คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อำนาจฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,515 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงชื่อในรายงานชันสูตรพลิกศพโดยมิได้ร่วมชันสูตร ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อโจทก์ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยที่ 1 ไปชันสูตรพลิกศพและทำรายงานชันสูตรพลิกศพจำเลยที่ 2 และอนามัยอำเภอไม่ได้ไปชันสูตรพลิกศพ แต่ได้ลงชื่อในรายงานนั้นในภายหลัง จำเลยที่ 1 ได้ทำรายงานชันสูตรพลิกศพแสดงรายละเอียดตามที่กฎหมายกำหนด และตามความจริง ศาลฟังข้อเท็จจริงว่านายประสิทธิบุตรชายโจทก์ตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกกระสุนปืนโดยนายงามเป็นผู้ทำให้ตาย การที่นายงามทำให้นายประสิทธิตายจะกระทำโดยมีเจตนาฆ่าให้ตายหรือกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้นายประสิทธิตายก็ตามก็ต้องแล้วแต่พยานหลักฐาน ไม่เกี่ยวกับรายงานชันสูตรพลิกศพแต่อย่างใด ดังนั้น การที่จำเลยที่ 2 และอนามัยอำเภอจะลงชื่อในรายงานชันสูตรพลิกศพในภายหลังโดยที่ไม่ได้ร่วมชันสูตรพลิกศพด้วยก็ตามก็มิได้ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายแต่อย่างใดโจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายโดยตรงจึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีจากหนังสือมอบอำนาจเฉพาะการ แม้ใช้ฟ้องแล้วถอนฟ้อง ก็ยังใช้ได้
หนังสือมอบอำนาจมีข้อความว่า ให้ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจดำเนินคดีฟ้องร้องแต่ตั้งทนายเพื่อว่าต่างแก้ต่าง ฯลฯ มิใช่ใบมอบอำนาจทั่วไป แต่เป็นใบมอบอำนาจเฉพาะการเพื่อให้ฟ้องคดี และใบมอบอำนาจนี้มิได้ระบุเจาะจงว่าให้ฟ้องร้องได้เพียงรายหนึ่งรายใดโดยเฉพาะ แม้โจทก์จะได้ใช้ใบมอบอำนาจนั้นฟ้องขับไล่จำเลยมาแล้วครั้งหนึ่งและถอนฟ้องไป ก็ไม่ทำให้ใบมอบอำนาจเสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีจากหนังสือมอบอำนาจเฉพาะการ แม้ฟ้องแล้วถอนฟ้อง ก็ยังใช้ได้
หนังสือมอบอำนาจมีข้อความว่าให้ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจดำเนินคดีฟ้องร้องแต่งตั้งทนายเพื่อว่าต่างแก้ต่าง ฯลฯ มิใช่ใบมอบอำนาจทั่วไปแต่เป็นใบมอบอำนาจเฉพาะการเพื่อให้ฟ้องคดี และใบมอบอำนาจนี้มิได้ระบุเจาะจงว่าให้ฟ้องร้องได้เพียงรายหนึ่งรายใดโดยเฉพาะแม้โจทก์จะได้ใช้ใบมอบอำนาจนั้นฟ้องขับไล่จำเลยมาแล้วครั้งหนึ่งและถอนฟ้องไป ก็ไม่ทำให้ใบมอบอำนาจเสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี: เมื่อการขายทอดตลาดเสร็จสิ้นแล้ว จำเลยไม่มีอำนาจขอให้ขายใหม่ แม้มีข้อโต้แย้งเรื่องราคาหรือประเภทที่ดิน
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาไปตามคำสั่งศาลเสร็จสิ้นแล้ว และไม่ปรากฏว่าได้กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษา จำเลยย่อมไม่มีอำนาจที่จะรื้อฟื้นขอให้ขายที่ดินใหม่ได้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินมือเปล่า ผู้ซื้อที่รับโอนการครอบครองมีอำนาจฟ้องผู้บุกรุกได้ แม้ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 1299
ที่ดินมือเปล่า เมื่อผู้ซื้อได้รับซื้อ และรับโอนการครอบครองโดยชอบแล้ว ผู้ซื้อก็เป็นเจ้าของสิทธิครอบครองตามกฎหมาย ไม่จำต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1299 เมื่อมีผู้บุกรุกเข้าแย่งการครอบครอง ผู้ซื้อก็มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 405/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับจำนองต้องแจ้งหนี้ให้ลูกหนี้ก่อน หากไม่แจ้งสิทธิบังคับจำนองไม่สมบูรณ์ และปัญหาอำนาจฟ้องเป็นเรื่องความสงบเรียบร้อย
กฎหมายจะรับรองให้ผู้รับจำนองมีสิทธิบังคับจำนองได้ต่อเมื่อผู้รับจำนองได้มีจดหมายบอกกล่าวไปยังลูกหนี้เสียก่อนและลูกหนี้ละเลยไม่ปฏิบัติตาม ฉะนั้นเมื่อโจทก์จะแสวงหาสิทธิ"บังคับจำนอง"โจทก์ก็จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดเสียก่อน
การฟ้องคดีต่อศาลเป็นอำนาจฟ้องตามกฎหมาย และปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้อง แม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นก็ยกขึ้นในศาลอุทธรณ์ได้ เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 405/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับจำนองต้องแจ้งหนี้ให้ลูกหนี้ก่อน หากไม่แจ้งสิทธิบังคับจำนองไม่มีผล และปัญหาอำนาจฟ้องเป็นความสงบเรียบร้อย
กฎหมายจะรับรองให้ผู้รับจำนองมีสิทธิบังคับจำนองได้ต่อเมื่อผู้รับจำนองได้มีจดหมายบอกกล่าวไปยังลูกหนี้เสียก่อนและลูกหนี้ละเลยไม่ปฏิบัติตามฉะนั้น เมื่อโจทก์จะแสวงหาสิทธิ 'บังคับจำนอง' โจทก์ก็จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดเสียก่อน
การฟ้องคดีต่อศาลเป็นอำนาจฟ้องตามกฎหมายและปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้อง แม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นก็ยกขึ้นในศาลอุทธรณ์ได้เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 297/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: ความเสียหายต้องเกิดจากการกระทำโดยตรงต่อโจทก์ ไม่ใช่เพียงผลกระทบต่อคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องคดีแพ่งเรียกเงินจากจำเลย ถึงวันนัดสืบพยานจำเลย จำเลยขอเลื่อนอ้างว่าป่วยโจทก์คัดค้าน ศาลจึงให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ศาลไปตรวจอาการจำเลย ปรากฏผลว่าไม่ได้ป่วยศาลจึงตัดไม่ให้สืบจำเลยเป็นพยาน จำเลยจึงร้องคัดค้านคำสั่งศาลว่า จำเลยป่วยมาศาลไม่ได้จริง ๆ ขอให้ศาลไต่สวนและเพิกถอนคำสั่งที่ให้ตัดการสืบตัวจำเลยเสีย ศาลไต่สวนแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานจำเลยไม่พอฟังลบล้างคำของเจ้าหน้าที่ศาลและนายแพทย์ผู้ตรวจอาการจำเลยได้ ให้ยกคำร้องเสีย โจทก์จึงมาฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาฐานเบิกความเท็จ แสดงหลักฐานเท็จ ดังนี้ เห็นได้ว่า การที่จำเลยเข้าเบิกความและแสดงหลักฐานต่อศาลนั้น ก็เพียงให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้ตัดการสืบตัวจำเลยเพื่อจำเลยจะได้มีโอกาสในการต่อสู้คดีให้เต็มที่เท่านั้น ไม่ใช่เป็นการกล่าวหาว่าโจทก์กระทำผิดอันจะเป็นความเสียหายแก่โจทก์ในตัว ถึงแม้จะเป็นการกระทำในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินจำเลยก็ตาม ศาลก็มิได้เชื่อถ้อยคำจำเลย ไม่ได้เพิ่มภาระในการพิสูจน์ในการดำเนินคดีนั้นให้แก่โจทก์แต่อย่างใด ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 297/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: ความเสียหายโดยตรงจากการเบิกความเท็จต่อศาล
โจทก์ฟ้องคดีแพ่งเรียกเงินจากจำเลย ถึงวันนัดสืบพยานจำเลย จำเลยขอเลื่อนอ้างว่าป่วย โจทก์คัดค้านศาลจึงให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ศาลไปตรวจอาการจำเลยปรากฏผลว่าไม่ได้ป่วย ศาลจึงตัดไม่ให้สืบจำเลยเป็นพยาน จำเลยจึงร้องคัดค้านคำสั่งศาลว่า จำเลยป่วยมาศาลไม่ได้จริงๆ ขอให้ศาลไต่สวนและเพิกถอนคำสั่งที่ให้ตัดการสืบตัวจำเลยเสียศาลไต่สวนแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานจำเลยไม่พอฟังลบล้างคำของเจ้าหน้าที่ศาลและนายแพทย์ผู้ตรวจอาการจำเลยได้ให้ยกคำร้องเสีย โจทก์จึงมาฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาฐานเบิกความเท็จ แสดงหลักฐานเท็จ ดังนี้ เห็นได้ว่าการที่จำเลยเข้าเบิกความและแสดงหลักฐานต่อศาลนั้นก็เพียงให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้ตัดการสืบตัวจำเลยเพื่อจำเลยจะได้มีโอกาสในการต่อสู้คดีให้เต็มที่เท่านั้นไม่ใช่เป็นการกล่าวหาว่าโจทก์กระทำผิดอันจะเป็นความเสียหายแก่โจทก์ในตัวถึงแม้จะเป็นการกระทำในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินจำเลยก็ตามศาลก็มิได้เชื่อถ้อยคำจำเลยไม่ได้เพิ่มภาระในการพิสูจน์ในการดำเนินคดีนั้นให้แก่โจทก์แต่อย่างใด ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีและการแต่งทนายที่ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับบริษัท ทำให้การดำเนินคดีเป็นโมฆะ
เมื่อข้อบังคับของบริษัทระบุว่า ในการลงชื่อทำการแทนบริษัทต้องมีกรรมการ 2 คนลงชื่อ แต่บริษัทโจทก์ฟ้องโดยมีกรรมการคนเดียวลงชื่อแต่งทนาย เมื่อจำเลยตัดฟ้องว่ากรรมการผู้เดียวไม่มีอำนาจ กรรมการสองคนของบริษัทโจทก์ยื่นคำร้องขอให้สัตยาบันการกระทำของทนายโจทก์และเพียงแต่ขอให้ศาลทราบไว้เท่านั้น ไม่แต่งทนายเข้ามาใหม่ให้ถูกต้อง อำนาจดำเนินคดีของทนายโจทก์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยกรรมการผู้เดียวยังคงบกพร่องไม่สมบูรณ์อยู่เช่นเดิม ศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง
of 452