พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,168 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม: การลดค่าเสียหายที่ศาลกำหนดไม่ถือว่าโจทก์ดำเนินคดีไม่สุจริต
ความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียม ป.วิ.พ. มาตรา 161 บัญญัติให้เป็นดุลพินิจของศาลโดยคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความหรือการดำเนินคดีการที่ศาลใช้ดุลพินิจกำหนดค่าเสียหายให้จำเลยชดใช้แก่โจทก์ต่ำกว่าที่โจทก์ขอมาในฟ้อง ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ดำเนินคดีโดยไม่สุจริต ศาลพิพากษาให้จำเลยรับผิดค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นแทนโจทก์ตามทุนทรัพย์ที่ฟ้อง เป็นการใช้ดุลพินิจที่ชอบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความและฟ้องคดีอาญาไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามร้ายแรงจนเป็นเหตุหย่าได้
การแจ้งความของจำเลยเป็นการใช้สิทธิตามที่กฎหมายให้อำนาจส่วนผลของการแจ้งความจะเป็นประการใดเป็นอีกส่วนหนึ่ง การแจ้งความของจำเลยจึงไม่เป็นการหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามโจทก์อย่างร้ายแรง อันจะถือเป็นเหตุหย่าตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516(3) กรณีที่จำเลยฟ้องคดีอาญากล่าวหาโจทก์และ พ. ร่วมกันแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จนั้น จำเลยกระทำการโดยสุจริตโดยเข้าใจว่าตนมีสิทธิที่จะกระทำได้หาใช่เป็นการหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามโจทก์อย่างร้ายแรง อันเป็นเหตุหย่าตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516(3) ข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2535 เวอร์ชัน 6 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์ที่ไม่มีการขาย: ผู้ขอให้ยึดมีหน้าที่ชำระ แม้สุจริตหรือขอถอนการยึด
โจทก์มีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมยึดไม่มีการขายตาม ป.วิ.พ. มาตรา 149และตาราง 5 ข้อ 3 ท้าย ป.วิ.พ. ทั้งนี้ต้องชำระต่อศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีโดยไม่คำนึงว่าโจทก์จะได้นำยึดโดยสุจริตและเป็นผู้ขอให้ถอนการยึดหรือไม่ หากโจทก์ไม่ยอมชำระก็อาจถูกบังคับตาม ป.วิ.พ. มาตรา 295 ตรี ไม่ใช่เรื่องของความรับผิดชั้นที่สุดสำหรับค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความในคดี ศาลจึงไม่อาจใช้ดุลพินิจกำหนดให้ฝ่ายจำเลยต้องรับผิดแทนฝ่ายโจทก์ได้ ตามป.วิ.พ. มาตรา 161
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2535 เวอร์ชัน 5 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์สินไม่มีการขาย โจทก์มีหน้าที่ชำระ แม้สุจริตและไม่ได้ขอถอนยึด
เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายดำเนินการบังคับคดีนำยึดที่ดิน โดยอ้างว่าเป็นทรัพย์สินของจำเลย เพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ แต่มีเหตุที่จะต้องถอนการยึดทรัพย์สินนั้น โจทก์ย่อมมีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมยึดไม่มีการขายตาม ป.วิ.พ. มาตรา 149 และตาราง 5ข้อ 3 ท้าย ป.วิ.พ. ทั้งนี้ โดยไม่คำนึงว่าโจทก์จะได้นำยึดโดยสุจริตและเป็นผู้ขอให้ถอนการยึดหรือไม่ กรณีไม่ใช่เรื่องของความรับผิดชั้นที่สุดสำหรับค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความในคดี ศาลจึงไม่อาจใช้ดุลพินิจกำหนดให้ฝ่ายจำเลยต้องรับผิดแทนฝ่ายโจทก์ได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 161.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ชำระค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์สิน แม้ถอนการยึดโดยสุจริต และเป็นผู้ขอถอน
โจทก์มีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมยึดไม่มีการขายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 และตาราง 5 ข้อ 3ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ทั้งนี้ต้องชำระต่อศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีโดยไม่คำนึงว่าโจทก์จะได้นำยึดโดยสุจริตและเป็นผู้ขอให้ถอนการยึดหรือไม่ หากโจทก์ไม่ยอมชำระก็อาจถูกบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295 ตรี ไม่ใช่เรื่องของความรับผิดชั้นที่สุดสำหรับค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความในคดี ศาลจึงไม่อาจใช้ดุลพินิจกำหนดให้ฝ่ายจำเลยต้องรับผิดแทนฝ่ายโจทก์ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์สินที่ถอนการยึด ผู้ยึดต้องรับผิดชอบ แม้สุจริตหรือไม่ได้ขอถอน
โจทก์ดำเนินการบังคับคดีโดยนำยึดที่ดิน1แปลงอ้างว่าเป็นทรัพย์สินของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้แต่มีเหตุที่จะต้องถอนการยึดทรัพย์สินนั้นโจทก์ย่อมมีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมยึดไม่มีการขายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา149และตาราง5ข้อ3ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งทั้งนี้โดยต้องชำระต่อศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีโดยไม่คำนึงว่าโจทก์จะได้นำยึดโดยสุจริตและเป็นผู้ขอให้ถอนการยึดหรือไม่หากโจทก์ไม่ยอมชำระก็อาจถูกบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา295ตรีไม่ใช่เรื่องของความรับผิดชั้นที่สุดสำหรับค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความในคดีศาลจึงไม่อาจใช้ดุลพินิจกำหนดให้ฝ่ายจำเลยต้องรับผิดแทนฝ่ายโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา161
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ชำระค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์สินที่ถูกถอนการยึด แม้โจทก์สุจริตและมิได้ขอถอน
โจทก์ดำเนินการบังคับคดีโดยนำยึดที่ดิน1แปลงอ้างว่าเป็นทรัพย์สินของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้แต่มีเหตุที่จะต้องถอนการยึดทรัพย์สินนั้นโจทก์ย่อมมีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมยึดไม่มีการขายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา149และตาราง5ข้อ3ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งทั้งนี้โดยต้องชำระต่อศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีโดยไม่คำนึงว่าโจทก์จะได้นำยึดโดยสุจริตและเป็นผู้ขอให้ถอนการยึดหรือไม่หากโจทก์ไม่ยอมชำระก็อาจถูกบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา295ตรีไม่ใช่เรื่องของความรับผิดชั้นที่สุดสำหรับค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความในคดีศาลจึงไม่อาจใช้ดุลพินิจกำหนดให้ฝ่ายจำเลยต้องรับผิดแทนฝ่ายโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา161
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3882/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองรถยนต์ที่ถูกลักมา การยินยอมมอบรถโดยสุจริต ไม่ถือเป็นการละเมิด
จำเลยเช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทราบว่ารถยนต์นั้นถูกคนร้ายลักมาจึงได้ยึดรถยนต์ดังกล่าวแล้วส่งไปให้พนักงานสอบสวนแห่งท้องที่เกิดเหตุเพื่อประกอบการดำเนินคดีตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย จำเลยไม่ได้เป็นผู้มอบรถยนต์ไปเองการที่จำเลยไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ก็เพราะเชื่อโดยสุจริตว่ารถยนต์ถูกคนร้ายลักมาตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้ง การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายไม่เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3705/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์หักล้างสิทธิจากโฉนดได้หรือไม่ และประเด็นการอ้างสิทธิโดยสุจริตตามมาตรา 1299 วรรคสอง
โจทก์ฟ้องอ้างว่าซื้อที่ดินพิพาทมาจากผู้อื่นประมาณ 6 ปีก่อนฟ้องคดีนี้และโจทก์ยกขึ้นฎีกาด้วยว่า การครอบครองปรปักษ์ของจำเลยจะนำมาหักล้างสิทธิของโจทก์ที่รับรองโดยผลของกฎหมายคือ การจดทะเบียนสิทธิแล้วมิได้ ข้ออ้างดังกล่าวมิใช่เป็นการยกขึ้นอ้างว่าโจทก์ได้สิทธิมาโดยมีค่าตอบแทนและโดยสุจริต อันจะทำให้โจทก์มีสิทธิดีกว่าจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1299 วรรคสอง การจะอ้างมาตรา 1299 วรรคสอง มาเป็นประเด็นต่อสู้ว่ามีสิทธิดีกว่าจำเลยนั้นต้องกล่าวอ้างมาในคำฟ้องโดยชัดแจ้งเมื่อมิได้กล่าวอ้างไว้ก็ไม่มีประเด็นจะหยิบยกขึ้นวินิจฉัยทั้งไม่ใช่ปัญหาที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้โจทก์จะยกขึ้นอ้างมาในฎีกาก็ไม่เป็นประเด็นที่ศาลฎีกาจะยกขึ้นวินิจฉัยเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3369/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการอนุญาตถอนฟ้องและการใช้สิทธิไม่สุจริต
การที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องในคดีแพ่งได้หรือไม่เป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจ แม้จำเลยจะคัดค้านเมื่อศาลเห็นว่าการถอนฟ้องของโจทก์ไม่เป็นเหตุให้จำเลยเสียเปรียบในเชิงคดีก็อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้