พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,231 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการป้องกันความเสียหายต่อทรัพย์สิน: การปิดกั้นผักตบชะวาเพื่อรักษาประโยชน์ในการจับปลา ไม่เป็นการละเมิด
ผักตบชะวาอยู่ในหนองแห่งหนึ่ง จำเลยปิดกั้นที่หนองอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหนองเอกชน เพื่อป้องกันมิให้ผักตบชะวา ในหนองแห่งแรก ไหลเข้าหนองที่จำเลยปิดกั้น ถ้าจำเลยไม่ทำอย่างนี้ผักตกชะวาจะเป็นอุปสรรคไม่ให้การจับปลา ในหนองที่จำเลยปิดกั้นลุล่วง ย่อมถือว่าจำเลยรักษาประโยชน์ในหนองที่ปิดกั้น จึงมีสิทธิจะปิดกั้น และการใช้สิทธิ ของจำเลยนี้เพื่อประโยขน์การงานของจำเลยโดยตรงการกระทำของจำเลยจึงไม่ใช่การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสีย หายแก่ผู้อื่น จึงไม่เป็นการละเมิด./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการปิดกั้นทางน้ำเพื่อประโยชน์การงาน: การกระทำไม่ถือเป็นการละเมิดหากมีเหตุผลและความจำเป็น
ผักตบชะวาอยู่ในหนองแห่งหนึ่ง จำเลยปิดกั้นที่หนองอีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นหนองเอกชน เพื่อป้องกันมิให้ผักตบชะวาในหนองแห่งแรก ไหลเข้าหนองที่จำเลยปิดกั้น ถ้าจำเลยไม่ทำอย่างนี้ผักตบชะวาจะเป็นอุปสรรคไม่ให้การจับปลาในหนองที่จำเลยปิดกั้นลุล่วง ย่อมถือว่าจำเลยรักษาประโยชน์ในหนองที่ปิดกั้น จึงมีสิทธิจะปิดกั้น และการใช้สิทธิของจำเลยนี้เพื่อประโยชน์การงานของจำเลยโดยตรง การกระทำของจำเลยจึงไม่ใช่การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่ผู้อื่น จึงไม่เป็นการละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์: การครอบครองโดยบุตรเขยถือเป็นการครอบครองของผู้เป็นเจ้าของ
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทโจทก์และบุตรครอบครองตลอดมา แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่า โจทก์ให้บุตรเขยดูแลรักษาครอบครองที่พิพาทก็ถือเท่ากับโจทก์เป็นผู้ใช้สิทธิครอบครองอันได้สิทธิเป็นเจ้าของที่พิพาทนั่นเองไม่เป็นการแตกต่างกับฟ้องศาลย่อมพิพากษาให้ที่พิพาทเป็นของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าสิ้นสุดจากเหตุอายัดทรัพย์ และสิทธิของผู้เช่าช่วง
สัญญาเช่ามีเงื่อนไขข้อหนึ่งว่าถ้าสถานที่เช่าหรือสิ่งของที่อยู่ในสถานที่เช่าถูกอายัดหรือถูกยึดตามคำสั่งของศาลก็ดี ฯลฯ ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังว่ามานี้ ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าเข้ายึดปกครองสถานที่เช่าได้ทันที และจัดการต่อไปตามที่เห็นสมควร ฯลฯ ข้อความดังนี้เป็นอันชัดว่าผู้เช่าได้สัญญาเลิกใช้และรับประโยชน์ในสถานที่เช่านั่นเอง เท่ากับเป็นเงื่อนไขให้สัญญาเช่าสิ้นสุดลง เมื่อมีการถูกอายัดตามเงื่อนไขดังกล่าว ผู้ให้เช่าจึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าตามเงื่อนไขนั้นได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 545 ที่บัญญัติให้ผู้เช่าช่วงต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรงนั้น เป็นแต่เรื่องให้รับผิดตามหน้าที่ของผู้เช่า กฎหมายมิได้บังคับให้ผู้ให้เช่าต้องรับผิดต่อผู้เช่าช่วงอย่างใดไม่ อีกนัยหนึ่งผู้เช่าช่วงแม้จะเป็นไปโดยชอบ ก็หาอาจกลายมาเป็นผู้เช่าอีกคนหนึ่งไม่
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นแม้จะได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนไว้ คู่สัญญาก็ตกลงกันเป็นหนังสือเพิกถอนสัญญาเช่านั้นได้ เพราะเป็นสัญญาที่ตกลงกันระหว่างบุคคลเป็นบุคคลสิทธิคู่กรณีย่อมตกลงเลิกสัญญาเช่าเมื่อใดๆ ก็ได้โดยไม่ต้องจดทะเบียน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 545 ที่บัญญัติให้ผู้เช่าช่วงต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรงนั้น เป็นแต่เรื่องให้รับผิดตามหน้าที่ของผู้เช่า กฎหมายมิได้บังคับให้ผู้ให้เช่าต้องรับผิดต่อผู้เช่าช่วงอย่างใดไม่ อีกนัยหนึ่งผู้เช่าช่วงแม้จะเป็นไปโดยชอบ ก็หาอาจกลายมาเป็นผู้เช่าอีกคนหนึ่งไม่
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นแม้จะได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนไว้ คู่สัญญาก็ตกลงกันเป็นหนังสือเพิกถอนสัญญาเช่านั้นได้ เพราะเป็นสัญญาที่ตกลงกันระหว่างบุคคลเป็นบุคคลสิทธิคู่กรณีย่อมตกลงเลิกสัญญาเช่าเมื่อใดๆ ก็ได้โดยไม่ต้องจดทะเบียน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินเช่าและเรือนที่ปลูก: การบังคับรื้อเรือนของผู้อื่น
จำเลยที่ 1 เช่าที่ดินของโจทก์ซึ่งมีเรือนปลูกอยู่ แต่ปรากฏว่าเรือนที่ปลูกไม่ใช่ของจำเลยที่ 1 เป็นของผู้มีชื่อ และจำเลยที่ 2-3 เป็นผู้เช่าเรือนพิพาทอยู่จากเจ้าของเรือน ครั้นหมดสัญญาเช่าที่ดินแล้ว โจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลยที่ 1 ให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2-3 ออกจากที่ และรื้อเรือนพิพาทไป ดังนี้ศาลย่อมพิพากษาขับไล่ตัวจำเลยที่ 1 ออกจากที่พิพาทไปได้แต่จะให้รื้อเรือนพิพาทออกไปด้วยย่อมไม่ได้เพราะเป็นเรือนของผู้อื่นซึ่งโจทก์มิได้ฟ้องผู้นั้นด้วย จึงยังไม่มีใครชี้ว่าเจ้าของเรือนพิพาทมีอำนาจที่จะคงปลูกเรือนพิพาทอยู่ในที่ของโจทก์หรือไม่ และจะบังคับให้จำเลยที่ 2-3 ซึ่งเป็นผู้เช่าเรือนพิพาทจากเจ้าของเรือนให้ออกไปจากเรือน ก็ไม่ได้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินจากการครอบครองหลังสัญญาขายฝากเป็นโมฆะ แม้มีกำหนดเวลาชัดเจน การครอบครองนานเกิน 6 ปีทำให้ได้สิทธิ
ทำสัญญาขายฝากที่นามือเปล่ากันเอง มีข้อความว่า มีกำหนด6 เดือนขาดนั้นแม้สัญญาจะเป็นโมฆะเพราะไม่ทำตามแบบก็ดีแต่ตามสัญญาที่ปรากฏว่าได้มีกำหนดไว้ชัดว่า 6 เดือนขาดซึ่งหมายความว่า ผู้ขายฝากยอมสละสิทธิในที่พิพาทให้เป็นของผู้รับซื้อฝากเมื่อครบ 6 เดือนแล้วฉะนั้น เมื่อที่นาพิพาทเป็นที่นามือเปล่าและฝ่ายผู้รับซื้อฝากก็ได้ครอบครองอย่างเป็นที่ของตนนานเกินกว่า6 ปีแล้ว ผู้ซื้อฝากก็ย่อมได้สิทธิในที่พิพาท เพราะการครอบครองตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 405/2493
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อุทธรณ์ในชั้นอุทธรณ์ทำให้หมดสิทธิฎีกา และการพิจารณาเฉพาะส่วนที่อุทธรณ์
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยหลายคน จำเลยบางคนอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ยืน จำเลยที่ไม่อุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินหลังจำนอง: สิทธิของผู้จำนองยังคงอยู่ หากผู้รับจำนองไม่แสดงเจตนาครอบครองในฐานะเจ้าของ
จำนองที่ดินไว้แก่เขาแล้ว ไม่มีเงินจะเสียดอกเบี้ยให้ จึงมอบนา (มีโฉนด) ที่จำนองให้ผู้รับจำนองทำต่างดอกเบี้ย ส่วนตนเองอพยพไปทำกินที่อื่น แม้จะปรากฎว่านาที่จำนองถูกทางอำเภอยึดไปเพื่อจะขายทอดตลาดเอาเงินชำระ อากรค่านาที่ค้างชำระผู้รับจำนองจึงต้องเอาเงินไปชำระค่าอากรที่ค้าง ทางอำเภอจึงมอบนานั้นให้ผู้รับจำนอง ผู้รับจำนองคงครอบครองต่อมากว่า 10 ปีก็ดี ก็ไม่ทำให้อำนาจครอบครองของผู้รับจำนองเปลี่ยนไปจากเดิม ผู้จำนอง ยังมีสิทธิขอไถ่จำนองได้ เพราะถ้าผู้รับตจำนองรับนามาจากอำเภอแล้ว จะครอบครองเอานาอย่างเป็นเจ้าของ ผู้รับจำนอง ตนไม่เจตนาจะครอบครองแทนผู้จำนองต่อไป ดังที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1381 หรือมิฉะนั้น ก็ต้องบังคับจำนอง การครอบครองใหม่ในฐานะเป็นเจ้าของจึงจะมีขึ้นได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบอกล้างสัญญาที่ทำระหว่างสามีภริยา และข้อยกเว้นเรื่องอายุความ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1461 ระบุไว้ว่าสัญญาใดที่สามีภริยาทำไว้ต่อกันในระหว่างเป็นสามีภริยานั้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะบอกล้างเสียก็ได้กฎหมายระบุคำว่าสัญญาที่ทำกันไว้ลอยๆ จึงย่อมมีความหมายว่าสัญญาใดๆ ที่ทำไว้ต่อกันไม่ว่าจะเป็นสัญญาที่จะต้องปฏิบัติกันต่อไปอีกหรือไม่ ก็ย่อมอยู่ในขอบข่ายที่จะบอกล้างได้ตามความในมาตรา 1461 ได้ทั้งสิ้น
และตามมาตรา 1461 นี้ ระบุให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบอกล้างสัญญาที่ทำไว้ต่อกันได้ในเวลาใดๆ ในระหว่างที่เป็นสามีภรรยากันอยู่หรือภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันขาดจากสามีภริยากันฉะนั้นแม้จะทำสัญญายกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่กันเกิน 10 ปีแล้ว แต่มาบอกล้างสัญญานั้นเสียภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากัน คดีก็ยังไม่ขาดอายุความ
และตามมาตรา 1461 นี้ ระบุให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบอกล้างสัญญาที่ทำไว้ต่อกันได้ในเวลาใดๆ ในระหว่างที่เป็นสามีภรรยากันอยู่หรือภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันขาดจากสามีภริยากันฉะนั้นแม้จะทำสัญญายกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่กันเกิน 10 ปีแล้ว แต่มาบอกล้างสัญญานั้นเสียภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากัน คดีก็ยังไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งรับอุทธรณ์ใหม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จำเลยไม่มีสิทธิฎีกา
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์โดยอ้างว่า ไม่แก้ไขอุทธรณ์ตามคำสั่งจนเลยกำหนดเวลาแล้วนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ยื่นอุทธรณ์ที่แก้ไขใหม่ภายในกำหนดเวลา จึงยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นตรวจสั่งอุทธรณ์ของโจทก์ที่ยื่นมาใหม่นั้นถือว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์จำเลยจะฎีกาทันทีไม่ได้