คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รื้อถอน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 396 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1109/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายเรือนเพื่อรื้อถอน ไม่ถือเป็นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ สัญญาใช้ได้
ทำสัญญาซื้อขายเรือนเพื่อจะรื้อเอาไปนั้น หาใช่ซื้อขายในฐานะอสังหาริมทรัพย์ทำสัญญากันเองก็ใช้ได้
ฟ้องว่า ทำสัญญาซื้อเรือนและครัวไฟจากจำเลย เมื่อรื้อเอาไปและได้ชำระราคาแก่จำเลยไปแล้ว จำเลยให้การต่อสู้คดีกำกวมไม่ชัดแจ้ง แม้จะมีข้อความว่า จำเลยปฏิเสธตลอดข้อหาแต่เมื่อพิเคราะห์ต่อไปในคำให้การนั้น เป็นอันเข้าใจได้ว่าฝ่ายจำเลยรับแล้วว่า ได้มีการซื้อขายกันจริงดังฟ้องไม่ได้คัดค้านในข้อที่ว่าไม่มีการตกลงกันว่าซื้อขายแล้วจะรื้อเอาไป และไม่ได้คัดค้านว่าไม่ได้รับเงินราคาซื้อขายกันแล้ว เช่นนี้เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่สืบพยานก็ต้องฟังว่าจำเลยตกลงซื้อขายเรือนแก่โจทก์เพื่อ+ไปและต้องฟังว่าจำเลยรับเงินราคาเรือนแล้ว
เพียงแต่โจทก์ไม่คัดค้านในการที่ผู้ร้องสอด ร้องเข้ามาเป็นจำเลยร่วมกับจำเลยเดิมนั้น จะแปลว่าโจทก์รับว่าเป็นความจริงตามคำร้องสอดนั้นด้วยยังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1109/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายเรือนเพื่อรื้อถอน มิใช่การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ สัญญาทำกันเองใช้ได้
ทำสัญญาซื้อขายเรือนเพื่อจะรื้อเอาไปนั้น หาใช่ซื้อขายในฐานะอสังหาริมทรัพย์ ทำสัญญากันเองก็ใช้ได้
ฟ้องว่า ทำสัญญาซื้อเรือนและครัวไฟจากจำเลย เมื่อรื้อเอาไปและได้ชำระราคาแก่จำเลยไปแล้ว จำเลยให้การต่อสู้คดีกำกวมไม่ชัดแจ้ง แม้จะมีข้อความว่า จำเลยปฏิเสธตลอดข้อหา แต่เมื่อพิเคราะห์ต่อไปในคำให้การนั้น เป็นอันเข้าใจได้ว่าฝ่ายจำเลยรับแล้วว่า ได้มีการซื้อขายกันจริงดังฟ้อง ไม่ได้คัดค้านในข้อที่ว่าไม่มีการตกลงกันว่าซื้อขายแล้วจะรื้อเอาไป และไม่ได้คัดค้านว่า ไม่ได้รับเงินราคาซื้อขายกันแล้ว เช่นนี้เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่สืบพยานก็ต้องฟังว่า จำเลยตกลงซื้อขายเรือนแก่โจทก์เพื่อรื้อไปและต้องฟังว่าจำเลยรับเงินราคาเรือนแล้ว
เพียงแต่โจทก์ไม่คัดค้านในการที่ผู้ร้องสอด ร้องเข้ามาเป็นจำเลยร่วมกับจำเลยเดิมนั้น จะแปลว่าโจทก์รับว่าเป็นความจริงตามคำร้องสอดนั้นด้วยยังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรื้อทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น แม้ทรัพย์สินมีสภาพเก่าแก่ แต่เจ้าของยังหวงแหน ถือเป็นการทำให้เสียทรัพย์
รื้อโรงเรือนของเขาซึ่งปลูกอยู่ในที่สาธารณะแม้เรือนนั้นจะเก่าแก่มีราคาเล็กน้อย แต่ทราบแล้วว่าเจ้าของยังหวงแหนอยู่เมื่อทำให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของทรัพย์ก็ย่อมมีผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 324

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 643/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สิทธิในสิ่งปลูกสร้างเมื่อสัญญาหมดอายุ ผู้ให้เช่าต้องแจ้งล่วงหน้าและให้เวลาผู้เช่ารื้อถอน
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าโรงเรือนและรั้วสังกะสีซึ่งผู้เช่าปลูกขึ้นเป็นของโจทก์ ซึ่งตามสัญญาเช่าที่ดิน มีความว่า "บรรดารั้ว และโรงเรือนต่าง ๆ ที่ผู้เช่าได้ปลูกสร้างลงในที่ดินของผู้ให้เช่า เมื่อจะครบกำหนดสัญญา 15 ปีแล้ว ผู้ให้เช่าไม่มีความประสงค์จะให้ผู้เช่ากระทำการต่อไปแล้ว ผู้ให้เช่าจะแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้าก่อนกำหนด 15 ปี เป็นเวลา 6 เดือน เมื่อครบ 15 ปีแล้ว ผู้เช่าต้องรื้อถอนขนเอาไปให้หมดสิ้น ภายในเวลา 3 เดือน ถ้าพ้น 3 เดือนไปแล้ว จะต้องตกเป็นของผู้ให้เช่า ผู้เช่าจะรื้อถอนขนเอาไปไม่ได้เป็นอันขาด" สัญญาข้อนี้หมายความว่า ถ้าผู้ให้เช่าประสงค์จะไม่ให้อยู่ เมื่อครบ 15 ปี ผู้ให้เช่าต้องบอกล่วงหน้า 6 เดือน และผู้เช่าต้องรื้อสิ่งปลูกสร้างไปภายใน 3 เดือน (แต่วันครบกำหนดตามสัญญาเช่า) มิฉะนั้นสิ่งปลูกสร้างตกเป็นของผู้ให้เช่า เมื่อผู้ให้เช่ามิได้ปฏิบัติตามข้อสัญญาดังกล่าวแล้ว และเมื่อก่อนถึงกำหนด 3 เดือน ยังซ้ำให้บุคคลภายนอกเช่าแต่ที่ดินในราคาค่าเช่าเท่ากับสัญญาฉะบับก่อนต่อมาอีก โดยไม่ได้ระบุถึงสิ่งปลูกสร้างเลย ดังนั้น โดยข้อความตามสัญญาก็ดี โดยพฤตติการณ์ที่ปฏิบัติก็ดี โจทก์จะถือว่าสิ่งปลูกสร้างรายนี้ตกเป็นของโจทก์ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิที่ดินวัด & ละเมิดจากการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง: สัญญาให้ที่ธรณีสงฆ์ถือเป็นทรัพย์สินของวัดได้
เจ้าอาวาสมีอำนาจและหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ปกครองคณะสงฆ์ 2484 ในเรื่องจัดการทรัพย์สมบัติของวัด ถ้ามีกรณีฟ้องร้องเจ้าอาวาสจะฟ้องร้องเอง หรือมอบอำนาจให้เวยยาวัจจกรฟ้องร้องแทนได้.
ในสัญญายกกรรมสิทธิที่ดินให้ปรากฎว่า ที่ธรณีสงฆ์เป็นผู้รับนั้น ย่อมเป็นที่เข้าใจว่าเป็นการให้เป็นทรัพย์สมบัติของวัด เพราะที่ธรณีสงฆ์ไม่ใช่บุคคล
ข้อความในสัญญาปรากฎว่า "สิ่งซึ่งปลูกสร้างลงในที่ดินรายนี้ย่อมยกให้ด้วยทั้งสิ้น" ดังนั้นเรือนที่ปลูกอยู่ในที่ดินในขณะทำสัญญายกให้ ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิแก่ผู้รับในขณะทำสัญญาแล้วนั้น ผู้ใดรื้อถอนภายหลังโดยไม่มีอำนาจอย่างใดย่อมต้องรับผิดในลักษณะละเมิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1620/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการใช้ผนังอาคารของผู้อื่น การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และอำนาจของศาลในการบังคับ
โจทก์ระบุในคำฟ้องว่า ในการที่จำเลยเป็นเจ้าของอาคารห้องแถวรายนี้ จำเลยไม่ได้ทำฝากั้นห้องทางด้านหลังโดย(จำเลย) ใช้ตึกศาลจ้าวเป็นฝากั้นห้องของจำเลย และตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ ก็ได้ขอให้จำเลยรื้อห้องแถว หรือถ้าขัดข้องจะบังคับเช่นนั้นไม่ได้ ก็ขอบังคับไม่ให้จำเลยใช้ฝาผนังตึกศาลจ้าวเป็นฝาห้องของจำเลย ดังนี้ การที่โจทก์ขอให้บังคับไม่ให้ใช้ฝาผนังศาลจ้าวเป็นฝากั้นห้องแถวด้านหลังของจำเลยนั้น เป็นประเด็นข้อหนึ่งที่โจทก์กล่าวมาในฟ้อง ซึ่งถ้าศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีอำนาจที่จะทำเช่นนั้น ศาลก็จำต้องมีคำบังคับในเรื่องนี้ด้วย และคำบังคับในกรณีเช่นนี้อาจเป็นการสั่งให้จำเลยจัดการกั้นฝาห้องของจำเลยเสีย เพื่อให้พ้นจากสภาพใช้ฝาผนังตึกศาลจ้าวเป็นฝาห้อง หรือถ้าจำเลยไม่ทำก็อาจให้รื้อสิ่งปลูกสร้างส่วนข้างหลังออกตามที่ศาลเห็นสมควรก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเรือนให้แล้วรื้อถอน: สภาพเปลี่ยนจากอสังหาริมทรัพย์เป็นสังหาริมทรัพย์ กรรมสิทธิ์โอนได้
โรงเรือนที่โดยสภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้าเจ้าของยกให้โดยให้รื้อถอนไปจากที่ดิน ผู้รับจึงรื้อถอนไปนั้น สภาพของเรือนตอนที่ถูกรื้อโดยคำสั่งของผู้ให้นี้ ไม่อยู่ในลักษณะที่จะเป็นอสังหาริมทรัพย์ต่อไป แต่ได้กลายสภาพเป็นสังหาริมทรัพย์แล้ว แต่บัดนั้น การยกให้แม้จะไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนก็ย่อมสมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายเรือนเพื่อรื้อถอน ไม่ต้องจดทะเบียนก็สมบูรณ์ หากผู้ซื้อสุจริตและเจ้าของร่วมยินยอม
ซื้อเรือนเพื่อรื้อไป ไม่จำต้องทำสัญญาจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็สมบูรณ์
เจ้าของร่วมคนหนึ่งทำสัญญาขายทรัพย์ให้แก่เขา เขาซื้อไว้โดยสุจริตเมื่อปรากฏว่าเจ้าของร่วมคนอื่นๆ ได้รู้เห็นยินยอมในการซื้อขายนั้นด้วยการซื้อขายย่อมสมบูรณ์และผู้ซื้อได้ทรัพย์นั้นเป็นกรรมสิทธิ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของโรงเรือนในที่ดินของผู้อื่น: ศาลตัดสินตามข้อต่อสู้ของจำเลยให้รื้อถอนได้
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากโรงซึ่งอ้างว่าเป็นของโจทก์ ทางพิจารณาได้ความว่า โรงเป็นของจำเลย แต่ที่ดินเป็นของโจทก์ ศาลพิพากษาว่าให้จำเลยรื้อโรงออกไปเสีย จากที่ดินของโจทก์ ดังนี้ มีความหมายว่าจำเลยย่อมมีสิทธิรื้อไปได้ ไม่ใช่บังคับให้จำเลยรื้อ
บุคคลอาจเป็นเจ้าของโรงเรือนในที่ดินของผู้อื่นได้ ดังที่บัญญัติไว้ในเรื่องสิทธิเหนือพื้นดินตาม ม.1410

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของโรงเรือนบนที่ดินของผู้อื่น: ศาลตัดสินตามข้อต่อสู้ของจำเลยที่ยินดีรื้อถอน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากโรงซึ่งอ้างว่าเป็นของโจทก์ทางพิจารณาได้ความว่า โรงเป็นของจำเลย แต่ที่ดินเป็นของโจทก์ ศาลพิพากษาว่าให้จำเลยรื้อโรงออกไปเสียจากที่ดินของโจทก์ ดังนี้มีความหมายว่าจำเลยย่อมมีสิทธิรื้อไปได้ ไม่ใช่บังคับให้จำเลยรื้อ
บุคคลอาจเป็นเจ้าของโรงเรือนในที่ดินของผู้อื่นได้ ดังที่บัญญัติไว้ในเรื่องสิทธิเหนือพื้นดินตาม มาตรา 1410
of 40