คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องขับไล่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 584 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2325/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่ผู้เช่า และการสิ้นสุดสัญญาเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลา
โจทก์ทำใบมอบอำนาจให้ ส. ฟ้องขับไล่ผู้เช่าที่ดินอาคารแผงทำการค้าซึ่งอยู่ในที่ดินโจทก์ ถึงแม้จะไม่ได้กำหนดให้ฟ้องผู้เช่ารายใดโดยเฉพาะก็ตาม เมื่อปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้เช่าตึกแถวของโจทก์อยู่ด้วย ส. ก็มีอำนาจที่จะฟ้องขับไล่จำเลยได้
เงินกินเปล่าเป็นส่วนหนึ่งของค่าเช่า ไม่ทำให้สัญญานี้มีลักษณะตอบแทนเป็นพิเศษกว่าสัญญาเช่าธรรมดา เมื่อไม่ได้จดทะเบียนการเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การเช่าคงใช้ได้เพียง 3 ปี แม้จะได้เช่ากันต่อมาก็เป็นสัญญาเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2097-2098/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่า, การปรับปรุงที่ดิน, กรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้าง, สิทธิภารจำยอม, ฟ้องขับไล่
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้เช่าที่ดินของโจทก์จนหมดอายุสัญญาเช่าแล้วได้บอกกล่าวให้จำเลยออกไป จำเลยและบริวารไม่ยอมออก เป็นการละเมิดขอให้ขับไล่ เป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม ไม่จำต้องบรรยายไปถึงว่าจำเลยได้ทำสัญญาเช่าเป็นหนังสือหรือไม่
สัญญาเช่าบ้านมีข้อความว่า ส่วนที่ดัดแปลงต่อเติมหรือปลูกสร้างขึ้นนั้นให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าทั้งสิ้น ย่อมมีความหมายว่า บริเวณที่จำเลยก่อสร้างโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดนั้นอยู่ในขอบเขตของสัญญาทั้งสิ้น ดังนี้ โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ที่จำเลยก่อสร้างขึ้นจึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าตั้งแต่เวลาก่อสร้างขึ้น กรณีไม่เข้าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1310, 1312

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอนสิทธิการใช้ประโยชน์จากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินทำให้เจ้าของที่ดินติดกันได้รับความเสียหายเป็นพิเศษและมีสิทธิฟ้องขับไล่
ที่ดินของโจทก์จดชายทะเลอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน จำเลยเข้าปลูกเรือนในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินปิดเต็มหน้าที่ดินของโจทก์จนโจทก์ไม่สามารถจะใช้หรือได้รับประโยชน์จากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้นได้โดยสะดวก ถือว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน และผลกระทบต่อการฟ้องขับไล่
ขณะฟ้องจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504 ในระหว่างศาลฎีกาทำการพิจารณาคดีนี้ปรากฏว่า พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดินพ.ศ. 2504 มาตรา 21 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2511 มาตรา 3กำหนดให้พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504เฉพาะมาตรา 11 และ 17 ใช้บังคับได้เพียง 8 ปี นับแต่พระราชบัญญัติ ควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504 ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2504 มาตรา 11 และ17 ดังกล่าวจึงไม่มีผลบังคับหรือเลิกใช้ บังคับแล้ว จำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายดังกล่าวต่อไป ดังนี้ ศาลฎีกาจะยกเอาความสิ้นสุดของพระราชบัญญัติ ควบคุมการเช่าเคหะและที่ดินฯ ดังกล่าว ในระหว่างพิจารณามา เป็นเหตุพิพากษาขับไล่จำเลยไม่ได้ เพราะเหตุที่ศาลจะยกขึ้นพิพากษา ขับไล่จำเลยได้ จะต้องเป็นเหตุที่มีอยู่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ในขณะฟ้อง
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2513)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าหมดอายุแล้วยังอยู่ต่อ ค่าเช่าที่สูงขึ้นไม่ใช่ค่าเช่าใหม่ แต่เป็นเบี้ยปรับ ผู้ให้เช่ามีสิทธิฟ้องขับไล่ได้ทันที
สัญญาเช่าตึกแถวมีกำหนดเวลาเช่าแน่นอน ค่าเช่าเดือนละ 3 เหรียญและมีข้อสัญญาอยู่ข้อหนึ่งว่า เมื่อครบกำหนดสัญญาแล้วถ้าผู้เช่ายังขืนอยู่ต่อไป ผู้เช่ายอมเสียค่าเช่าเดือนละ 20 เหรียญ เว้นแต่จะได้ทำสัญญากันใหม่ ดังนี้ หมายความว่าค่าเช่าเดือนละ 20 เหรียญนี้ เป็นเบี้ยปรับหรือค่าเสียหายที่กำหนดกันไว้ล่วงหน้า ไม่ใช่ค่าเช่าหรือเงื่อนไขที่มีผลให้ผู้เช่าได้เช่าต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลา และเมื่อสิ้นกำหนดเวลาเช่าได้ 8 วัน ผู้ให้เช่าก็ฟ้องขับไล่ผู้เช่า ย่อมถือว่าผู้ให้เช่าทักท้วงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 570 แล้ว ผู้ให้เช่ามีสิทธิฟ้องได้โดยไม่ต้องบอกเลิกสัญญาเช่ากันอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28-29/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ที่ดินทั้งแปลง: ศาลฎีกาวินิจฉัยราคาทุนทรัพย์และขอบเขตการฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเกี่ยวข้องกับที่ดินทั้งแปลง แม้ในตอนท้ายจะมีข้อความว่า "ได้พยายามพูดจาให้จำเลยทั้งสองออกไปเสียจากบ้านเลขที่ 5 อันเป็นบริเวณสุสาน" ซึ่งอาจเข้าใจว่า หมายถึงเฉพาะให้จำเลยออกจากศาลาที่อยู่อาศัย แต่ก็ยังมีคำว่า บริเวณสุสาน ติดต่อกันไป อันหมายความได้ว่า ให้จำเลยทั้งสองออกจากบริเวณสุสานนั่นเอง ทั้งในตอนสุดท้ายของคำฟ้องมีข้อความว่า "จำเป็นต้องฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสอง และให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนโรงถ่านออกไปเสียจากบริเวณบ้านเลขที่ 5 ซึ่งเป็นบริเวณของสุสานด้วย" เห็นได้ชัดว่า โจทก์ต้องการขับไล่จำเลยออกจากที่ทั้งแปลงคำขอท้ายฟ้องที่ขอให้ขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากบ้านเลขที่ 5 อันเป็นบริเวณสุสาน จึงเป็นการขอให้บังคับจำเลยทั้งสองออกจากที่ทั้งแปลง มิใช่เพียงเฉพาะขอให้บังคับจำเลยออกจากศาลา และให้รื้อถอนโรงถ่าน
คดีพิพาทในเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งแปลงซึ่งโจทก์จะต้องเสียค่าขึ้นศาลตามราคาทุนทรัพย์ เป็นการถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตีราคาทรัพย์ที่พิพาท และเรียกค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์ฎีกาตามราคาทุนทรัพย์แต่ที่ศาลชั้นต้นมิได้เรียกค่าขึ้นศาลสำหรับศาลชั้นต้นไว้ให้ครบ โดยเรียกไว้เพียง 50 บาท เป็นการคลาดเคลื่อนไปนั้น ทำให้เกิดความผิดพลาดเฉพาะในเรื่องการเรียกค่าธรรมเนียมศาลขาด ไม่กระทบถึงกระบวนพิจารณาอื่น ๆ หรือทำให้คำพิพากษาไม่มีผล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28-29/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ที่ดิน: การตีความคำฟ้องและขอบเขตการครอบครองปรปักษ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเกี่ยวข้องกับที่ดินทั้งแปลง แม้ในตอนท้ายจะมีข้อความว่า 'ได้พยายามพูดจาให้จำเลยทั้งสองออกไปเสียจากบ้านเลขที่ 5อันเป็นบริเวณสุสาน' ซึ่งอาจเข้าใจว่าหมายถึงเฉพาะให้จำเลยออกจากศาลาที่อยู่อาศัย แต่ก็ยังมีคำว่า บริเวณสุสานติดต่อกันไป อันหมายความได้ว่าให้จำเลยทั้งสองออกจากบริเวณสุสานนั่นเอง ทั้งในตอนสุดท้ายของคำฟ้องมีข้อความว่า 'จำเป็นต้องฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองและให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนโรงถ่านออกไปเสียจากบริเวณบ้านเลขที่ 5 ซึ่งเป็นบริเวณของสุสานด้วย'เห็นได้ชัดว่า โจทก์ต้องการขับไล่จำเลยออกจากที่ทั้งแปลงคำขอท้ายฟ้องที่ขอให้ขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากบ้านเลขที่ 5 อันเป็นบริเวณสุสาน จึงเป็นการขอให้บังคับจำเลยทั้งสองออกจากที่ทั้งแปลง มิใช่เพียงเฉพาะขอให้บังคับจำเลยออกจากศาลาและให้รื้อถอนโรงถ่าน
คดีพิพาทในเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งแปลงซึ่งโจทก์จะต้องเสียค่าขึ้นศาลตามราคาทุนทรัพย์เป็นการถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตีราคาทรัพย์ที่พิพาทและเรียกค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์ฎีกาตามราคาทุนทรัพย์ แต่ที่ศาลชั้นต้นมิได้เรียกค่าขึ้นศาลสำหรับศาลชั้นต้นไว้ให้ครบ โดยเรียกไว้เพียง 50 บาทเป็นการคลาดเคลื่อนไปนั้น ทำให้เกิดความผิดพลาดเฉพาะในเรื่องการเรียกค่าธรรมเนียมศาลขาด ไม่กระทบถึงกระบวนพิจารณาอื่น ๆหรือทำให้คำพิพากษาไม่มีผล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่า: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามอุทธรณ์ และเห็นว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์
ในคดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์ อันมีค่าเช่าไม่เกินเดือนละสองพันบาท ซึ่งเป็นคดีที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงนั้นข้อที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยมิได้ผิดนัดชำระค่าเช่า 2 คราวติดกัน จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์มาแต่ชั้นศาลอุทธรณ์ แม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ ก็ต้องถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแต่ชั้นอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
การบรรยายฟ้องให้เป็นที่เข้าใจว่าโจทก์มุ่งประสงค์อย่างใดนั้นไม่จำต้องใช้ศัพท์ให้ตรงตามกฎหมายเสมอไป
ฟ้องของโจทก์เมื่ออ่านรวมกันมาตั้งแต่ต้น ย่อมบ่งให้เห็นว่าจำเลยผิดนัดชำระค่าเช่า 2 คราวติด ๆ กันแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกแผงลอย สัญญาเช่าระงับแล้ว ผู้ให้เช่ามีสิทธิฟ้องได้ แม้จะทำสัญญาใหม่
โจทก์เป็นเจ้าของแผงลอยพิพาท ได้ทำสัญญาให้ ช. เช่า เมื่อ ช. ตาย สัญญาเช่าจึงระงับไป จำเลยผู้เป็นน้องชายของ ช. เข้าใช้แผงลอยนี้ต่อมาโดยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย แม้โจทก์จะได้ทำสัญญาให้ ก. เช่าเพื่อสร้างอาคารใหม่ ก็ไม่ทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์ระงับไป
โจทก์ทำสัญญาให้ ก. เช่าตลาดโดยให้รื้อตึกเก่าและแผงลอยออกแล้วสร้างตึกใหม่และมอบอำาจให้ ก. เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ผู้เช่าตึกและแผงลอย ไม่ใช่เป็นเรื่องโจทก์ตั้งให้ ก. เป็นตัวแทนไปตกลงเรื่องจะให้ค่าขนย้ายออกจากแผงลอย การที่ ก. ตกลงจะให้ค่าขนย้ายแก่ผู้ที่อยู่ในแผงลอย จึงไม่ผูกพันโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าใช้ประโยชน์ในที่ของผู้อื่นโดยไม่มีนิติสัมพันธ์ ถือเป็นการละเมิด เจ้าของมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้
โจทก์เป็นเจ้าของแผงลอยพิพาท ได้ทำสัญญาให้ ช. เช่า เมื่อ ช. ตาย สัญญาเช่าจึงระงับไป จำเลยผู้เป็นน้องชายของ ช. เข้าใช้แผงลอยนี้ต่อมาโดยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย แม้โจทก์จะได้ทำสัญญาให้ ก. เช่าเพื่อสร้างอาคารใหม่ก็ไม่ทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์ระงับไป
โจทก์ทำสัญญาให้ ก. เช่าตลาดโดยให้รื้อตึกเก่าและแผงลอยออกแล้วสร้างตึกใหม่และมอบอำนาจให้ ก. เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ผู้เช่าตึกและแผงลอย ไม่ใช่เป็นเรื่องโจทก์ตั้งให้ ก. เป็นตัวแทนไปตกลงเรื่องจะให้ค่าขนย้ายออกจากแผงลอย การที่ ก. ตกลงจะให้ค่าขนย้ายแก่ผู้ที่อยู่ในแผงลอย จึงไม่ผูกพันโจทก์
of 59