คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิทธิในที่ดิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 460 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น แม้พิพาทเรื่องสิทธิในที่ดิน จำเลยไม่มีอำนาจทำลายทรัพย์โจทก์ ต้องฟ้องแย่งการครอบครอง
โจทก์จำเลยต่างอ้างว่าตนมีสิทธิครอบครองที่ดิน ต่อมาโจทก์เข้าปลูกต้นกล้วยและปักเสารั้วในที่ดิน จำเลยตัดฟันเสียเช่นนี้ ถือว่าเป็นการทำลายทรัพย์ของโจทก์มีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 แล้วเพราะหากจำเลยจะถือว่าการกระทำของโจทก์เป็นการแย่งการครอบครองจำเลยก็ชอบที่จะฟ้องร้องเอาคืนการครอบครองในทางศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจคณะกรรมการสำรวจที่ดินขัดรัฐธรรมนูญ: การวินิจฉัยชี้ขาดสิทธิในที่ดินเป็นอำนาจศาลแต่เพียงผู้เดียว
การที่พระราชบัญญัติว่าด้วยการสำรวจการออกโฉนดที่ดิน พ.ศ. 2496 มาตรา 3, 4, 5, 7 ให้ก่อตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง มีอำนาจทำการสำรวจและสั่งยกเลิกการออกโฉนดที่ดินซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าได้กระทำไปโดยมิชอบด้วยความเป็นธรรมแล้วสั่งให้มีการออกโฉนดที่ดินใหม่ได้ตามความเป็นธรรม และให้ถือว่าคำสั่งคณะกรรมการเป็นเด็ดขาด จะนำไปฟ้องคดีเพื่อแก้ไขให้เป็นอย่างอื่นมิได้นั้น เป็นการให้คณะกรรมการมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดข้อโต้แย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินอันเป็นกรณีพิพาทระหว่างบุคคล ลบล้างกรรมสิทธิ์ของบุคคลที่มีอยู่แล้ว และก่อตั้งกรรมสิทธิ์ขึ้นใหม่ มีผลเท่ากับตั้งคณะบุคคลอื่นที่มิใช่ศษลให้มีอำนาจพิจารณาพิพากษาอรรถคดีแยกไปจากอำนาจของศาลโดยชัดแจ้ง จึงเป็นการแย้งและขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งบัญญัติว่า การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีเป็นอำนาจของศาลโดยเฉพาะ
ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61 ซึ่งให้อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจเรียกโฉนดที่ดินหรือเอกสารที่ได้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมหรือเอกสารที่ได้จดแจ้งรายการทะเบียนที่ดินมาแก้ไขให้ถูกต้องหรือเพิกถอนเสียได้นั้นเป็นเพียงอำนาจบริหารเท่านั้น อธิบดีกรมที่ดินจะวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทที่คู่กรณีโต้แย้งสิทธิกันหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนชื่อออกจาก ส.ค.1 เมื่อมีข้อพิพาทเรื่องสิทธิในที่ดิน ต้องเริ่มคดีด้วยการยื่นฟ้อง
การร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนชื่อบุคคลผู้ไม่มีสิทธิออกจากแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1 ) นั้น เห็นได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น ระหว่างผู้ร้องกับผู้มีชื่อในแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน ว่าใครมีสิทธิเหนือที่ดินดีกว่ากัน เป็นคดีมีข้อพิพาทแล้ว จึงต้องเริ่มคดีโดยทำเป็นคำฟ้องต่อศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดิน: การเพิกถอน ส.ค.1 เมื่อมีการโต้แย้งสิทธิครอบครอง และการเริ่มคดีโดยคำฟ้อง
การร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนชื่อบุคคลผู้ไม่มีสิทธิออกจากแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1)นั้น เห็นได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นระหว่างผู้ร้องกับผู้มีชื่อในแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน ว่าใครมีสิทธิเหนือที่ดินดีกว่ากัน เป็นคดีมีข้อพิพาทแล้ว จึงต้องเริ่มคดีโดยทำเป็นคำฟ้องต่อศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1098/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอม ทางพิพาท การใช้สิทธิในที่ดินของผู้อื่น ระยะเวลา 10 ปี
การผ่านหรือเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1353 แม้จะเป็นการใช้สิทธิในทรัพย์ของผู้อื่น ก็ทำให้ผู้ที่มิใช่เจ้าของซึ่งผ่านหรือเข้าไปพ้นจากการเป็นผู้ทำละเมิด แต่เจ้าของที่ดินห้ามได้เสมอ เมื่อห้ามแล้วยังฝ่าฝืนก็ต้องตกเป็นผู้ละเมิด ถ้าไม่ห้ามและการผ่านหรือเข้าไปในที่ดินดังกล่าว โดยอาศัยอำนาจของผู้ผ่านหรือเข้าไปเอง และถ้าเป็นเวลา 10 ปีหรือกว่า 10 ปีขึ้นไป ที่ดินที่ถูกผ่านหรือเข้าไปก็ต้องตกเป็นภาระจำยอม
ฤดูแล้งคนทั่วไป วัวควาย ล้อเลื่อน ใช้ทางพิพาทกว้าง 4 ศอก ฤดุทำนาเฉพาะคนอย่างเดียวเท่านั้นใช้ทางพิพาทกว้าง 1 ศอก โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร เป็นเวลา 10 ปี หรือเกิน 10 ปีขึ้นไป ทางพิพาทย่อมตกเป็นภาระจำยอมให้ฤดูทำนากว้าง 1 ศอก ฤดูนอกนั้นกว้าง 4 ศอก โจทก์เพิ่งได้เอากระบือไปทำนาและพากลับบ้านด้วย โดยผ่านทางพิพาทเป็นเวลา 2 ปี ไม่ทำให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจำยอมเกินกว่า 1 ศอก เพื่อให้กระบือผ่านในฤดูทำนาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินชายตลิ่งสาธารณสมบัติและการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำ
โจทก์ซื้อที่ดิน (ที่มือเปล่า) จากผู้อื่นด้านยาวทิศใต้จดถนนหลวง ด้านกว้างทิศตะวันออกจดคลอง แล้วให้จำเลยเช่าโดยระบุว่าเช่าเพื่อปลูกอาสัย จำเลยใช้ที่ของโจทก์ทำคอกเป็ดและเลี้ยงเป็ด แต่ปลูกโรงเรือนอยู่ที่ในที่ดินต่อกับเขตที่ของโจทก์ออกไปทางทิศตะวันออก เป็นที่ซึ่งน้ำในลำคลองท่วมถึงเป็นปกติเกือบตลอดปี ที่ซึ่งจำเลยปลูกโรงเรือนนี้ย่อมเป็นที่ชายตลิ่งสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามมาตรา 1304 ไม่ใช่ที่งอกริมตลิ่งตามมาตรา 1308 แม้โจทก์จะได้ครอบครองที่รายนี้มา 10 ปีเศษแล้ว แต่เมื่อตรงที่จำเลยปลูกโรงเรือนเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์ก็จะอ้างสิทธิครอบครองว่าเป็นของตนหาได้ไม่
แม้โรงเรือนของจำเลยจะไม่บังที่ดินของโจทก์ด้านถนนหลวง แต่ก็ปลูกอยู่ในที่ขายตลิ่งด้านที่ที่ดินโจทก์ติดริมคลอง เป็นที่กีดขวางระหว่างที่ดินของโจทก์กับคลองทำให้ที่ดินของโจทก์ด้านนั้นถูกริดรอนความสะดวกไปบ้า+โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยให้รื้อถอนโรงเรือนไปเสียได้ตามมาตรา 1337
โจทก์มุ่งหมายเรียกค่าเสียหายเฉพาะที่ขาดประโยชน์ที่ควรได้จากการเช่า เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อโรงเรือนอย่าให้ปิดบังกีดขวางหน้าที่ดินของโจทก์โดยมิใช่เหตุเพราะผิดสัญญาเช่า ศาลก็ไม่บังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1351/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างเอกสารจากคดีอื่นเป็นหลักฐานสิทธิในที่ดิน จำเลยไม่ผูกมัดหากไม่ยอมรับ
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำเลยปฏิเสธโจทก์คงอ้างแต่สำนวนคดีความที่ภรรยาโจทก์ ฟ้องจำเลยในคดีก่อนมาเป็นพยานโดยจำเลยมิได้ยอมตกลงด้วย ดังนี้ เป็นการอ้างลอยๆ ไม่ผูกมัดจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งการครอบครองที่ดินไม่ได้สร้างสิทธิใหม่ การพิจารณาความเป็นเจ้าของต้องดูจากข้อเท็จจริง
ที่พิพาทไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ จะถือเอาการแจ้งการครอบครองต่อนายอำเภอท้องที่ตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พงศ. 2497 มาตรา 5 เป็นข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าผู้แจ้งการครอบครองเป็นผู้มีสิทธิในที่นั้นเสมอไปหาได้ไม่ เพราะมาตรานี้ประสงค์เพียงว่าถ้าผู้ครอบครองไม่แจ้งการครอบครองรัฐมีอำนาจจะจัดที่ดินนั้นตามประมวลกฎหมายที่ดินเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งการครอบครองที่ดินไม่สร้างสิทธิ การแจ้งไม่ใช่หลักฐานสิทธิ
การแจ้งการครอบครองที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ไม่เป็นข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าผู้แจ้งการครอบครองเป็นผู้มีสิทธิในที่นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่สาธารณประโยชน์: การขัดคำสั่งเจ้าพนักงานเมื่อบุกรุกและอ้างสิทธิในที่ดินสาธารณะ
ที่สาธารณประโยชน์นั้น ไม่จำเป็นที่ทางราชการต้องสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน ก็เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่ตามสภาพ
นายอำเภอสั่งให้จำเลยออกจากที่ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นที่สาธารณประโยชน์ จำเลยไม่ยอมออกโดยอ้างว่าเป็นที่ของจำเลยนั้น ไม่ใช่เหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368
of 46