คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สืบพยาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 971 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4481/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีและการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการถอนตัวทนายความ ศาลชอบที่จะไม่อนุญาตและงดสืบพยาน
ในวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรก ทนายจำเลยขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่าป่วยศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีโดยได้กำชับให้เตรียมพยานมาศาลให้พร้อมเพราะจะไม่เลื่อนคดีให้อีก เมื่อถึงวันนัดทนายจำเลยกลับให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายความของจำเลยทั้งสองมายื่นแทน แต่มิได้แจ้งการถอนตัวให้ตัวความทราบโดยข้ออ้างที่ว่าไม่สามารถติดต่อจำเลยทั้งสองได้มาซึ่งไม่น่าเชื่อ พฤติการณ์ถือได้ว่าฝ่ายจำเลยมีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้าการที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตัวจากการเป็นทนายความของจำเลยทั้งสองและงดสืบพยานจำเลยจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3629/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อนุญาตระบุพยานเพิ่มเติมหลังสืบพยานหลักฐานเสร็จสิ้น หากประเด็นที่จะสืบไม่สำคัญต่อการวินิจฉัย
จำเลยยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติมโดยขอเปลี่ยนตัวพยานจากร.มาเป็นท. ภายหลังจากโจทก์ซึ่งมีหน้าที่สืบพยานก่อนได้สืบพยานหลักฐานเสร็จแล้ว ในคำร้องอ้างเหตุเพียงว่า ร.ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการและพนักงานของจำเลยแล้ว ไม่สามารถตามตัวได้ มิได้อ้างเหตุที่เกี่ยวกับพยานที่ระบุเพิ่มเติมซึ่งไม่ใช่เหตุอันสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสามที่ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยระบุพยานเพิ่มเติมได้ ทั้งประเด็นที่จะสืบ ท. ก็มีเพียงเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยและกิจการของจำเลยซึ่งโจทก์ได้นำสืบยอมรับแล้วว่าจำเลยมีความรับผิดตามข้อความในกรมธรรม์ประกันภัยเท่านั้น ดังนั้นประเด็นที่จำเลยจะสืบ ท. จึงไม่ใช่ข้อสำคัญแห่งประเด็นที่จำเลยจำเป็นจะต้องนำสืบเพื่อให้คำวินิจฉัยของศาลเป็นไปโดยเที่ยงธรรม ชอบที่จะไม่อนุญาตให้จำเลยระบุ ท.เป็นพยานเพิ่มเติม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3275/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินคดีมรดกที่มีการคัดค้าน การกำหนดวันสืบพยานใหม่ และการสืบพยานประเด็นสำคัญ
ในคดีร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก เมื่อผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านแล้วประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188(4)บังคับให้ต้องดำเนินคดีไปตามบทบัญญัติว่าด้วยคดีอันมีข้อพิพาท เมื่อผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านในวันที่ 22 มิถุนายน 2527 ศาลจะต้องกำหนดวันสืบพยานขึ้นใหม่เพื่อเปิดโอกาสให้คู่ความได้ยื่นบัญชีระบุพยานตามกฎหมายเสียก่อน จะถือเอาวันนัดไต่สวนเดิมคือวันที่ 25 มิถุนายน 2527 เป็นวันสืบพยานหาได้ไม่ ดังนี้ในวันที่ 25 มิถุนายน 2527 อันเป็นวันนัดไต่สวนไว้เดิมผู้คัดค้านจึงยังมีสิทธิที่จะเสนอคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำคัดค้านต่อศาลได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2967/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นเพื่อสืบพยานเพิ่มเติมได้ หากจำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงเพื่อวินิจฉัยคดี
ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์อุทธรณ์คัดค้านคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น อ้างว่าศาลอุทธรณ์ควรฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์ฟ้อง แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้โจทก์ตามคำฟ้อง แม้โจทก์จะมิได้อุทธรณ์ขอให้ย้อนสำนวนก็ตามแต่เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่ากรณีไม่อาจพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีตามคำขอในอุทธรณ์ของโจทก์ได้โดยไม่ต้องสืบพยาน ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจพิพากษา ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2924/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดีล้มละลาย: ผลของการไม่แจ้งวันนัดใหม่และการดำเนินการสืบพยานฝ่ายเดียว
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายและฟังคำสั่งศาลแทนศาลไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตัวเพราะจำเลยยังไม่ทราบเรื่อง ให้ทนายจำเลยนำส่งสำเนาคำร้องขอถอนตัวให้จำเลยทราบเสียก่อน และศาลได้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์ใหม่โดยผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยลงลายมือชื่อรับทราบคำสั่งศาลในรายงานกระบวนพิจารณาถือได้ว่าทนายจำเลยทราบคำสั่งของศาลที่ไม่อนุญาตให้ถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและจำเลยได้ทราบกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ตามที่ศาลนัดใหม่แล้ว เมื่อทนายจำเลยและจำเลยไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ที่เลื่อนมาดังกล่าวโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องการที่ศาลได้มีคำสั่งให้จำเลยขาดนัดพิจารณาและดำเนินการสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวแล้วมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดจึงเป็นการชอบแล้ว
จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้มีคำสั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์และคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด และขอให้ไต่สวนคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ซึ่งศาลดำเนินการไปโดยชอบแล้ว ศาลมีอำนาจที่จะสั่งยกคำร้องของจำเลยโดยไม่จำเป็นต้องไต่สวนคำร้องก่อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2834/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีและการสืบพยานฝ่ายเดียว ศาลชอบด้วยกฎหมายเมื่อจำเลยไม่มาศาล
เมื่อจำเลยขาดนัดพิจารณา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 202 กำหนดให้ศาลพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียวส่วนความในมาตรา 205 นั้น หมายความเฉพาะกรณีที่จำเลยมาศาลในระหว่างการพิจารณาฝ่ายเดียวอยู่เท่านั้น เมื่อโจทก์นำพยานเข้าสืบเสร็จในวันเดียวกันโดยจำเลยไม่มาศาล ต้องถือว่าเสร็จการพิจารณาแล้ว ไม่มีทางที่จะเลื่อนคดีไปเพื่อให้จำเลยได้มีโอกาสซักค้านพยานโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแรงงานในการรับพยานเพิ่มเติมและการปฏิบัติตามหลักวิธีพิจารณาความแพ่ง
การที่ศาลแรงงานกลางสั่งรับเอกสารตามบัญชีเพิ่มเติมของจำเลยเป็นพยานหลังจากโจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนสืบพยานเสร็จแล้ว เป็นการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 45 วรรคแรก เอกสารดังกล่าวถือว่าเป็นพยานศาลจึงย่อมรับฟังได้
เมื่อศาลแรงงานกลางยอมให้นำสืบเอกสารดังกล่าวและจำเลยแถลงหมดพยานแล้ว โจทก์มิได้แถลงขอสืบพยานเพื่อหักล้างเอกสารนั้นทั้งศาลแรงงานกลางคงได้พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่สมควรจะเรียกพยานมาสืบอีกตามความในตอนท้ายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 วรรคสามจึงมิได้ใช้อำนาจดังกล่าว เช่นนี้ การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลแรงงานกลางชอบแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1540/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งนายกฯ ตามธรรมนูญการปกครองฯ มีผลบังคับใช้ได้ การงดสืบพยานระหว่างพิจารณาไม่ถือเป็นอุปสรรคคดี
ในระหว่างที่ใช้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร ถือว่าธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรเป็นกฎหมายสูงสุด บรรดาคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 17 แห่งธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรดังกล่าวและโดยมติคณะรัฐมนตรีจึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายและใช้บังคับได้ คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งให้งดสืบพยานจำเลยมิได้ทำให้คดีเสร็จสิ้นไปทั้งเรื่องเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อจำเลยมิได้โต้แย้งไว้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิที่จะอุทธรณ์ฎีกาในประเด็นดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีแรงงานต้องอาศัยการสืบพยานเพื่อวินิจฉัยข้อเท็จจริงเรื่องการกระทำผิดวินัยร้ายแรง การงดสืบพยานโดยอาศัยเพียงเอกสารไม่เพียงพอ
ตามคำฟ้องและคำให้การคดีมีประเด็นหลักที่ต้องฟังข้อเท็จจริงให้ได้ว่าโจทก์กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงหรือไม่ การที่ศาลแรงงานกลางจดรายงานกระบวนพิจารณาว่า คู่ความแถลงรับกันว่าข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นมีอยู่เป็นไปตามคำฟ้อง คำให้การเอกสารท้ายฟ้องท้ายคำให้การ...แล้วสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยและพิพากษาคดีไปนั้น เห็นได้ว่า ข้อเท็จจริงย่อมจะเป็นไปตามข้ออ้างข้อหาในคำฟ้องและขณะเดียวกันก็เป็นไปตามคำให้การด้วยไม่ได้ลำพังเอกสารที่ศาลแรงงานกลางหยิบยกขึ้นอ้าง ยังไม่เพียงพอแก่การที่จะวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงอันเป็นประเด็นในคดี จึงเป็นกรณีที่ศาลแรงงานกลางมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายวิธีพิจารณาความว่าด้วยการพิจารณา ต้องย้อนสำนวนไปให้พิจารณาพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 719/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลฎีกาแก้คำสั่งศาลแรงงานกลาง สั่งให้สืบพยานเพิ่มเติม กรณีพิพาทเลิกจ้างจากข้อกล่าวหาทุจริต
คดีที่ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานขออนุญาตเลิกจ้างผู้คัดค้านซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้าง โดยอ้างว่าผู้คัดค้านกระทำการทุจริตต่อหน้าที่การงานอันเป็นความผิดร้ายแรงนั้นเมื่อปรากฏว่าผู้คัดค้านยังให้การต่อสู้อยู่ว่าไม่เคยทุจริตต่อหน้าที่ ศาลแรงงานจะสั่งงดสืบพยานผู้ร้องโดยนำคำให้การของพยานชั้นสอบสวน ความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนตลอดจนความเห็นแย้งมาวินิจฉัยว่าการกระทำของผู้คัดค้านมิใช่เป็นกรณีที่ร้ายแรงถึงขนาดเลิกจ้างหาได้ไม่ เพราะไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับรองถึงความมีอยู่ ความถูกต้องแท้จริงของเอกสารดังกล่าว ถือว่าเป็นเอกสารที่ผู้ร้องส่งศาลโดยไม่มีพยานบุคคลประกอบ ไม่มีผู้ รับรอง ชอบที่จะดำเนินการสืบพยานในประเด็นแห่งคดีต่อไป.
of 98