พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,231 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของทรัพย์ ทำให้สิทธิด้อยกว่าผู้เช่าโดยตรง
จำเลยเช่าช่วงตึกแถวจากผู้เช่าไว้โดยผู้ให้เช่าไม่รู้เห็นหรือยินยอม แล้วผู้ให้เช่าไปทำสัญญาให้เช่าตึกนั้นกับ โจทก์ ๆ ย่อมมีสิทธิดีกว่า จำเลย โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1395/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนองที่ดินรวมไม่ถือเป็นการครอบครองสิทธิในที่ดินพิพาท
การที่โจทก์เอาที่พิพาททั้งหมดรวมเข้ากับที่ของโจทก์ไปจำนองกับสหกรณ์ ไม่เรียกว่าโจทก์ใช้สิทธิครอบครองที่พิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1387/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของวัดในการฟ้องร้องเรียกทรัพย์คืน และความถูกต้องของพินัยกรรมที่ไม่ต้องทำพร้อมกัน
วัดเป็นนิติบุคคลตามกฏหมายเจ้าอาวาสมีสิทธิฟ้องคดีในนามของวัดได้ และมีอำนาจมอบให้ผู้อื่นเป็นโจทก์ฟ้องคดีแพ่งแทนตนได้
พยานลงชื่อในพินัยกรรมต่อหน้าผู้ทำพินัยกรรม ต่อมาอีก 3 วันผู้ทำพินัยกรรมจึงได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือของตนต่อหน้าพยานชุดเดิม พินัยกรรมนั้นถูกต้องตาม ม. 1656
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ที่โจทก์อ้างว่าเป็นของวัดซึ่งแต่แรกตกอยู่ที่เจ้าอาวาสองค์เก่าซึ่งมรณภาพไปแล้ว และอ้างว่าบัดนี้จำเลยยึดถือไว้โดยไม่มีอำนาจ คดีย่อมไม่มีปัญหาเรื่องอายุความมรดก.
พยานลงชื่อในพินัยกรรมต่อหน้าผู้ทำพินัยกรรม ต่อมาอีก 3 วันผู้ทำพินัยกรรมจึงได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือของตนต่อหน้าพยานชุดเดิม พินัยกรรมนั้นถูกต้องตาม ม. 1656
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ที่โจทก์อ้างว่าเป็นของวัดซึ่งแต่แรกตกอยู่ที่เจ้าอาวาสองค์เก่าซึ่งมรณภาพไปแล้ว และอ้างว่าบัดนี้จำเลยยึดถือไว้โดยไม่มีอำนาจ คดีย่อมไม่มีปัญหาเรื่องอายุความมรดก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
มรดก: สิทธิทายาทตามคำพิพากษาศาลฎีกา & การเป็นคู่สมรสโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนใช้ ป.พ.พ.
ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีก่อนว่าที่สวนยางรายนี้เป็นมรดกของนายนวล ซึ่งทายาทของนายนวลมีสิทธิที่จะได้รับการแบ่งทรัพย์รายนี้ตามกฎหมาย จำเลยในคดีหลังนี้ ซึ่งเป็นคู่ความในคดีก่อนนั้นด้วย จะกลับมาโต้แย้งคัดค้านในคดีหลังนี้ว่าที่สวนยางรายเดียวกันนั้น เป็นทรัพย์ของตนฝืนคำพิพากษาของศาลฎีกาดังกล่าว ไม่ได้
ก่อนใช้ป.พ.พ.เมื่อชายหญิงอยู่กินด้วยกันฉันท์ผัวเมียโดยเปิดเผย ก็เป็นผัวเมียกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่จำต้องจดทะเบียนการสมรส บุตรที่เกิดแต่ชายหญิงเป็นทายาทโดยธรรมของชายหญิงนั้นตามป.พ.พ.
ก่อนใช้ป.พ.พ.เมื่อชายหญิงอยู่กินด้วยกันฉันท์ผัวเมียโดยเปิดเผย ก็เป็นผัวเมียกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่จำต้องจดทะเบียนการสมรส บุตรที่เกิดแต่ชายหญิงเป็นทายาทโดยธรรมของชายหญิงนั้นตามป.พ.พ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลคำพิพากษาฎีกามีผลผูกพันคู่ความเดิม สิทธิมรดกเป็นของทายาทโดยชอบด้วยกฎหมาย
ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีก่อนว่าที่สวนยางรายนี้เป็นมรดกของนายนวล.ซึ่งทายาทของนายนวลมีสิทธิที่จะได้รับการแบ่งทรัพย์รายนี้ตามกฎหมายจำเลยในคดีหลังนี้ซึ่งเป็นคู่ความในคดีก่อนนั้นด้วยจะกลับมาโต้แย้งคัดค้านในคดีหลังนี้ว่าที่สวนยางรายเดียวกันนั้นเป็นทรัพย์ของตนฝืนคำพิพากษาของศาลฎีกาดังกล่าว ไม่ได้
ก่อนใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เมื่อชายหญิงอยู่กินด้วยกันฉันผัวเมียโดยเปิดเผย ก็เป็นผัวเมียกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่จำต้องจดทะเบียนการสมรส บุตรที่เกิดแต่ชายหญิงนั้นย่อมเป็นทายาทโดยธรรมของชายหญิงนั้นตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ก่อนใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เมื่อชายหญิงอยู่กินด้วยกันฉันผัวเมียโดยเปิดเผย ก็เป็นผัวเมียกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่จำต้องจดทะเบียนการสมรส บุตรที่เกิดแต่ชายหญิงนั้นย่อมเป็นทายาทโดยธรรมของชายหญิงนั้นตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่: ฟ้องชัดเจนว่าโจทก์เป็นเจ้าของ จำเลยเข้าครอบครอง จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของสวนยางมาบัดนี้จำเลยเข้าแย่งถือสิทธิ ขอให้ขับไล่จำเลยดังนี้ฟ้องของโจทก์เข้าใจได้ว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทจำเลยเข้าแย่งถือสิทธิครอบครองจึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1093/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการอ้างอายุความ 1 ปี: สิทธิของเจ้าของที่ดิน
เมื่อจำเลยไม่ได้ครอบครองที่พิพาทโดยอำนาจปรปักษ์จำเลยจะอ้างอายุความ 1 ปีมาใช้ยันโจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1068/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการโอนสิทธิในที่ดิน แม้มีตราจองก็ไม่ทำให้ได้สิทธิ หากการครอบครองของโจทก์ชอบด้วยกฎหมาย และอายุความไม่ขาด
โจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทอยู่และเลยที่ 1 แย่งการครอบครองของโจทก์ แม้จำเลยที่ 1 จะได้รับตราจอง ก็หาได้สิทธิในที่ดินรายนี้ไม่ การที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้รับโอนต่อ ๆ มาโดยทางยกให้ ก็หาทำให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีสิทธิดีกว่าจำเลยที่ 1 ไม่
ในคดีแพ่ง เมื่อไม่ได้ยกเรื่องอายุความต่อสู้ในชั้นศาลอุทธรณ์ ย่อมฎีกาเรื่องอายุความไม่ได้
ในคดีแพ่ง เมื่อไม่ได้ยกเรื่องอายุความต่อสู้ในชั้นศาลอุทธรณ์ ย่อมฎีกาเรื่องอายุความไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างอาคาร: สิทธิในการจดทะเบียนสัญญาเช่าเมื่อผู้เช่าปฏิบัติตามสัญญา
การที่โจทก์ทำสัญญาเช่าที่วัดซึ่งเป็นจำเลยมีกำหนด10 ปีโดยมีข้อตกลงว่าโจทก์จะทำการก่อสร้างห้องแถวลงในที่เช่า มีจำนวนห้องที่จะต้องสร้างระบุไว้จำเลยได้ส่งมอบที่ให้โจทก์บางส่วน ยังไม่ครบตามสัญญาและโจทก์ได้ก่อสร้างห้องแถวลงบ้างแล้วต่อมาจำเลยไม่ส่งมอบที่ให้โจทก์เพื่อก่อสร้างห้องต่อไปตามสัญญาเมื่อศาลวินิจฉัยว่าจำเลยผิดสัญญา บังคับให้จำเลยส่งมอบที่ตามสัญญาให้แก่โจทก์ศาลบังคับให้จำเลยไปทำการจดทะเบียนสัญญาเช่ามีระยะเวลา 10 ปีตามที่ตกลงกันไว้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการครอบครองตึกหลังก่อสร้าง: สัญญาครอบคลุมจนกว่าจะหาผู้เช่าได้
บริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้างตึกรายพิพาทโดยทุนของบริษัท เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วตามสัญญา มีสิทธิที่จะกำหนดและเลือกตัวผู้เช่า เรียกเก็บเงินค่าช่วยก่อสร้าง แต่โจทก์ไม่ได้เสียเงินช่วยก่อสร้างให้จำเลย กลับไปเสียให้แก่ลูกจ้างคนเก่าของจำเลยที่ออกจากหน้าที่ไปแล้วซึ่งเป็นผู้ไม่มีสิทธิอะไรที่จะให้แก่โจทก์ จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะขัดขวางมิให้โจทก์เข้าอยู่ในตึกพิพาทได้ ไม่เป็นละเมิด เพราะจำเลยมีสิทธิตามสัญญาก่อสร้างที่จะครอบครองห้องพิพาทจนกว่าจะส่งมอบแก่เจ้าของที่ดิน แม้จะถือว่าตึกซึ่งปลูกในที่ดินเป็นทรัพย์ส่วนควบของเจ้าของที่ดิน แต่จำเลยก็ยังมีสิทธิตามสัญญาที่จะครอบครองตึกที่สร้างจนกว่าจะเลือกหาผู้เช่าได้ เจ้าของที่ดินจะเอาตึกไปครอบครองเสียโดยลำพังหาได้ไม่ เมื่อเจ้าของที่ดินยังไม่มีสิทธิที่จะเอาตึกรายนี้ไปให้ผู้ใดเช่าโดยจำเลยไม่รู้เห็นยินยอม โจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะเข้าครอบครองตึกรายนี้สิทธิแห่งการครอบครองตามกฎหมายยังตกอยู่แก่ฝ่ายจำเลย.