พบผลลัพธ์ทั้งหมด 461 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 582-583/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จในคดีแพ่งสร้างความเสียหายแก่โจทก์ ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.177
พยานซึ่งรู้เห็นขณะทำสัญญากู้รับเงินไปจากโจทก์จริงตามสัญญากู้ ครั้นเมื่อโจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้และอ้างพยานดังกล่าว พยานกลับเบิกความบิดเบือนว่า ไม่มีการส่งมอบเงินกันเป็นเหตุให้โจทก์แพ้คดีนั้น และได้รับความเสียหาย การที่พยานเลิกความเช่นนั้นถือว่าเป็นการเบิกความเท็จในข้อสำคัญ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 177
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 582-583/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จพยานในคดีแพ่ง ทำให้โจทก์เสียประโยชน์ ถือเป็นความผิดอาญา
พยานซึ่งรู้เห็นขณะทำสัญญากู้และเห็นผู้กู้รับเงินไปจากโจทก์จริงตามสัญญากู้ครั้นเมื่อโจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้และอ้างพยานดังกล่าวพยานกลับเบิกความบิดเบือนว่าไม่มีการส่งมอบเงินกันเป็นเหตุให้โจทก์แพ้คดีนั้นและได้รับความเสียหายการที่พยานเบิกความเช่นนั้นถือว่าเป็นการเบิกความเท็จในข้อสำคัญ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 177
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จ-เบิกความเท็จเป็นละเมิด โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้
จำเลยถูกลงโทษคดีถึงที่สุดในเรื่องแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จว่า โจทก์รับสิ่งของไว้โดยรู้ว่า เป็นสิ่งของที่หลีกเหลี่ยงอากรขาเข้าจนเป็นเหตุให้โจทก์ถูกฟ้องในคดีอาญาเช่นนี้ ถือว่า การกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายทดแทนเพื่อเหตุละเมิดได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 420, 438 และในการพิจารณาคดีส่วนแพ่ง เรื่องนี้ศาลต้องฟังข้อเท็จจริงตามคดีอาญา คือ ฟังว่าจำเลยได้แจ้งความเท็จและเบิกความเท็จจริง เมื่อจำเลยยังต่อสู้ในเรื่องค่าเสียหายอยู่ ศาลจะต้องฟังพยานของคู่ความต่อไป เฉพาะในเรื่องจำนวนค่าเสียหายเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายทางแพ่ง: สิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
จำเลยถูกลงโทษคดีถึงที่สุดในเรื่องแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จว่าโจทก์รับสิ่งของไว้โดยรู้ว่าเป็นสิ่งของที่หลีกเลี่ยงอากรขาเข้าจนเป็นเหตุให้โจทก์ถูกฟ้องในคดีอาญาเช่นนี้ ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายทดแทนเพื่อเหตุละเมิดได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420,438 และในการพิจารณาคดีส่งแพ่งเรื่องนี้ศาลต้องฟังข้อเท็จจริงตามคดีอาญาคือ ฟังว่าจำเลยได้แจ้งความเท็จและเบิกความเท็จจริง เมื่อจำเลยยังต่อสู้ในเรื่องค่าเสียหายอยู่ ศาลจะต้องฟังคำพยานของคู่ความต่อไปเฉพาะในเรื่องจำนวนค่าเสียหายเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จต่อศาล ความเท็จเป็นข้อสำคัญในคดี ฟ้องสมบูรณ์
ความผิดฐานเบิกความเท็จ โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยสาบาลตัวเบิกความต่อศาลว่าโจทก์เป็นคนร้ายปล้นกระบือตามฟ้องของพนักงานอัยการ โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ แม้โจทก์จะมิได้บรรยายว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี ก็ย่อมเข้าใจอยู่ในตัวแล้วว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีทีเดียว เพราะการเป็นคนร้ายตามฟ้องของพนักงานอัยการหรือไม่ เป็นประเด็นโดยตรงของคดีที่กล่าวหากัน ดังนี้ ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จต่อศาล แม้ไม่ระบุความสำคัญของความเท็จ ฟ้องสมบูรณ์หากเป็นประเด็นสำคัญในคดี
ความผิดฐานเบิกความเท็จ โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยสาบานตัวเบิกความต่อศาลว่าโจทก์เป็นคนร้ายปล้นกระบือตามฟ้องของพนักงานอัยการโดย จำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จแม้โจทก์จะมิได้บรรยายว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี ก็ย่อมเข้าใจอยู่ในตัวแล้วว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีทีเดียว เพราะการเป็นคนร้ายตามฟ้องของพนักงานอัยการหรือไม่ เป็นประเด็นโดยตรงของคดีที่กล่าวหากันดังนี้ ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมแปลงเอกสารสัญญากู้และการเบิกความเท็จ ศาลฎีกาชี้ว่าการครอบครองเอกสารไม่ได้พิสูจน์การปลอมแปลงโดยจำเลย
ฟ้องว่าจำเลยปลอมหนังสือกู้ แต่พิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยปลอมเอง การที่หนังสือกู้อยู่ในครอบครองของจำเลยจะสันนิษฐานว่าจำเลยปลอมเองไม่ได้ จำเลยอาจให้ผู้อื่นปลอม ถ้าโจทก์ไม่กล่าวในฟ้องว่าจำเลยสมคบกับผู้อื่นปลอมหนังสือ ก็จะลงโทษจำเลยไม่ได้
ศาลชั้นต้นวางโทษจำเลยตามกฎหมายใหม่ ซึ่งเป็นคุณแก่จำเลย
ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตามกฎหมายเก่า เพราะกำหนดโทษที่ลงอยู่ในเกณฑ์ของกฎหมายเก่าดังนี้ เป็นการชอบแล้ว
ศาลชั้นต้นวางโทษจำเลยตามกฎหมายใหม่ ซึ่งเป็นคุณแก่จำเลย
ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตามกฎหมายเก่า เพราะกำหนดโทษที่ลงอยู่ในเกณฑ์ของกฎหมายเก่าดังนี้ เป็นการชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีเบิกความเท็จ การระบุหมายเลขคดีเพียงอย่างเดียวเพียงพอต่อการให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้
การบรรยายฟ้องที่กล่าวหาว่ากระทำผิดฐานเบิกความเท็จโดยกล่าวว่าจำเลยได้สาบานตนนำความซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จมาเบิกความในการพิจารณาของศาลในข้อสำคัญ ซึ่งเป็นการครบองค์ควมผิดฐานเบิกความเท็จแล้ว และได้บรรยายข้อความที่จำเลยเบิกความซึ่งอ้างว่าเป็นความเท็จตลอดจนยืนยันว่าความจริงเป็นอย่างไร แม้ฟ้องจะไม่ได้ระบุว่าคดีที่จำเลยเบิกความเท็จเป็นเรื่องอะไร แต่ได้ระบุหมายเลขคดี(ที่จำเลยได้เบิกความอันเป็นเท็จ) ไว้แล้ว ดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีเบิกความเท็จ แม้ไม่ได้ระบุรายละเอียดคดี แต่ระบุหมายเลขคดีแล้ว
การบรรยายฟ้องที่กล่าวหาว่ากระทำผิดฐานเบิกความเท็จโดยกล่าวว่าจำเลยได้สาบานตนนำความซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จมาเบิกความในการพิจารณาของศาลในข้อสำคัญซึ่งเป็นการครบองค์ความผิดฐานเบิกความเท็จแล้ว และได้บรรยายข้อความที่จำเลยเบิกความซึ่งอ้างว่าเป็นความเท็จตลอดจนยืนยันว่าความจริงเป็นอย่างไรแม้ฟ้องจะไม่ได้ระบุว่าคดีที่จำเลยเบิกความเท็จเป็นเรื่องอะไรแต่ได้ระบุหมายเลขคดี(ที่จำเลยได้เบิกความอันเป็นเท็จ)ไว้แล้วดังนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จต้องพิสูจน์การสาบาลตนก่อนเบิกความ หากโจทก์ไม่นำสืบพยานหลักฐานยืนยัน ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
ในคดีฟ้องหาว่าเบิกความเท็จนั้น ถึงแม้โจทก์จะอ้างคำเบิกความของจำเลยในคดีที่เป็นเหตุให้จำเลยถูกฟ้องฐาน เบิกความเท็จ และปรากฎมีข้อความในคำเบิกความนั้นว่า "ข้าพเจ้าพยานได้สาบาลตนแล้ว" ก็ตามข้อความดังกล่าว ก็เป็นแต่เพียงแบบพิมพ์ซึ่งได้ตีพิมพ์ไว้ก่อน และเพราะในการเบิกความเป็นพยานในศาลก็หามีกฎหมายบังคับให้พยานทุกคนต้องสาบาลหรือปฏิญาณตัวก่อนเบิกความไม่ ฉะนั้น เมื่อจำเลยปฏิเสธและโจทก์ไม่ได้นำสืบพยานบุคคลถึงความข้อนี้เลย ก็ลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จไม่ได้.