คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อำนาจฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,515 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1694/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: ผู้เสียหายต้องเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ถูกกระทำ
โจทก์จำเลยเป็นลูกจ้างหน่วยแจ๊สแม็ค จังหวัดอุดรธานี จำเลยได้รับมอบหมายเช็คจากสำนักงานกรุงเทพฯเพื่อให้จำเลยจ่ายให้โจทก์เป็นเงินเดือนที่โจทก์ทำงานเป็นลูกจ้างเมื่อจำเลยไม่ได้จ่ายให้แก่โจทก์ โจทก์ยังไม่ได้รับไป เช็คนั้นก็ยังไม่เป็นของโจทก์ เมื่อโจทก์ยังมิได้เป็นเจ้าของเช็ค การกระทำที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตยักยอกเช็คของโจทก์ไป จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยกระทำต่อทรัพย์ของโจทก์ ดังนี้ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย และไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลชอบที่จะยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1694/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: ผู้เสียหายต้องเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ถูกกระทำ
โจทก์จำเลยเป็นลูกจ้างหน่วยแจ๊สแม็ค จังหวัดอุดรธานี จำเลยได้รับมอบหมายเช็คจากสำนักงานกรุงเทพฯเพื่อให้จำเลยจ่ายให้โจทก์เป็นเงินเดือนที่โจทก์ทำงานเป็นลูกจ้าง เมื่อจำเลยไม่ได้จ่ายให้แก่โจทก์ โจทก์ยังไม่ได้รับไป เช็คนั้นก็ยังไม่เป็นของโจทก์เมื่อโจทก์ยังมิได้เป็นเจ้าของเช็ค การกระทำที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตยักยอกเช็คของโจทก์ไป จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยกระทำต่อทรัพย์ของโจทก์ ดังนี้ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย และไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลชอบที่จะยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, การบอกเลิกสัญญาเช่า, และขอบเขตอำนาจของหญิงที่มีสามีในการฟ้องร้อง
เมื่อมีการมอบอำนาจให้จัดการฟ้องร้องเกี่ยวกับที่ดินแล้ว ก็เท่ากับมอบอำนาจให้ฟ้องเกี่ยวกับตึกซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินด้วย
หญิงมีสามีได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนบุคคลอื่นโดยมิได้กระทำการใด ๆ ผูกพันสินบริคณห์แต่อย่างใด จึงมีอำนาจฟ้องคดีได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสามี
เจ้าของตึกพิพาทเป็นผู้ทำสัญญาให้เช่า เมื่อจะบอกเลิกการเช่า ผู้ให้เช่าต้องเป็นผู้บอกเลิก
เมื่อจำเลยมิได้ยกประเด็นขึ้นต่อสู้มาแต่ต้น ศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัย
เมื่อจำเลยจะอ้างสิทธิพิเศษว่าตึกพิพาทเป็นเคหะควบคุม จำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504 จำเลยจะต้องให้การตั้งประเด็นต่อสู้คดี อ้างสิทธิพิเศษขึ้นมาโดยชัดแจ้ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, การบอกเลิกสัญญาเช่า, และอำนาจฟ้องของสตรี
เมื่อมีการมอบอำนาจให้จัดการฟ้องร้องเกี่ยวกับที่ดินแล้วก็เท่ากับมอบอำนาจให้ฟ้องเกี่ยวกับตึกซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินด้วย.
หญิงมีสามีได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนบุคคลอื่นโดยมิได้กระทำการใดๆผูกพันสินบริคณห์แต่อย่างใด จึงมีอำนาจฟ้องคดีได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสามี
เจ้าของตึกพิพาทเป็นผู้ทำสัญญาให้เช่า เมื่อจะบอกเลิกการเช่า ผู้ให้เช่าต้องเป็นผู้บอกเลิก
เมื่อจำเลยมิได้ยกประเด็นขึ้นต่อสู้มาแต่ต้น ศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัย
เมื่อจำเลยจะอ้างสิทธิพิเศษว่าตึกพิพาทเป็นเคหะควบคุมจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 จำเลยจะต้องให้การตั้งประเด็นต่อสู้คดี อ้างสิทธิพิเศษขึ้นมาโดยชัดแจ้ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของเจ้าของรวม และการพิสูจน์ลักษณะการเช่าเพื่อใช้สิทธิคุ้มครอง
เจ้าของรวมแต่ผู้เดียวย่อมมีอำนาจฟ้องเกี่ยวกับทรัพย์ซึ่งตนมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับผู้อื่นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1359 โดยไม่ต้องรับมอบอำนาจจากเจ้าของรวมคนอื่น ๆ
เมื่อจำเลยอ้างสิทธิว่าที่พิพาทจำเลยปลูกสร้างเคหะใช้เป็นที่อยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ก็ต้องวินิจฉัยตามสภาพที่เป็นจริงแห่งการเช่าว่าเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อประกอบการค้า ซึ่งคู่ความอาจนำสืบพยานบุคคลได้ ไม่เป็นการสืบเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงหนังสือสัญญาเช่า อันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 เพราะการเช่าที่มีการอ้างถึงความคุ้มครองเช่นนี้ย่อมฟ้องร้องกันได้ โดยไม่ต้องอาศัยหลักฐานเป็นหนังสือ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: ผู้เสียหายที่แท้จริงคือบริษัทเจ้าของทรัพย์ ไม่ใช่ตัวแทน
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ครอบครองเครื่องพิมพ์ดีดของบริษัทอีสต์เอเซียติค จำกัด มีอำนาจจัดการจำหน่ายและให้เช่าซื้อ จำเลยได้เช่าซื้อเครื่องพิมพ์ดีดนั้นไปจากโจทก์แล้วผิดสัญญาไม่ส่งคืนเครื่องพิมพ์ดีดกลับยักยอกเสีย ดังนี้ เมื่อได้ความว่าโจทก์เป็นเพียงผู้ช่วยผู้จัดการแผนกขายเครื่องพิมพ์ดีดของบริษัทอีสต์เอเซียติค จำกัด เพื่อประโยชน์ของบริษัทโจทก์ลงชื่อเป็นฝ่ายผู้ให้เช่าซื้อในฐานะตัวแทนบริษัทตามหน้าที่ ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(4) คือ บริษัท โจทก์เป็นเพียงผู้ปฏิบัติงานของบริษัทคนหนึ่ง ไม่ปรากฏว่ามีความรับผิดชอบหรือเสียหายอย่างใดนอกเหนือไปกว่านั้น จึงย่อมไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะพึงดำเนินคดีแก่จำเลยในนามของโจทก์เป็นส่วนตัวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้เช่าซื้อ: ผู้เสียหายคือเจ้าของทรัพย์ ไม่ใช่ตัวแทน
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ครอบครองเครื่องพิมพ์ดีดของบริษัทอีสต์เอเซียติค จำกัด มีอำนาจจัดการจำหน่ายและให้เช่าซื้อ จำเลยได้เช่าซื้อเครื่องพิมพ์ดีดนั้นไปจากโจทก์แล้วผิดสัญญาไม่ส่งคืนเครื่องพิมพ์ดีดกลับยักยอกเสีย ดังนี้ เพื่อได้ความว่าโจทก์เป็นเพียงผู้ช่วยผู้จัดการแผนกขายเครื่องพิมพ์ดีดของบริษัทอีสต์เอเซียติค จำกัด เพื่อประโยชน์ของบริษัทโจทก์ลงชื่อเป็นฝ่ายผู้ให้เช่าซื้อในฐานะตัวแทนบริษัทตามหน้าที่ ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) คือ บริษัท โจทก์เป็นเพียงผู้ปฏิบัติงานของบริษัทคนหนึ่งไม่ปรากฏว่ามีความรับผิดชอบหรือเสียหายอย่างใดนอกเหนือไปกว่านั้น จึงย่อมไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะพึงดำเนินคดีแก่จำเลยในนามของโจทก์เป็นส่วนตัวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของเจ้าของรวม, การเช่าเพื่อประกอบการค้า vs. อยู่อาศัย, และการบอกเลิกสัญญาเช่า
เจ้าของรวมแต่ผู้เดียวย่อมมีอำนาจฟ้องเกี่ยวกับทรัพย์ซึ่งตนมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับผู้อื่นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1359 โดยไม่ต้องรับมอบอำนาจจากเจ้าของรวมคนอื่นๆ
เมื่อจำเลยอ้างสิทธิว่าที่พิพาทจำเลยปลูกสร้างเคหะใช้เป็นที่อยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายก็ต้องวินิจฉัยตามสภาพที่เป็นจริงแห่งการเช่าว่าเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อประกอบการค้า ซึ่งคู่ความอาจนำสืบพยานบุคคลได้ ไม่เป็นการสืบเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงหนังสือสัญญาเช่า อันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 เพราะการเช่าที่มีการอ้างถึงความคุ้มครองเช่นนี้ย่อมฟ้องร้องกันได้ โดยไม่ต้องอาศัยหลักฐานเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้เยาว์และการแก้ไขความบกพร่องทางความสามารถตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
เมื่อผู้เยาว์ถูกละเมิด ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้ละเมิดได้ แต่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 กล่าวคือ ให้ผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นผู้กระทำแทนหรือให้คำอนุญาตหรือให้ความยินยอม บิดาของผู้เยาว์ได้เสนอข้อหาต่อศาลแทนผู้เยาว์โดยยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาของผู้เยาว์ จึงไม่เป็นบิดาของผู้เยาว์ตามกฎหมาย ไม่มีสิทธิกระทำแทนหรือให้ความยินยอมได้ ในกรณีเช่นนี้เท่ากับว่าผู้เยาว์เสนอข้อหาเอง เป็นการบกพร่องในเรื่องความสามารถเท่านั้น ไม่ใช่ไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อบิดาได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาของผู้เยาว์แล้ว ก็เป็นบิดาตามกฎหมาย มีอำนาจกระทำแทนหรือให้ความยินยอมในการเสนอข้อหาต่อศาลได้ การบกพร่องในเรื่องความสามารถนี้ แก้ไขให้บริบูรณ์ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 56 เมื่อจดทะเบียนสมรสแล้วก็เป็นผู้แทนโดยชอบธรรม เหตุบกพร่องในเรื่องความสามารถก็หมดไป ทำให้การฟ้องคดีแทนเด็กที่บกพร่องมาแต่ต้นเป็นอันบริบูรณ์
จำเลยฎีกาคัดค้านในเรื่องค่าสินไหมทดแทนโดยมิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงในฎีกาเพียงแต่ขอให้ถือเอาคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยมาเป็นข้อสนับสนุนคำฟ้องในชั้นฎีกาเท่านั้น จึงไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 เพราะมิได้กล่าวไว้ชัดแจ้งในฎีกา จึงไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะตัดทอนจำนวนค่าเสียหายให้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้เยาว์และการแก้ไขความบกพร่องทางความสามารถเมื่อผู้แทนโดยชอบธรรมได้รับการแต่งตั้ง
เมื่อผู้เยาว์ถูกละเมิด ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้ละเมิดได้แต่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 กล่าวคือ ให้ผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นผู้กระทำแทนหรือให้คำอนุญาตหรือให้ความยินยอม บิดาของผู้เยาว์ได้เสนอข้อหาต่อศาลแทนผู้เยาว์โดยยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาของผู้เยาว์ จึงไม่เป็นบิดาของผู้เยาว์ตามกฎหมาย ไม่มีสิทธิกระทำแทนหรือให้ความยินยอมได้ ในกรณีเช่นนี้เท่ากับว่าผู้เยาว์เสนอข้อหาเอง เป็นการบกพร่องในเรื่องความสามารถเท่านั้น ไม่ใช่ไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อบิดาได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาของผู้เยาว์แล้วก็เป็นบิดาตามกฎหมายมีอำนาจกระทำแทนหรือให้ความยินยอมในการเสนอข้อหาต่อศาลได้ การบกพร่องในเรื่องความสามารถนี้ แก้ไขให้บริบูรณ์ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 เมื่อจดทะเบียนสมรสแล้วก็เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมเหตุบกพร่องในเรื่องความสามารถก็หมดไป ทำให้การฟ้องคดีแทนเด็กที่บกพร่องมาแต่ต้นเป็นอันบริบูรณ์
จำเลยฎีกาคัดค้านในเรื่องค่าสินไหมทดแทน โดยมิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงในฎีกาเพียงแต่ขอให้ถือเอาคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยมาเป็นข้อสนับสนุนคำฟ้องในชั้นฎีกาเท่านั้น จึงไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 เพราะมิได้กล่าวไว้ชัดแจ้งในฎีกา จึงไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะตัดทอนจำนวนค่าเสียหายให้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2509)
of 452