พบผลลัพธ์ทั้งหมด 359 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1386/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดทรัพย์ที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ไม่อาจใช้ยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายได้
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีหนังสือแจ้งการอายัดในหุ้นของลูกหนี้ ซึ่งได้ชำระค่าหุ้นแล้วไปยังบริษัทเมื่อปรากฎว่าในหุ้นนั้นอยู่ในครอบครองของลูกหนี้และแจ้งการอายัดปืนไปยังนายทะเบียนปืน ในเมื่อปืนอยู่ในความครอบครองของเจ้าของหรือผู้อื่นนั้น ไม่ถือว่าเป็นการยึดหรืออายัดตาม ป.ม.วิ.แพ่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงย่อมเรียกร้องยึดเอาทรัพย์ที่อายัดไม่ถูกต้องนั้นมาเข้ากองล้มละลายได้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 110
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1386/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดทรัพย์สินไม่สมบูรณ์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีสิทธิเรียกคืนได้
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีหนังสือแจ้งการอายัดใบหุ้นของลูกหนี้ซึ่งได้ชำระค่าหุ้นแล้วไปยังบริษัทเมื่อปรากฏว่าใบหุ้นนั้นอยู่ในครอบครองของลูกหนี้และแจ้งการอายัดปืนไปยังนายทะเบียนปืน ในเมื่อปืนอยู่ในความครอบครองของเจ้าของหรือผู้อื่นนั้น ไม่ถือว่าเป็นการยึดหรืออายัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงย่อมเรียกร้องยึดเอาทรัพย์ที่อายัดไม่ถูกต้องนั้นมาเข้ากองล้มละลายได้ตาม พระราชบัญญัติล้มละลายมาตรา 110
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1179/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์ก่อนล้มละลายและการทำลายการโอน อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และความสามารถในการฟ้องคดีของสตรี
ทรัพย์ที่ผู้ล้มละลายโอนไปยังผู้อื่นแล้ว ก่อนล้มละลายนั้นว่าโดยปรกติย่อมยึดไม่ได้ เว้นแต่จะมีการทำลายการโอนนั้นเสียก่อน อำนาจที่จะขอทำลายการโอนนั้นเป็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หาใช่ของโจทก์ในคดีล้มละลายไม่ ฉะนั้นเมื่อมีผู้ร้อง ร้องขอให้ถอนการยึดทรัพย์ในคดีล้มละลายบางสิ่ง โดยอ้างว่าได้รับโอนมาจากผู้ล้มละลายโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์พิจารณาแล้วเห็นสมควร จึงสั่งให้ถอนการยึด ดังนี้ โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ย่อมไม่มีผล
หญิงมีสามีย่อมเป็นผู้ไร้ความสามารถแต่เฉพาะในกรณีที่จะผูกพันสินบริคณห์เท่านั้น ส่วนในแง่ผูกพันสินส่วนตัว หาได้เป็นบุคคลผู้ไร้ความสามารถไม่ จึงจะถือว่าหญิงมีสามีเป็ผู้ไร้ความสามารถ จะฟ้องคดีต้องได้รับอนุญาตจากสามีตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 56 ยังมิได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีต้องตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1469 หรือมาตราอื่น ๆ ที่ห้ามไว้ โดยเฉพาะถ้าหากมีเท่านั้น
หญิงมีสามีย่อมเป็นผู้ไร้ความสามารถแต่เฉพาะในกรณีที่จะผูกพันสินบริคณห์เท่านั้น ส่วนในแง่ผูกพันสินส่วนตัว หาได้เป็นบุคคลผู้ไร้ความสามารถไม่ จึงจะถือว่าหญิงมีสามีเป็ผู้ไร้ความสามารถ จะฟ้องคดีต้องได้รับอนุญาตจากสามีตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 56 ยังมิได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีต้องตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1469 หรือมาตราอื่น ๆ ที่ห้ามไว้ โดยเฉพาะถ้าหากมีเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดก่อนคำพิพากษา แม้ผู้ซื้อสุจริตก็ไม่เกิดกรรมสิทธิ์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจฟ้องเรียกทรัพย์คืน
การยึดทรัพย์จำเลยก่อนคำพิพากษานั้น แม้การยึดทรัพย์เจ้าพนักงานจะมิได้แจ้งให้จำเลยทราบเพราะไม่พบตัวจำเลยก็ไม่ทำให้การยึดนั้นเสียไป
จำเลยซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษา แก่ผู้ซื้อ แม้ผู้ซื้อจะซื้อโดยสุจริต ก็ไม่ได้กรรมสิทธิตามนัยแห่ง ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 259,305 และในภายหลังปรากฎว่าจำเลยถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว เพราะมีผู้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่สามารถเข้าครอบครองทรัพย์ที่ถูกยึดดังกล่าวข้างต้นได้ เนื่องจากเมื่อซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดกันแล้ว ผู้ซื้อก็ขนเอาทรัพย์นั้นไปหมด โดยผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้นได้รู้เห็น ดังนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และเจ้าพนักงานบังคับคดี ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องให้ผู้ซื้อทรัพย์นั้นกับผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้น ส่งทรัพย์ที่เอาไปได้ถ้าส่งไม่ได้ก็ต้องใช้ราคา
จำเลยซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษา แก่ผู้ซื้อ แม้ผู้ซื้อจะซื้อโดยสุจริต ก็ไม่ได้กรรมสิทธิตามนัยแห่ง ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 259,305 และในภายหลังปรากฎว่าจำเลยถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว เพราะมีผู้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่สามารถเข้าครอบครองทรัพย์ที่ถูกยึดดังกล่าวข้างต้นได้ เนื่องจากเมื่อซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดกันแล้ว ผู้ซื้อก็ขนเอาทรัพย์นั้นไปหมด โดยผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้นได้รู้เห็น ดังนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และเจ้าพนักงานบังคับคดี ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องให้ผู้ซื้อทรัพย์นั้นกับผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้น ส่งทรัพย์ที่เอาไปได้ถ้าส่งไม่ได้ก็ต้องใช้ราคา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1876/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนองและการเพิกถอนการฉ้อฉลในคดีล้มละลาย: หน้าที่การนำสืบของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
การโอนทรัพย์สินของลูกหนี้ในระหว่าง 3 ปีก่อนล้มละลายนั้น พ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 114 บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของผู้รับโอนจะแสดงให้ศาลพอใจว่าการโอนนั้นได้กระทำโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน ส่วนกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องขอให้ศาลเพิกถอนการฉ้อฉลตาม พ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 113 นั้นหาได้มีบทบัญญัติเรื่องหน้าที่นำสืบเป็นคุณแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดังเช่นการโอนทรัพย์ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 114 ดังกล่าวไม่ จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องนำสืบให้ได้ความว่ามีการฉ้อฉลกัน
การจำนองทรัพย์สิน+ใช่เป็นการโอนทรัพย์สินตามพ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 114 จึงจะนำมาตรา 114 มาใช้บังคับไม่ได้
การจำนองทรัพย์สิน+ใช่เป็นการโอนทรัพย์สินตามพ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 114 จึงจะนำมาตรา 114 มาใช้บังคับไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 635/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดสินบริคณห์เมื่อภริยาล้มละลาย แม้หนี้เกิดก่อนบังคับใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
เมื่อภริยาต้องคำพิพากษาให้ล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีสิทธิจะยึดสินบริคณห์มาแบ่งแยกส่วนของผู้ล้มละลายได้
หญิงมีสามีเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้ว นิติกรรมที่ได้ทำขึ้นจึงผูกพันหญิงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 37
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาให้ล้มละลายแล้ว หนี้ที่ฟ้องล้มละลายจะเกิน 10 ปีแล้วก็ไม่มีเหตุที่จะถือว่าคำพิพากษาไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด
แม้จะเป็นหนี้เกิดก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 ก็ดี ก็แบ่งแยกสินบริคณห์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1484 ได้ ไม่ขัดกับบทกฎหมายเก่าหรือใหม่อย่างใด
หญิงมีสามีเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้ว นิติกรรมที่ได้ทำขึ้นจึงผูกพันหญิงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 37
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาให้ล้มละลายแล้ว หนี้ที่ฟ้องล้มละลายจะเกิน 10 ปีแล้วก็ไม่มีเหตุที่จะถือว่าคำพิพากษาไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด
แม้จะเป็นหนี้เกิดก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 ก็ดี ก็แบ่งแยกสินบริคณห์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1484 ได้ ไม่ขัดกับบทกฎหมายเก่าหรือใหม่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านการยึดทรัพย์ในคดีล้มละลาย ต้องดำเนินการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก่อนยื่นคำร้องต่อศาล
ไนคดีล้มละลาย ผู้มีส่วนได้เสียไนการที่เจ้าพนักงานพิทักาส์ทรัพย์จัดการยึดทรัพย์สินของจำเลยนั้น ต้องยื่นคำคัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักาส์ทรัพย์เพื่อไห้มีคำสั่งเสียชั้นหนึ่งก่อนจึงจะมีสิทธิยื่นคำร้องต่อสาลได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิคัดค้านการยึดทรัพย์ในคดีล้มละลาย: ต้องยื่นคำคัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก่อน
ในคดีล้มละลาย ผู้มีส่วนได้เสียในการที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จัดการยึดทรัพย์สินของจำเลยนั้น ต้องยื่นคำคัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อให้มีคำสั่งเสียชั้นหนึ่งก่อน จึงจะมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9572/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าปรับทางอาญาหลังล้มละลาย: ไม่ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์บังคับคดีได้
การยึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับเป็นมาตรการในการบังคับตามคำพิพากษาซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานอัยการผู้ร้องที่ต้องดำเนินการบังคับคดีอาญาในส่วนการยึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับโดยไม่อาจถือได้ว่ารัฐหรือศาลหรือโจทก์เป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 1 ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พุทธศักราช 2483 แม้จำเลยที่ 1 จะถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วอำนาจในการจัดการกิจการและทรัพย์สินตกแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวก็ตาม แต่การบังคับโทษปรับแก่จำเลยที่ 1 เป็นการใช้อำนาจรัฐเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทางคดีอาญา โดยศาลและพนักงานอัยการเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายอาญาที่จะต้องบังคับให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าปรับเต็มจำนวนตามคำพิพากษาดังที่บัญญัติไว้ใน ป.อ. มาตรา 29 โดยไม่จำต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ค่าปรับต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้คัดค้านเช่นเดียวกับหนี้เงินในทางแพ่ง จึงไม่อยู่ในบังคับของ พ.ร.บ.ล้มละลายฯ ที่ผู้ร้องจะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9179/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการชำระบัญชีบริษัทที่อยู่ระหว่างล้มละลาย: เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว
บริษัท ธ. ถูกศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่าผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 เป็นกรรมการของบริษัท ธ. แต่เมื่อบริษัท ธ. ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว อำนาจในการจัดการทรัพย์สินหรือกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินหรือกิจการของบริษัทดังกล่าวย่อมตกอยู่แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่เพียงผู้เดียวตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 22 และมาตรา 24 ไม่อยู่ในวิสัยที่ผู้ร้อง ผู้คัดค้านที่ 1 หรือบุคคลกลางอื่น เช่น เจ้าพนักงานบังคับคดี จะเข้าจัดการทรัพย์สินของบริษัทเพื่อชำระบัญชีได้อีกต่อไป อันเป็นกรณีที่กรรมการของบริษัทไม่อาจเข้าเป็นผู้ชำระบัญชีได้ จึงเห็นสมควรตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ให้เป็นผู้ชำระบัญชีของบริษัทตาม ป.พ.พ. มาตรา 1251 วรรคสอง เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงในชั้นนี้ว่าบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทซึ่งล้มละลายที่การชำระบัญชีจะต้องจัดทำไปตามบทกฎหมายลักษณะล้มละลายตามมาตรา 1247 วรรคหนึ่ง กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะต้องยกคำร้องขอของผู้ร้องเพื่อบังคับคดีไปตามบทกฎหมายลักษณะล้มละลายตามที่ผู้คัดค้านที่ 1 ฎีกา