พบผลลัพธ์ทั้งหมด 787 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2815/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถาน: เหตุอันสมควรจากการเข้าใจผิดเรื่องยาเสพติด
จำเลยเข้าใจมาแต่แรกว่ายาที่ผู้เสียหายให้นายต.ไปเป็นยาเสพติดให้โทษขณะที่จำเลยเข้าไปในกุฏิของพระภิกษุว.ผู้เสียหายนายถ.อยู่ในกุฏิของผู้เสียหายและหยิบยามาดูจำเลยเห็นยาดังกล่าวเข้าใจว่าเป็นยาเสพติดให้โทษจึงหยิบเอามาเพื่อไม่ให้ผู้เสียหายมีไว้ในความครอบครองและจะเอาไปให้เจ้าอาวาสดูดังนี้เป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรไม่มีความผิดฐานบุกรุก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2314/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การบุกรุกเพื่อดูหมิ่นผู้เสียหาย ถือเป็นกรรมเดียว ใช้บทลงโทษหนักสุด
การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายแล้วดูหมิ่นผู้เสียหายในทันทีทันใดนั้น เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกัน โดยมีเจตนาอันแท้จริงเพื่อดูหมิ่นผู้เสียหายเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว. เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลย
สำหรับความผิดฐานบุกรุก เมื่อศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 แล้ว ก็ไม่จำต้องยกมาตรา 362, 364 ขึ้นปรับบทลงโทษอีก
สำหรับความผิดฐานบุกรุก เมื่อศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 แล้ว ก็ไม่จำต้องยกมาตรา 362, 364 ขึ้นปรับบทลงโทษอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2314/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: บุกรุกและดูหมิ่นต่อเนื่อง ศาลใช้บทหนักลงโทษ
การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายแล้วดูหมิ่นผู้เสียหายในทันทีทันใดนั้นเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันโดยมีเจตนาอันแท้จริงเพื่อดูหมิ่นผู้เสียหายเท่านั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว.เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลย. สำหรับความผิดฐานบุกรุกเมื่อศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา365แล้วก็ไม่จำต้องยกมาตรา362,364ขึ้นปรับบทลงโทษอีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2075/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถาน: เหตุอันสมควรในการติดตามภริยา ไม่เป็นการรบกวนการครอบครอง
การที่จำเลยเข้าไปในตึกที่เกิดเหตุเพื่อไปติดตามภริยาที่เช่าห้องหนึ่งในตึกนั้น ย่อมมีเหตุอันสมควรและหาเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสูขของผู้เสียหายไม่ จำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2075/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์เพื่อติดตามภริยา ไม่ถือเป็นการบุกรุก หากมีเหตุอันสมควรและไม่รบกวนการครอบครอง
การที่จำเลยเข้าไปในตึกที่เกิดเหตุเพื่อไปติดตามภริยาที่เช่าห้องหนึ่งในตึกนั้นย่อมมีเหตุอันสมควรและหาเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสูขของผู้เสียหายไม่จำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ผู้เสียหายไม่ต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์: การเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรและการโต้เถียงต่อเนื่อง
ผู้เสียหายในความผิดฐานบุกรุกไม่จำต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ จ. อยู่ในบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของจำเลยย่อมมีส่วนครอบครองบ้านดังกล่าวจึงเป็นผู้เสียหายและมีสิทธิห้ามจำเลยเข้าไปหรืออยู่ในบ้านนั้นได้ จำเลยกับผู้เสียหายมีเรื่องผิดใจกัน ผู้ใหญ่บ้านเรียกจำเลยเข้าไปในบริเวณบ้านของผู้เสียหายเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย การที่จำเลยเข้าไปในบริเวณบ้านของผู้เสียหายจึงเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควร เมื่อการเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงกันไม่ได้และเกิดโต้เถียงกัน ผู้เสียหายให้จำเลยออกไป จำเลยยังไม่ยอมออกแต่กลับจะทำร้ายผู้เสียหาย เช่นนี้ การที่จำเลยยังอยู่ที่บริเวณใต้ถุนบ้านของผู้เสียหายภายหลังที่ผู้เสียหายให้จำเลยออกไปเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกับการที่จำเลยโต้เถียงและจะทำร้ายผู้เสียหาย เมื่อมีผู้อื่นมากันและรั้งจำเลยให้ออกไป จำเลยก็ยอมออกไป การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 364, 365
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ผู้ครอบครองมีสิทธิห้าม การเข้าไปเพื่อเจรจาไม่ถือเป็นความผิด
ผู้เสียหายในความผิดฐานบุกรุกไม่จำต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์จ.อยู่ในบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของจำเลยย่อมมีส่วนครอบครองบ้านดังกล่าวจึงเป็นผู้เสียหายและมีสิทธิห้ามจำเลยเข้าไปหรืออยู่ในบ้านนั้นได้จำเลยกับผู้เสียหายมีเรื่องผิดใจกันผู้ใหญ่บ้านเรียกจำเลยเข้าไปในบริเวณบ้านของผู้เสียหายเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยการที่จำเลยเข้าไปในบริเวณบ้านของผู้เสียหายจึงเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรเมื่อการเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงกันไม่ได้และเกิดโต้เถียงกันผู้เสียหายให้จำเลยออกไปจำเลยยังไม่ยอมออกแต่กลับจะทำร้ายผู้เสียหายเช่นนี้การที่จำเลยยังอยู่ที่บริเวณใต้ถุนบ้านของผู้เสียหายภายหลังที่ผู้เสียหายให้จำเลยออกไปเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกับการที่จำเลยโต้เถียงและจะทำร้ายผู้เสียหายเมื่อมีผู้อื่นมากันและรั้งจำเลยให้ออกไปจำเลยก็ยอมออกไปการกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา364,365
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1699/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถานและการพยายามฆ่าเพื่อขัดขวางการถูกขัดขวางเอาทรัพย์คืน แม้มีเหตุผลในการเข้าไป แต่การกระทำต้องไม่เป็นอันตราย
แม้จำเลยจะได้จำนำรถจักรยานของจำเลยไว้กับผู้เสียหายจำเลยก็ไม่มีเหตุอันสมควรที่จะลักลอบเข้าไปเอารถจักรยานดังกล่าวในบ้านของผู้เสียหายในเวลา 5.30 น. จำเลยจึงมีความผิดฐานบุกรุก
จำเลยเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายเพื่อเอารถจักรยานของจำเลย เมื่อผู้เสียหายส่องไฟฉายมาที่จำเลย จำเลยก็ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายแล้วจึงเอารถจักรยานไป พฤติการณ์ดังกล่าวยังไม่แน่ชัดว่าจำเลยกระทำไปเพื่อปกปิดความผิดฐานบุกรุก จำเลยอาจยิงผู้เสียหายเพื่อไม่ให้ผู้เสียหายขัดขวางการเข้าไปเอารถจักรยานของจำเลยในบ้านผู้เสียหายก็ได้ แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องถึงความผิดในส่วนนี้ของจำเลย จึงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ประกอบกับมาตรา 80 ไม่ได้
จำเลยเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายเพื่อเอารถจักรยานของจำเลย เมื่อผู้เสียหายส่องไฟฉายมาที่จำเลย จำเลยก็ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายแล้วจึงเอารถจักรยานไป พฤติการณ์ดังกล่าวยังไม่แน่ชัดว่าจำเลยกระทำไปเพื่อปกปิดความผิดฐานบุกรุก จำเลยอาจยิงผู้เสียหายเพื่อไม่ให้ผู้เสียหายขัดขวางการเข้าไปเอารถจักรยานของจำเลยในบ้านผู้เสียหายก็ได้ แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องถึงความผิดในส่วนนี้ของจำเลย จึงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ประกอบกับมาตรา 80 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท-ระงับคดี: การกระทำอนาจารถึงที่สุดแล้วห้ามฟ้องคดีบุกรุกซ้ำซ้อน
จำเลยบุกรุกที่เกิดเหตุในเวลาเดียวกับกระทำอนาจารการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทดังนี้เมื่อมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในข้อหากระทำอนาจารซึ่งจำเลยถูกฟ้องแล้วสิทธินำคดีอาญามาฟ้องจำเลยในข้อหาบุกรุกก็เป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(4) ในคดีก่อนพนักงานอัยการซึ่งเป็นโจทก์บรรยายฟ้องไว้และจำเลยให้การรับสารภาพศาลรับฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่าในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุเดียวกันกับคดีนี้จำเลยกระทำอนาจารนางสาวสำอางค์โดยใช้กำลังประทุษร้ายกอดรัดตัวนางสาวสำอางค์และใช้กรรไกรจี้บังคับและแทงเฉี่ยวบริเวณหน้าอกของนางสาวสำอางค์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยทั้งนี้เพื่อให้นางสาวสำอางค์ยอมให้จำเลยกระทำชำเราศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา278คดีถึงที่สุดแล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยข้อหาพยายามฆ่าโดยใช้กรรไกรแทงนางสาวสำอางค์เป็นคดีนี้จึงเป็นการกระทำครั้งคราวเดียวกันและเป็นกรรมเดียวกันซึ่งจะต้องฟ้องเป็นคดีเดียวดังนี้ฟ้องของโจทก์จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(4).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริง: การบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก3เดือนปรับ2,000บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษศาลอุทธรณ์พิพากษายืนคดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218ฎีกาจำเลยกล่าวอ้างว่าที่ดินแปลงที่จำเลยบุกรุกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งใช้เพื่อสาธารณประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกันอันไม่ใช่ทรัพย์สินของบุคคลภายนอกคนหนึ่งคนใดโดยเฉพาะจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา362ข้อที่ว่าที่ดินแปลงที่จำเลยบุกรุกจะเป็นที่สาธารณประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกันหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริงฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริงเป็นเบื้องต้นต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าวศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.