คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจตนา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,077 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1101-1102/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความเสียหายในที่ดินของผู้อื่นโดยเข้าใจผิดถึงสิทธิในทางเดิน ศาลยกฟ้องเนื่องจากไม่มีเจตนาชั่วร้าย
ทำลายคันนาของเขาแล้วพาเกวียนเดินไปตามทางในนาของเขาโดยเชื่อว่าเป็นที่สาธารณะโดยทางอำเภอได้ขออนุญาตเจ้าของที่นา และได้มีการประชุมยินยอมทำทางนี้เพื่อให้เกวียนเดินสะดวก เช่นนี้ ถือว่าจำเลยมิได้มีเจตนาชั่วร้ายในการกระทำ จะเอาผิดแก่จำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา324 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1100/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาไม่จดทะเบียนสมรส สินสอด/ของหมั้นไม่ผูกพัน คดีนี้เรียกคืนไม่ได้
ชายหญิงได้แต่งงานอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา มาช้านานจนกระทั่งมีบุตรโดยต่างฝ่ายต่างสมัครใจที่จะไม่ไปจดทะเบียนสมรสนั้น ถือได้ว่าชายหญิงมีเจตนาเพียงแต่ทำพิธีแต่งงานตามประเพณีและอยู่กินฉันสามีภริยาเท่านั้น มิได้ถือเอาการจดทะเบียนสมรสเป็นสำคัญมาแต่แรก เมื่อกรณีเป็นดั่งนี้ ทรัพย์ที่ที่ได้ให้กันโดยเรียกว่า เป็นของหมั้นก็ดี การให้เงินอันเรียกว่าสินสอดก็ดี หาได้ให้ในฐานะเป็นของหมั้นและสินสอดไม่ ฉะนั้นแม้จะถือว่ามิได้มีการสมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ฝ่ายชายก็เรียกเงินและทรัพย์ที่ให้ไว้ดังกล่าวคืนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ความผิดฐานสมคบกันฆ่า vs. ฆ่าคนตายโดยเจตนา
ผู้ตายเมาสุราพูดจาท้าทายใครต่อใครในงาน อันเป็นการก่อกวนโทษะแก่บุคคลที่อยู่ที่นั่นทุกคน จำเลยที่ 1-2-3 มีส่วนเป็นเจ้าของงานแต่ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตาย จำเลยที่ 1 ใช้ไม้ตีผู้ตาย 1 ที ไม่ถึงบาดเจ็บ จำเลยที่ 2 เอามีดฟันอีก 1 ทีถึงบาดเจ็บ แล้วจำเลยที่ 3 เอามีดแทงผู้ตาย 1 ที ถูกที่หน้าท้องไส้ทะลักออกมาและถึงแก่ความตาย เพราะบาดแผลที่ถูกแทงภายหลังนี้แบบเดียวดังนี้จะฟังว่าจำเลยทั้ง 3 คนสมคบกันฆ่าผู้ตายยังไม่ถนัด เพราะการที่จำเลยที่ 3 เข้ามาและใช้มีดแทงผู้ตายภายหลังนั้น จำเลยที่ 1-2 อาจไม่รู้เห็นด้วยก็ได้ จำเลยที่ 3 ควรมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาคนเดียวส่วนจำเลยที่ 1-2 ควรมีผิดแต่เพียงเท่าที่ตนกระทำแต่ละคน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ความผิดฐานสมคบคิด vs. ความผิดส่วนบุคคล
ผู้ตายเมาสุราพูดจาท้าทายใครต่อใครในงาน อันเป็นการก่อกวนโทสะแก่บุคคลที่อยู่ที่นั้นทุกคน จำเลยที่ 1-2-3 มีส่วนเป็นเจ้าของงานแต่ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตาย จำเลยที่ 1 ใช้ไม้ตีผู้ตาย 1 ที ไม่ถึงบาดเจ็บจำเลยที่ 2 เอามีดฟันอีก 1 ทีถึงบาดเจ็บ แล้วจำเลยที่ 3 เอามีดแทงผู้ตาย 1 ที ถูกที่หน้าท้องไส้ทะลักออกมาและถึงแก่ความตายเพราะบาดแผลที่ถูกแทงภายหลังนี้แผลเดียว ดังนี้จะฟังว่าจำเลยทั้ง 3 คนสมคบกันฆ่าผู้ตาย ยังไม่ถนัด เพราะการที่จำเลยที่ 3 เข้ามาและใช้มีดแทงผู้ตายภายหลังนั้น จำเลยที่ 1-2 อาจไม่รู้เห็นด้วยก็ได้จำเลยที่ 3 ควรมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาคนเดียว ส่วนจำเลยที่ 1-2 ควรมีผิดแต่เพียงเท่าที่ตนกระทำแต่ละคน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้สินบนเจ้าพนักงาน: การกระทำร่วม การรู้เห็น และการพิสูจน์เจตนา
ไปร่วมทำการลักทรัพย์กับเขา ได้ทรัพย์มาแล้วถูกตำรวจจับได้ พวก 2 คนได้พูดให้สินบลแก่ตำรวจโดยลำพัง แล้วพวก 2 คนพากันไปเอาของกลางไปขายได้เงินให้ตำรวจไป แม้ผู้นั้นจะอยู่รู้เห็นด้วยในการที่พวกเอาของกลางไปขายแล้วเอาเงินให้ตำรวจ ก็ยังถือไม่ได้ว่าผู้นั้นได้ร่วมมือในการให้สินบลแก่เจ้าพนักงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 912/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาบุกรุก: การมิให้ผู้อื่นครอบครองทรัพย์โดยปกติสุขเป็นสาระสำคัญ มิใช่การเข้าถือครอง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้บังอาจสมคบกันมีหลาวและมีดตอกเป็นอาวุธ บุกรุกเข้าไปในเขตต์ที่นาของนายวิง โดยมีเจตนาจะมิให้นายวิงครอบครองที่นาได้โดยปกติสุข โดยจำเลยมิได้มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ย่อมครบองค์ความผิดฐานบุกรุกแล้ว เพราะความผิดฐานบุกรุกอันเป็นมูลฐานอยู่ที่เจตนาจะมิให้ผู้อื่นครอบครองทรัพย์ ของเขา อันพึงเคลื่อนจากที่มิได้โดยความปกติสุข มิได้อยู่ที่เข้าถือเอาทรัพย์ หรือเพื่อจะถือเอาทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 912/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาบุกรุก: การขัดขวางการครอบครองทรัพย์สินโดยปกติสุข
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้บังอาจสมคบกันมีหลาวและมีดตอกเป็นอาวุธ บุกรุกเข้าไปในเขตที่นาของนายวิงโดยมีเจตนาจะมิให้นายวิงครอบครองที่นาได้โดยปกติสุขโดยจำเลยมิได้มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมายดังนี้ ฟ้องของโจทก์ย่อมครบองค์ความผิดฐานบุกรุกแล้วเพราะความผิดฐานบุกรุกเจตนาอันเป็นมูลฐานอยู่ที่เจตนาจะมิให้ผู้อื่นครอบครองทรัพย์ของเขา อันพึงเคลื่อนจากที่มิได้โดยความปกติสุข มิได้อยู่ที่เข้าถือเอาทรัพย์ หรือเพื่อจะถือเอาทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องแจ้งเจตนาเปลี่ยนฐานะ หากรับโอนเพียงสิทธิจำนอง การครอบครองย่อมเป็นฐานะผู้รับจำนอง
ซื้อที่ดินมีโฉนดมาโดยทำสัญญาซื้อขายกันเอง แล้วครอบครองที่ดินมาเกิน 10 ปีแล้วนั้น ถ้าได้ความว่า ในหน้าโฉนดยังมีการจำนองติดอยู่ และผู้ที่ขายที่ดินให้คือผู้ที่รับจำนองมาจากเจ้าของเดิม ดังนี้ รูปเรื่องแสดงอยู่ในตัวว่า ฝ่ายผู้ซื้อรับโอนมาเพียงสิทธิจำนองจากผู้รับจำนองและเข้าครอบครองที่นี้ ในฐานะผู้รับจำนองเท่านั้น ฝ่ายผู้ซื้อจะอ้างการครอบครองปรปักษ์ซึ่งเป็นการเปลี่ยนฐานะการครอบครองเดิมจะต้องแสดงเจตนาแจ้งให้เจ้าของที่ดินในโฉนดทราบเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ความผิดการค้ากำไรเกินควร: ความจำเป็นในการระบุเจตนาทราบประกาศ
โจทก์ฟ้องว่า
คณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรประจำจังหวัดนครพนมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 แห่ง พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 ได้ประกาศระบุให้น้ำมันก๊าดเป็นสิ่งของต้องห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร โดยได้กำหนดราคาสูงสุดไว้แล้วตามสำเนาประกาศท้ายฟ้อง จำเลยบังอาจค้ากำไรเกินควรโดยขายน้ำมันก๊าดให้นายทองไป 1 ลิตรราคา 2 บาท เกินราคาสูงสุดที่กำหนดไว้ 50 สตางค์ ดังนี้ ตามข้อความในฟ้อง พอเข้าใจได้แล้วว่า โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยบังอาจกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนประกาศ แม้โจทก์จะมิได้ระบุในฟ้องว่าจำเลยได้ทราบประกาศนั้นแล้วฟ้องของโจทก์ก็สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 855/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมไม่ชัดเจนผู้รับทรัพย์ ศาลฎีกาตัดสินตามเจตนาผู้ทำพินัยกรรม โดยพิจารณาจากข้อความรวม
ทำพินัยกรรม์ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายกำหนดไว้ทุกประการ แต่ข้อความในพินัยกรรมไม่ได้ระบุชื่อผู้รับทรัพย์โดยชัดเจน คงระบุไว้ในข้อ 1 ว่า "ข้าพเจ้ายอมยกให้เป็นกรรมสิทธิแก่ผู้ที่ได้ระบุนามไว้ในพินัยกรรมนี้ ให้เป็นผู้รับทรัพย์สินที่กำหนดไว้ ดั่งต่อไปนี้คือ......." ความต่อไปกล่าวถึงรายการทรัพย์ไม่ได้ระบุชื่อใคร ในข้อ 2 มีความว่า "ข้าพเจ้าขอตั้งเด็กชายสมบุญ เด็กชายบุญนาค เด็กหญิงสงวน เด็กชายสง่า (บุตรนางเย็นโจทก์) ฉะเพาะทรัพย์หมายเลข 1 - 2 คือนา 2 แปลงตามฟ้อง นางเย็น พาณิชย์ ฉะเพาะเลขที่ 3 - 4 (คือเรือนและเรือ) จัดการมฤดกของข้าพเจ้า......." ดังนี้ ย่อมหมายความว่า ยกทรัพย์หมายเลข 1 - 2 ให้แก่เด็ก 4 คน และยกทรัพย์หมายเลข 3 - 4 ให้แก่นางเย็นและพินัยกรรมข้อ 2 เรื่องตั้งผู้จัดการมฤดกนั้นเป็นแบบพิมพ์ ซึ่งลืมขีดฆ่าข้อความดังกล่าว ก็ไม่ทำให้พินัยกรรมนี้ปราศจากผู้รับทรัพย์.
of 408