พบผลลัพธ์ทั้งหมด 479 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่ออายุประกันภัย: ต้องทำตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ และชำระดอกเบี้ย/ตรวจสุขภาพ
อ. ผู้เอาประกันชีวิตขาดส่งเบี้ยประกันภัย ตามกรมธรรม์ประกันภัยมีว่า ผู้เอาประกันชีวิตอาจขอต่อบริษัทขยายเวลาออกไปได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ดังนี้ อ. ต้องทำคำขอ ไม่ใช่กรมธรรม์ขยายเวลาออกไปโดยอัตโนมัติการขอต่ออายุกรมธรรม์ต้องเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์อ. ขอต่ออายุกรมธรรม์ แต่มิได้ชำระดอกเบี้ยและตรวจสุขภาพก่อนตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ยังไม่ถือว่าได้ขยายเวลาออกไปแล้ว ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องใช้เงินตามกรมธรรม์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 38/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาให้ที่ดินมีเงื่อนไข โอนให้ผู้อื่น & การบังคับคดี: ศาลอนุญาตให้โจทก์ไถ่ถอนจำนองแทนจำเลยได้
สัญญาให้ที่ดิน ผู้รับให้ไม่โอนที่ดินแก่ผู้อื่นต่อไปกึ่งหนึ่งตามที่ตกลงไว้กับผู้ให้ กลับเอาที่ดินไปจำนอง ผู้ให้ฟ้องบังคับให้ผู้รับให้ไถ่จำนองและโอนกึ่งหนึ่งแก่คนภายนอกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1906/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของคณะกรรมการจัดการมรดกตามสัญญาให้กรรมสิทธิ์ที่มีเงื่อนไข
แม้กรรมสิทธิ์ในที่ดินตามสัญญาให้จะตกเป็นของวัด อ. แต่ก็อยู่ภายใต้บังคับแห่งเงื่อนไขที่ว่า เมื่อผู้ให้วายชนม์แล้วคณะกรรมการจัดการมรดกของผู้ให้เป็นผู้มีอำนาจจัดการเก็บผลรายได้จากที่ดินนั้น เพื่อแบ่งปันแก่วัด อ. และบุคคลอื่นตามส่วนที่กำหนดไว้ในสัญญา คณะกรรมการจัดการมรดกซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยผู้เช่าที่ดินนั้นได้ แม้คำฟ้องจะระบุว่า วัดอ. เป็นโจทก์ แต่ก็ได้บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนถึงอำนาจของผู้จัดการมรดก แสดงให้เห็นว่าโจทก์ฟ้องโดยอาศัยอำนาจของผู้จัดการมรดก หาใช่อาศัยอำนาจของวัด อ. ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ วัด อ. ไม่มีสิทธิที่จะขัดขวางอำนาจจัดการของคณะกรรมการจัดการมรดก เพราะกรรมสิทธิ์ในที่ดินของวัด อ.อยู่ภายใต้เงื่อนไขแห่งสัญญาให้ดังกล่าวเมื่อฟังว่าที่ดินที่จำเลยอยู่ในอำนาจจัดการของคณะกรรมการจัดการมรดก คณะกรรมการจัดการมรดกจะมอบอำนาจฟ้องก่อนทำสัญญาเช่าหรือภายหลังการทำสัญญาเช่าก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1906/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของคณะกรรมการจัดการมรดก: สิทธิจัดการที่ดินตามสัญญาให้ที่มีเงื่อนไข
แม้กรรมสิทธิ์ในที่ดินตามสัญญาให้จะตกเป็นของวัด อ. แต่ก็อยู่ภายใต้บังคับแห่งเงื่อนไขที่ว่า เมื่อผู้ให้วายชนม์แล้วคณะกรรมการจัดการมรดกของผู้ให้เป็นผู้มีอำนาจจัดการเก็บผลรายได้จากที่ดินนั้นเพื่อแบ่งปันแก่วัด อ. และบุคคลอื่นตามส่วนที่กำหนดไว้ในสัญญาคณะกรรมการจัดการมรดกซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยผู้เช่าที่ดินนั้นได้แม้คำฟ้องจะระบุว่าวัด อ.เป็นโจทก์ แต่ก็ได้บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนถึงอำนาจของผู้จัดการมรดก แสดงให้เห็นว่าโจทก์ฟ้องโดยอาศัยอำนาจของผู้จัดการมรดก หาใช่อาศัยอำนาจของวัด อ. ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ วัดอ. ไม่มีสิทธิที่จะขัดขวางอำนาจจัดการของคณะกรรมการจัดการมรดก เพราะกรรมสิทธิ์ในที่ดินของวัด อ.อยู่ภายใต้เงื่อนไขแห่งสัญญาให้ดังกล่าว เมื่อฟังว่าที่ดินที่จำเลยเช่าอยู่ในอำนาจจัดการของคณะกรรมการจัดการมรดกคณะกรรมการจัดการมรดกจะมอบอำนาจฟ้องก่อนทำสัญญาเช่าหรือภายหลังการทำสัญญาเช่าก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจยื่นคำร้องขอตั้งผู้ปกครองและการรับบุตรบุญธรรม ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ผู้รับบุตรบุญธรรมยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้ง บ.บุตรเขยเป็นผู้ปกครองบุตรบุญธรรมซึ่งเป็นผู้เยาว์ เมื่อผู้ร้องไม่ใช่ญาติหรือเป็นพนักงานอัยการ จึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1556
เมื่อผู้รับบุตรบุญธรรมยังไม่ได้จดทะเบียนเลิกการรับบุตรบุญธรรมหรือถูกถอนอำนาจปกครอง ทั้งมารดาผู้เยาว์ยังมีชีวิตอยู่แม้ไม่ทราบที่อยู่ไม่อาจติดต่อได้ ก็ไม่ใช่กรณีที่จะจัดให้มีผู้ปกครองผู้เยาว์ได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1555 เมื่อไม่อาจตั้งผู้ปกครองได้การตั้งผู้ปกครองหลายคนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1559 จึงไม่อาจทำได้ บ. ยังไม่ได้รับความยินยอมจากมารดาผู้เยาว์ ย่อมรับผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรมไม่ได้
เมื่อผู้รับบุตรบุญธรรมยังไม่ได้จดทะเบียนเลิกการรับบุตรบุญธรรมหรือถูกถอนอำนาจปกครอง ทั้งมารดาผู้เยาว์ยังมีชีวิตอยู่แม้ไม่ทราบที่อยู่ไม่อาจติดต่อได้ ก็ไม่ใช่กรณีที่จะจัดให้มีผู้ปกครองผู้เยาว์ได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1555 เมื่อไม่อาจตั้งผู้ปกครองได้การตั้งผู้ปกครองหลายคนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1559 จึงไม่อาจทำได้ บ. ยังไม่ได้รับความยินยอมจากมารดาผู้เยาว์ ย่อมรับผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเคลื่อนย้ายซากสัตว์เข้าเขตโรคระบาดที่มีใบอนุญาตแต่ขัดเงื่อนไข ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์มาตรา 34 มิใช่ความผิดตามมาตราที่ฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยนำซากสัตว์เคลื่อนย้ายผ่านเข้ามาในเขตโรคระบาดสัตว์และสงสัยว่ามีโรคระบาดสัตว์โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ มาตรา 17 และ 42 ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยเคลื่อนย้ายซากสัตว์ผ่านเข้ามาในเขตโรคระบาดและสงสัยว่ามีโรคระบาดสัตว์โดยมีหนังสืออนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว แต่ใบอนุญาตดังกล่าวอนุญาตให้เคลื่อนย้ายซากสัตว์เข้าในหรือผ่านได้เฉพาะเขตปลอดโรคระบาด ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงฝ่าฝืนเงื่อนไขในใบอนุญาตอันเป็นความผิดตามมาตรา 34 วรรค 2 และ 49 ไม่เป็นความผิดตามบทมาตราที่โจทก์ฟ้องศาลจะลงโทษจำเลยไม่ได้เพราะข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณา ไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 3 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2499 มาตรา 13
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเคลื่อนย้ายซากสัตว์เข้าเขตโรคระบาดที่มีใบอนุญาตแต่ขัดเงื่อนไข ศาลยกฟ้องเนื่องจากความผิดตามที่ฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนำซากสัตว์เคลื่อนย้ายผ่านเข้ามาในเขตโรคระบาดสัตว์ และสงสัยว่ามีโรคระบาดสัตว์โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ มาตรา 17 และ 42 ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยเคลื่อนย้ายซากสัตว์ผ่านเข้ามาในเขตโรคระบาดและสงสัยว่ามีโรคระบาดสัตว์โดยมีหนังสืออนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วแต่ใบอนุญาตดังกล่าวอนุญาตให้เคลื่อนย้ายซากสัตว์เข้าในหรือผ่านได้เฉพาะเขตปลอดโรคระบาด ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงฝ่าฝืนเงื่อนไขในใบอนุญาตอันเป็นความผิดตามมาตรา 34 วรรค 2 และ 49 ไม่เป็นความผิดตามบทมาตราที่โจทก์ฟ้อง ศาลจะลงโทษจำเลยไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 3 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2499 มาตรา 13
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้ตามหนังสือตอบรับทนายความ เจ้าหนี้ต้องปฏิบัติเงื่อนไขลูกหนี้
หนังสือลูกหนี้ตอบทนายความของเจ้าหนี้ยอมรับใช้หนี้จำนวนที่แจ้งไป โดยขอปฏิบัติตามที่ลูกหนี้กำหนดขึ้นขอให้เจ้าหนี้ช่วยให้ความสะดวก มิใช่จะใช้หนี้โดยมีเงื่อนไข ดังนี้เป็นการรับสภาพหนี้ซึ่งลูกหนี้ต้องชำระหนี้นั้นตามคำท้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2422/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลบังคับใช้สัญญาขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในอนาคต: สัญญาเป็นโมฆะหากเหตุการณ์ไม่เกิดขึ้น
จำเลยทำสัญญากู้ 3,000 บาท กับว่าจะจ่ายเงินสดอีก 2,000 บาท ในวันที่ศาลพิพากษาคดีที่บุตรจำเลยถูกฟ้องฐานขับรถโดยประมาททำให้บุตรโจทก์ตาย โจทก์ยื่นคำแถลงขอให้ศาลปราณีแก่จำเลยในคดีอาญา ศาลพิพากษาจำคุกบุตรจำเลย จำเลยไม่จ่ายเงิน ดังนี้ เป็นสัญญาที่มีผลบังคับได้ แต่ต้องเป็นเรื่องบุตรจำเลยไม่ถูกจำคุกด้วย จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายเงิน 5,000 บาทตามสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจับกุมในที่รโหฐานต้องเป็นไปตามเงื่อนไขมาตรา 81 และ 92 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
การจับโดยไม่ต้องมีหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 78(4) นั้น ถ้าเป็นกรณีจับบุคคลในที่รโหฐาน จะต้องอยู่ในบังคับของมาตรา 81(1) ประกอบกับมาตรา 92 ด้วย
จำเลยทำร้ายร่างกาย ด.ด. ไปแจ้งความต่อผู้ใหญ่บ้านของให้จับแต่วันนั้นจับไม่ได้เพราะมืด รุ่งเช้าผู้ใหญ่บ้านพา ด. ไปแจ้งความต่อผู้บังคับกอง ผู้บังคับกองให้ตำรวจไปกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อจับ แต่ไม่พบตึงพากันกลับ ผู้บังคับกองได้สั่งด้วยวาจาว่า ถ้าพบให้จับจำเลยมาดำเนินคดี ตอนเย็นวันนั้นเองผู้ใหญ่บ้านกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพากันไปจับจำเลยโดยคนทั้งสองไม่มีหมายจับ พบจำเลยอยู่ใต้ถุนบ้าน ท.ผู้ใหญ่บ้านแจ้งแก่จำเลยว่า ตำรวจต้องการตัวเรื่องทำร้ายร่างกาย ด.จำเลยไม่ยอมให้จับและต่อสู้ขัดขวาง การเข้าไปจับจำเลยถึงใต้ถุนบ้าน ท. อันเป็นที่รโหฐานเช่นนี้ เป็นกรณีซึ่งอยู่ในบังคับของมาตรา 81(1)ประกอบกับมาตรา 92 ด้วย เมื่อกรณีไม่เข้าด้วยข้อยกเว้นดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 92 การเข้าไปจับนั้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่จำเลยขัดขวางการจับกุมจึงไม่เป็นความผิดฐานต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่
จำเลยทำร้ายร่างกาย ด.ด. ไปแจ้งความต่อผู้ใหญ่บ้านของให้จับแต่วันนั้นจับไม่ได้เพราะมืด รุ่งเช้าผู้ใหญ่บ้านพา ด. ไปแจ้งความต่อผู้บังคับกอง ผู้บังคับกองให้ตำรวจไปกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อจับ แต่ไม่พบตึงพากันกลับ ผู้บังคับกองได้สั่งด้วยวาจาว่า ถ้าพบให้จับจำเลยมาดำเนินคดี ตอนเย็นวันนั้นเองผู้ใหญ่บ้านกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพากันไปจับจำเลยโดยคนทั้งสองไม่มีหมายจับ พบจำเลยอยู่ใต้ถุนบ้าน ท.ผู้ใหญ่บ้านแจ้งแก่จำเลยว่า ตำรวจต้องการตัวเรื่องทำร้ายร่างกาย ด.จำเลยไม่ยอมให้จับและต่อสู้ขัดขวาง การเข้าไปจับจำเลยถึงใต้ถุนบ้าน ท. อันเป็นที่รโหฐานเช่นนี้ เป็นกรณีซึ่งอยู่ในบังคับของมาตรา 81(1)ประกอบกับมาตรา 92 ด้วย เมื่อกรณีไม่เข้าด้วยข้อยกเว้นดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 92 การเข้าไปจับนั้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่จำเลยขัดขวางการจับกุมจึงไม่เป็นความผิดฐานต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่