา หลายเรื่อง จำเลยที่ 2 จึงได้หลบหนีไป และในการส่งหมายเรียก และสำเนาคำฟ้องคดีนี้ให้แก่จำเลยที่ 2 ต้องประกาศ หนังสือพิมพ์ ส่วนจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนก็ต้องส่งโดยวิธีปิดหมาย โดยเจ้าพนักงานผู้ส่งหมายรายงานว่าไม่มีป้ายชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 อยู่ที่ภูมิลำเนาตามฟ้อง ทั้งโจทก์นำสืบได้ความว่า จำเลยทั้งสองไม่มีทรัพย์สินใดที่จะชำระหนี้ได้ พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่า จำเลยทั้งสองได้ไปเสียจากเคหสถานที่เคยอยู่และปิดสถานที่ประกอบธุรกิจเพื่อประวิงการชำระหนี้ หรือมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่าจำเลยทั้งสองมีหนี้สินล้นพ้นตัวตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483มาตรา 8(4) ข.แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5673/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาให้ล้มละลายจากพฤติการณ์หลบหนี้ ซ่อนทรัพย์สิน และมีหนี้สินล้นพ้นตัว
จำเลยทั้งสองถูกเจ้าหนี้รายอื่นกับโจทก์ฟ้องเป็นคดีอาญา หลายเรื่อง จำเลยที่ 2 จึงได้หลบหนีไป และในการส่งหมายเรียก และสำเนาคำฟ้องคดีนี้ให้แก่จำเลยที่ 2 ต้องประกาศ หนังสือพิมพ์ ส่วนจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนก็ต้องส่งโดยวิธีปิดหมาย โดยเจ้าพนักงานผู้ส่งหมายรายงานว่าไม่มีป้ายชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 อยู่ที่ภูมิลำเนาตามฟ้อง ทั้งโจทก์นำสืบได้ความว่า จำเลยทั้งสองไม่มีทรัพย์สินใดที่จะชำระหนี้ได้ พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่า จำเลยทั้งสองได้ไปเสียจากเคหสถานที่เคยอยู่และปิดสถานที่ประกอบธุรกิจเพื่อประวิงการชำระหนี้ หรือมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่าจำเลยทั้งสองมีหนี้สินล้นพ้นตัวตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483มาตรา 8(4) ข.แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5120/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงทำร้าย: พิจารณาจากบาดแผล, อาวุธ, และพฤติการณ์
จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหายในขณะที่จำเลยเมาสุราโดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน มีดที่ใช้แทงไม่มีด้ามและมีสนิมติดอยู่ด้วยจำเลยแทงผู้เสียหายครั้งแรกที่ใต้ราวนมซ้าย 1 ครั้ง บาดแผลขนาด 1.2 * 0.3 เซนติเมตรลึก 0.5 เซนติเมตรติดกระดูกซี่โครง ไม่ได้ความว่าแทงโดยแรงหรือไม่ผู้เสียหายล้มลงแล้วจำเลยยังแทงผู้เสียหายที่โคนขาอีก 2 ครั้งแผลลึก 3 และ 2.5 เซนติเมตรตามลำดับ สภาพบาดแผลมีขนาดใกล้เคียงกับบาดแผลที่ใต้ราวนมซ้ายแพทย์มีความเห็นว่าใช้เวลารักษาประมาณ 10 วันหาย พิจารณาถึงมีดซึ่งไม่เหมาะที่จะใช้แทงให้ตายและการที่จำเลยมีโอกาสเลือกแทงในส่วนสำคัญได้หลังจากผู้เสียหายล้มลงแล้วแต่กลับแทงไปที่บริเวณโคนขาซึ่งไม่เกิดอันตรายร้ายแรง ทำให้ฟังไม่ถนัดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เท่านั้น