คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยักยอก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 437 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องลักทรัพย์/รับของโจร/ยักยอก: ศาลฎีกาวินิจฉัยฟ้องสมบูรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร หรือยักยอกเก็บของตก ดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
(อ้างฎีกา 467/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้รวมเงินที่ถูกยักยอกเป็นราคาสินค้า ทำให้สิทธิเรียกร้องในความผิดยักยอกระงับ
จำเลยได้ทำใบรับเงินให้แก่ผู้เสียหาย 1 ฉบับ มีข้อความว่าจำเลยได้รับเงินจากผู้เสียหาย 1 หมื่นบาท เพื่อซื้อแร่จากจังหวัดยะลามาให้ผู้เสียหาย แล้วจำเลยได้กลับมาแจ้งแก่ผู้เสียหายว่าได้เอาเงิน 7000 บาท ไปวางมัดจำสำหรับทำสัญญาซื้อแร่ และได้นำเงินที่เหลือมาคืน ต่อมาจำเลยจึงได้ทำสัญญาขายฝากโรงงานถลุงแร่ของจำเลยแก่ผู้เสียหาย จำนวนราคาขายฝากให้ถือเอาหลักฐานที่จำเลยทำไว้กับผู้เสียหาย คือ สัญญากู้ยืม และรับเงินรวม 3 ฉบับ และจำนวนเงิน 1 หมื่นบาท ดังกล่าวข้างต้นได้รวมอยู่เป็นค่าซื้อฝากโรงงานด้วย หลังจากทำสัญญาขายฝากแล้ว ผู้เสียหายจึงได้ทราบว่าจำเลยยักยอกเอาเงิน 7000 บาทซึ่งอ้างว่าไปวางมัดจำซื้อแร่นั้น เอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย
การที่ผู้เสียหายตกลงทำสัญญากับจำเลย เอาเงินที่หาว่าจำเลยยักยอกไปรวมเป็นราคาค่าซื้อฝากขอโรงงานของจำเลยเสร็จไปแล้วนั้น ผู้เสียหายจะกลับรื้อฟื้นขึ้นมาว่ากล่าวฟ้องร้องไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางแพ่งขอให้คืนเงินรายนี้ หรือทางอาญาขอให้ลงโทษฐานยักยอก เพราะการตกลงกับจำเลยดังกล่าวข้างต้นนั้น มีผลเป็นการยินยอมไม่ติดใจว่ากล่าวในเงินรายนี้แล้ว
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงผิดจากพยานหลักฐานในท้องสำนวน ศาลฎีกาไม่จำต้องถือตามและมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยินยอมไม่ติดใจว่ากล่าวหลังทำสัญญาซื้อฝากแล้ว แม้มีการยักยอกก่อนหน้า สิทธิเรียกร้องย่อมระงับ
จำเลยได้ทำใบรับเงินให้แก่ผู้เสียหาย 1 ฉบับ มีข้อความว่าจำเลยได้รับเงินจากผู้เสียหาย 1 หมื่นบาทเพื่อซื้อแร่จากจังหวัดยะลามาให้ผู้เสียหายแล้วจำเลยได้กลับมาแจ้งแก่ผู้เสียหายว่าได้เอาเงิน 7000 บาท ไปวางมัดจำสำหรับทำสัญญาซื้อแร่ และได้นำเงินที่เหลือมาคืน ต่อมาจำเลยจึงได้ทำสัญญาขายฝากโรงงานถลุงแร่ของจำเลยแก่ผู้เสียหายจำนวนราคาขายฝากให้ถือเอาหลักฐานที่จำเลยทำไว้กับผู้เสียหาย คือสัญญากู้ยืม และรับเงินรวม 3 ฉบับและเงินจำนวน 1 หมื่นบาทดังกล่าวข้างต้นได้รวมอยู่เป็นค่าซื้อฝากโรงงานด้วย หลังจากทำสัญญาขายฝากแล้วผู้เสียหายจึงได้ทราบว่า จำเลยยักยอกเอาเงิน 7000 บาทซึ่งอ้างว่าไปวางมัดจำซื้อแร่นั้น เอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย
การที่ผู้เสียหายตกลงทำสัญญากับจำเลยเอาเงินที่หาว่าจำเลยยักยอกไปรวมเป็นราคาค่าซื้อฝากของโรงงานของจำเลยเสร็จไปแล้วนั้น ผู้เสียหายจะกลับรื้อฟื้นขึ้นมาว่ากล่าวฟ้องร้องไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางแพ่งขอให้คืนเงินรายนี้หรือทางอาญาขอให้ลงโทษฐานยักยอก เพราะการตกลงกับจำเลยดังกล่าวข้างต้นนั้น มีผลเป็นการยินยอมไม่ติดใจว่ากล่าวในเงินรายนี้แล้ว
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงผิดจากพยานหลักฐานในท้องสำนวนศาลฎีกาไม่จำต้องถือตามและมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกหุ้นส่วนและการยักยอกทรัพย์สินร่วม ศาลฎีกาเห็นว่าขาดเจตนายักยอก
ผู้เป็นหุ้นส่วนตกลงเลิกหุ้นส่วนแบ่งทุนและกำไรกันทรัพย์สินที่ใช้ในกิจการของหุ้นส่วนก็เอามาตีราคาแบ่งกันแล้ว แม้ผู้เป็นหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งจะยังคงครอบครองทรัพย์สินนั้นไว้ต่อไปอีก ถ้าหากมีเจตนาทุจจริตเบียดบังเอาทรัพย์นั้น ก็อาจมีความผิดฐานยักยอก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เลิกหุ้นส่วน-แบ่งทรัพย์สิน: เจตนาทุจริตเบียดบังทรัพย์สินอาจเข้าข่ายยักยอก
ผู้เป็นหุ้นส่วนตกลงเลิกหุ้นส่วนแบ่งทุนและกำไรกัน ทรัพย์สินที่ใช้ในกิจการของหุ้นส่วนก็เอามาตีราคาแบ่งกันแล้ว แม้ผู้เป็นหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งจะยังคงครอบครองทรัพย์สินนั้นไว้ต่อไปอีก ถ้าหากมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์นั้น ก็อาจมีความผิดฐานยักยอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงหรือยักยอก
ความผิดฐานฉ้อโกงหรือยักยอกนั้น ถ้าฟ้องโจทก์บรรยายถึงการกระทำต่างๆ ของจำเลยซึ่งอาจเป็นผิดฐานฉ้อโกง หรือยักยอกฐานใดฐานหนึ่งได้นั้น แม้จะอ้างบทขอให้ลงโทษมาทั้งฐานฉ้อโกงและยักยอก ก็ถือได้ว่าโจทก์ประสงค์จะขอให้ลงโทษแต่ฐานใดฐานหนึ่งแต่ฐานเดียว จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ รับไว้พิจารณาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์: การพิเคราะห์เจตนาและวันกระทำผิด
ฟ้องว่าจำเลยหลอกลวงให้เขาส่งทรัพย์ให้โดยมีเจตนาฉ้อโกง หรือมิฉะนั้นจำเลยคิดทุจจริตยักยอกทรัพย์ที่เขามอบให้ ขอให้ลงโทษตาม ม. 304,314 ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องเรื่องยักยอกหรือฉ้อโกงโจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดมาถึงวันก่อนฟ้องเดือนเศษ แม้ไม่ปรากฎว่ารู้เรื่องความผิดเมื่อไรก็ไม่เป็นฟ้อง เคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ตำรวจในการรักษาของกลาง ยักยอกเป็นความผิด
ตำรวจมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิด ย่อมมีหน้าที่รักษาของกลางที่ยึดได้ ก่อนที่จะนำส่งพนักงานสอบสวนด้วย ถ้ายักยอกของกลางนั้นเป็นประโยชน์ส่วนตัวก็ต้องมีความผิด
(อ้างฎีกาที่ 282/2485)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ตำรวจในการรักษาของกลาง ยักยอกเป็นความผิด
ตำรวจมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิด ย่อมมีหน้าที่รักษาของกลางที่ยึดได้ ก่อนที่จะนำส่งพนักงานสอบสวนด้วย ถ้ายักยอกของกลางนั้นเป็นประโยชน์ส่วนตัวก็ต้องมีความผิด (อ้างฎีกาที่ 282/2485)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมใช้ทรัพย์ที่ยักยอก สัญญาไม่เป็นโมฆะ และการฟ้องใหม่ที่ไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
ถอนฟ้องคดีแพ่งแล้วกลับมาฟ้องใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 176 และไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
รับฝากของที่ขโมยเขามามารดาและพี่ของผู้รับฝากทำสัญญายอมใช้ราคาของที่ฝากให้แก่เจ้าของและคนขโมย เจ้าของย่อมฟ้องเรียกเงินตามสัญญานั้นได้ และสัญญาชนิดนี้ไม่ใช่สัญญาค้ำประกัน
การทำยอมใช้ทรัพย์ที่ยักยอกอันเป็นความผิดส่วนตัวนั้นไม่นับว่าสัญญาเป็นโมฆะ
คนที่สามทำสัญญายอมรับใช้ทรัพย์แทนผู้รับฝากนั้นไม่ต้องปิดอากรแสตมป์
of 44