พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้ขวานป้องกันการถูกแทงเมื่อผู้ถูกทำร้ายไม่มีทางหลบหนี
ผู้ตายกับจำเลยโต้เถียงกันด้วยเรื่องโคของบิดาจำเลยกับพวกก่อน แล้วผู้ตายใช้มีดยาวทั้งตัวและด้ามประมาณ 1 ฟุตแทงจำเลยถูกแขนทะลุจำเลยหนีขึ้นเรือน ผู้ตายไล่ตามขึ้นไปถือมีดจ้องแทงจำเลย จำเลยหนีต่อไปไม่ได้ติดฝาระเบียงเรือน จึงหยิบขวานที่พื้นเรือนตรงนั้นแกว่งตีไป 2-3 ที ถูกศีรษะผู้ตายตกลงพื้นดินแล้วจำเลยโดดเรือนหนีไป ดังนี้ เป็นการที่จำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้ขวานเพื่อป้องกันการถูกแทงด้วยมีด
ผู้ตายกับจำเลยโต้เถียงกันด้วยเรื่องโคของบิดาจำเลยกับพวกก่อนแล้วผู้ตายใช้มีดยาวทั้งตัวและด้ามประมาณ 1 ฟุตแทงจำเลยถูกแขนทะลุ จำเลยหนีขึ้นเรือน ผู้ตายไล่ตามขึ้นไปถือมีดจ้องแทงจำเลย จำเลยหนีต่อไปไม่ได้ติดฝาระเบียงเรือน จึงหยิบขวานที่พื้นเรือนตรงนั้นแกว่งตีไป 2-3 ที ถูกศีรษะผู้ตายตกลงพื้นดินแล้วจำเลยโดดเรือนหนีไป ดังนี้เป็นการที่จำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2299/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย: การแย่งปืนและการฟันเพื่อป้องกันตัวจากอันตรายที่ใกล้จะถึง
ผู้ตายเมาสุราโกรธจำเลยที่ถามเรื่องกระพรวนควายของจำเลยหายที่ผู้ตายรับจะเป็นคนช่วยสืบหาให้ จึงชักปืนออกจะยิง จำเลยใช้มือซ้ายรวบมือผู้ตายที่ถือปืนกระชากผู้ตายหัวคะมำแล้วใช้มือขวาหยิบมีดโต้ปลายตัดที่ถือติดตัวมาฟันไปทันที 1 ที ถูกผู้ตายตรงหูเป็นแผลยาวจากท้ายทอยผ่าหูมาจดแก้มด้านซ้าย ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ เห็นว่าจำเลยฟันไปในขณะชุลมุนแย่งปืนกัน การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2284/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่พอสมควรแก่เหตุ แม้มีบาดแผลร้ายแรงถึงแก่ความตาย
จำเลยถูกผู้ตายกับพวกอีก 1 คนรุมชกต่อยที่บนสโมสร เมื่อจำเลยวิ่งหนีลงมาผู้ตายกับพวกยังวิ่งไล่ติดตามไปรุมชกต่อยจำเลยอีก จำเลยจวนตัวชักมีดปลายแหลมออกมาผู้ตายกับพวกก็ยังไม่หยุดยั้ง กลับเข้ารุมชกต่อยจำเลยเป็นชุลมุน การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงทำร้ายต่อสู้ผู้ตายกับพวกเพื่อป้องกันตนไปในขณะนั้น และมิได้แทงทำร้ายผู้ตายกับพวกต่อไปอีก เมื่อผู้ตายกับพวกหยุดทำร้ายจำเลย ดังนี้ แม้ผู้ตายกับพวกจะมีบาดแผลคนละหลายแห่ง และผู้ตายถึงแก่ความตาย ก็ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2281/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: การใช้เสารั้วป้องกันการทำร้าย เป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ
จำเลยที่ 2 ด่าจำเลยที่ 1 กับพวกที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ พอจำเลยที่ 1 ว่า ไม่ควรพูดเช่นนั้น จำเลยที่ 2 ก็ชกจำเลยที่ 1 ก่อน ถูกที่หน้าอกแล้วจำเลยที่ 2 กับพวกเข้าช่วยกันทำร้ายจำเลยที่ 1 อีก จำเลยที่ 1 ถอยหลังหนีไปติดรั้วสวน ถอนเสาไม้รั้วขึ้นกวัดแกว่งร้องห้ามไม่ให้จำเลยที่ 2 กับพวกเข้าทำร้าย จำเลยที่ 2 กลับคว้าไม้กระโดดเข้าไปจะทำร้าย จึงถูกไม้ของจำเลยที่ 1 ที่ศีรษะเป็นแผลแตกลึกถึงกระโหลกศีรษะ รักษาประมาณ 12 วันหาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2281/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ: การกระทำเพื่อปกป้องตนจากภัยอันตรายจากการถูกทำร้าย
จำเลยที่ 2 ด่าจำเลยที่ 1 กับพวกที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ พอจำเลยที่ 1ว่า ไม่ควรพูดเช่นนั้น จำเลยที่ 2 ก็ชกจำเลยที่ 1 ก่อน ถูกที่หน้าอก แล้วจำเลยที่ 2 กับพวกเข้าช่วยกันทำร้ายจำเลยที่ 1 อีก จำเลยที่ 1 ถอยหลังหนีไปติดรั้วสวน ถอนเสาไม้รั้วขึ้นกวัดแกว่งร้องห้ามไม่ให้จำเลยที่ 2 กับพวกเข้าทำร้าย จำเลยที่ 2 กลับคว้าไม้กระโดดเข้าไปจะทำร้าย จึงถูกไม้ของจำเลยที่ 1 ที่ศีรษะเป็นแผลแตกลึกถึงกระโหลกศีรษะ รักษาประมาณ 12 วันหาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2106/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ: การใช้กำลังป้องกันตัวเมื่อถูกทำร้าย และการประเมินความร้ายแรงของการตอบโต้
ผู้ตายก่อเหตุก่อนด่าว่าจำเลย ถือเหล็กไขควงบุกรุกขึ้นไปบนเรือน จำเลยแล้วใช้เหล็กไขควงแทงจำเลย แต่แทงไม่ถูกเพราะจำเลยหลบทัน จำเลยจึงใช้มีดดาบฟันผู้ตายเป็นบาดแผลฉกรรจ์ถึง 4 แห่ง เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ เพราะจำเลยฟันผู้ตายเพียงครั้งเดียวก็จะหยุดยั้งการกระทำของผู้ตายไม่ให้เข้าทำร้ายจำเลยได้ต่อไปอีกแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2106/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันเกินสมควร: การใช้กำลังป้องกันตัวต้องสมเหตุสมผล แม้ถูกทำร้ายก่อน การตอบโต้ต้องไม่เกินความจำเป็น
ผู้ตายก่อเหตุก่อนด่าว่าจำเลย ถือเหล็กไขควงบุกรุกขึ้นไปบนเรือนจำเลยแล้วใช้เหล็กไขควงแทงจำเลย แต่แทงไม่ถูกเพราะจำเลยหลบทัน จำเลยจึงใช้มีดดาบฟันผู้ตายเป็นบาดแผลฉกรรจ์ถึง 4 แห่ง เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ เพราะจำเลยฟันผู้ตายเพียงครั้งเดียวก็จะหยุดยั้ง การกระทำของผู้ตายไม่ให้เข้าทำร้ายจำเลยได้ต่อไปอีกแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1944/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความรุนแรงเพื่อป้องกันสิทธิและข่มเหงน้ำใจ: การป้องกันตัวที่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ขึ้นไปบนรถจำเลยและพยายามให้ผู้โดยสารซึ่งซื้อตั๋วรถจำเลยแล้วไปโดยสารรถโจทก์ จำเลยขัดขวางมิให้ผู้โดยสารไปกับรถโจทก์โจทก์ใช้มือผลักอกจำเลยและใช้มีดแทงจำเลยใช้มือปัดแขนโจทก์พร้อมกับเอี้ยวตัวหลบ มีดจึงไม่ถูกจำเลย แล้วจำเลยจึงใช้มีดแทงโจทก์ไป 1 ที ถูกที่สีข้างด้านขวาในขณะที่โจทก์เซเอี้ยวไปทางซ้ายการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการป้องกันสิทธิพอสมควรแก่เหตุโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1944/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย: การแทงตอบโต้เพื่อป้องกันการถูกทำร้ายและการขัดขวางโดยมิชอบ
โจทก์ขึ้นไปบนรถจำเลยและพยายามให้ผู้โดยสารซึ่งซื้อตั๋วรถจำเลยแล้วไปโดยสารรถโจทก์ จำเลยขัดขวางมิให้ผู้โดยสารไปกับรถโจทก์โจทก์ใช้มือผลักอกจำเลยและใช้มีดแทงจำเลยใช้มือปัดแขนโจทก์พร้อมกับเอี้ยวตัวหลบ มีดจึงไม่ถูกจำเลย แล้วจำเลยจึงใช้มีดแทงโจทก์ไป 1 ที ถูกที่สีข้างด้านขวาในขณะที่โจทก์เซเอี้ยวไปทางซ้ายการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการป้องกันสิทธิพอสมควรแก่เหตุโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงไม่มีความผิด