พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบียดบังทรัพย์สิน: จำเลยไม่ได้รับเงินค่ารถยนต์จากผู้ซื้อ จึงไม่สามารถเบียดบังได้ ไม่เป็นความผิดฐานยักยอก
จำเลยกับสามีจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ก. ได้นำรถยนต์ของผู้เสียหายไปขายให้บริษัท น. บริษัท น. ไม่ได้จ่ายเงินค่ารถยนต์ให้แก่ร้าน ก. แต่ได้หักหนี้ที่ร้าน ก. เป็นหนี้บริษัท น. อยู่ ดังนี้ จำเลยมิได้รับเงินค่ารถยนต์จากบริษัท น.ไว้แทนผู้เสียหายเลย จำเลยจึงไม่อาจเบียดบังเอาเงินดังกล่าวได้การที่จำเลยไม่ยอมชำระเงินค่ารถยนต์แก่ผู้เสียหาย ไม่เป็นความผิดฐานยักยอก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 546/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินกรรมสิทธิ์รวม และผลต่อการครอบครองปรปักษ์หลังแบ่งแยก
ที่ดินกรรมสิทธิ์รวมที่ยังมิได้มีการแบ่งแยกการครอบครองเป็นสัดส่วนนั้น เจ้าของรวมคนหนึ่งครอบครองที่ดินส่วนใด ย่อมถือว่าครอบครองแทนเจ้าของรวมคนอื่นด้วย จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการครอบครองอย่างเป็นเจ้าของตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382เมื่อต่อมาได้ มีการจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินดังกล่าวให้แก่เจ้าของรวมแต่ละคนเป็นสัดส่วนแล้ว ระยะเวลาการครอบครองปรปักษ์จึงจะเริ่มนับตั้งแต่ มีการแบ่งแยกกันนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5087/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแทนและการบอกกล่าวเปลี่ยนแปลงลักษณะการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381
น. สามีจำเลยครอบครองที่พิพาทแทนโจทก์ผู้เป็นเจ้าของเมื่อ น.ตายจำเลยครอบครองต่อมาถือว่าเป็นการครอบครองแทนโจทก์ การที่ น. ไปแจ้งขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดินพิพาททั้งสองแปลงยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกกล่าวแสดงเจตนาเปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ฉะนั้นแม้ น.และจำเลยจะทำประโยชน์ในที่พิพาทมาช้านานเพียงไรก็ไม่ได้สิทธิครอบครอง โจทก์เรียกร้องให้คืนที่พิพาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5039-5041/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งสิทธิในที่ดินโดยการนำชี้ทำแผนที่ ถือเป็นการโต้แย้งสิทธิของเจ้าของเดิม
การที่จำเลยนำชี้ให้เจ้าพนักงานศาลทำแผนที่พิพาทในคดีอื่นว่าที่ดินพิพาทในคดีนี้เป็นของจำเลยและมรดกของสามีจำเลยคนละครึ่งนั้น การกระทำของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4548/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์: แม้ครอบครองนานกว่า 10 ปี แต่ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ หากมิได้เปลี่ยนลักษณะการครอบครอง
ผู้ร้องทั้งสี่และ ส. เป็นเจ้าของที่ดินมีโฉนดโดยได้ครอบครองร่วมกันตลอดมา ส.มีบุตร2คนเมื่อส.ตาย ผู้ร้องที่ 1 ได้เลี้ยงดูบุตรทั้งสองของ ส. โดยอยู่ในความรู้เห็นของผู้ร้องที่ 2 ถึงที่ 4 จึงถือได้ว่าผู้ร้องทั้งสี่ครอบครองที่ดินส่วนของ ส.ไว้แทนบุตรทั้งสองของส. เมื่อบุตร 2 คนของส. หนีออกจากบ้านไป ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องทั้งสี่ได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองเป็นครอบครองเพื่อตน ดังนั้น แม้ผู้ร้องทั้งสี่จะครอบครองที่ดินดังกล่าวเป็นเวลาถึง 10 ปี ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4548/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์: ผู้ครอบครองต้องเปลี่ยนลักษณะการครอบครองเป็นเพื่อตน จึงจะเกิดกรรมสิทธิ์
ผู้ร้องทั้งสี่และ ส. เป็นเจ้าของที่ดินมีโฉนดโดยได้ครอบครองร่วมกันตลอดมา ส. มีบุตร2คนเมื่อ ส. ตายผู้ร้องที่ 1 ได้เลี้ยงดูบุตรทั้งสองของ ส. โดยอยู่ในความรู้เห็นของผู้ร้องที่ 2 ถึงที่ 4 จึงถือได้ว่าผู้ร้องทั้งสี่ครอบครองที่ดินส่วนของ ส. ไว้แทนบุตรทั้งสองของ ส. เมื่อบุตร2คนของ ส.หนีออกจากบ้านไปไม่ปรากฏว่าผู้ร้องทั้งสี่ได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองเป็นครอบครองเพื่อตน ดังนั้น แม้ผู้ร้องทั้งสี่จะครอบครองที่ดินดังกล่าวเป็นเวลาถึง 10 ปี ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4464-4466/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ในที่ดินมรดก: การครอบครองร่วมกับผู้มีสิทธิอื่น ไม่อาจอ้างเป็นเจ้าของได้
ผู้ร้องเข้าครอบครองและปลูกบ้านในที่ดินโดยผู้ร้องมีสิทธิในที่ดินมรดกร่วมกับผู้คัดค้านและบุตรคนอื่น ๆ อันเป็นการครอบครองที่ดินมรดกที่ยังไม่ได้แบ่งร่วมกัน ยังถือไม่ได้ว่าผู้ร้องเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ดังนี้ ผู้ร้องจะได้ครอบครองนานเพียงใด ผู้ร้องก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการขาดเจตนาในความผิดฐานบุกรุก กรณีผู้ครอบครองเข้าใจโดยสุจริตว่ามีสิทธิ
โจทก์ร่วมได้ไปศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่กรุงเทพมหานคร มิได้ทำประโยชน์ในที่พิพาท การที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 เข้าปลูกบ้านและทำกินในที่พิพาทกับนาย ส. บิดาโจทก์ร่วมมาช้านานเป็นพฤติการณ์ที่ทำให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 เข้าใจโดยสุจริตว่ามีสิทธิที่จะอยู่และทำกินในที่พิพาทต่อไปได้จึงขาดเจตนาอันเป็นองค์ประกอบความผิดทางอาญา เมื่อศาลฎีกาพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ร่วม และโจทก์ร่วมได้ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ออกจากที่พิพาทแล้ว แต่จำเลยที่ 1 ที่ 2และที่ 3 เพิกเฉยเสียไม่ยอมออกจากที่พิพาท ก็อาจเป็นเรื่องที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 อยู่ในที่พิพาทโดยละเมิดต่อโจทก์ร่วม หาใช่เป็นความผิดฐานบุกรุกดังทีโจทก์กล่าวฟ้องไม่.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4092-4093/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แบ่งกรรมสิทธิ์รวม: แม้ยังตกลงกันไม่ได้ แต่ความประสงค์จะแบ่งมีอยู่ ศาลสั่งแบ่งตามการครอบครอง
โจทก์และจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมกันในที่ดินแปลงหนึ่งต่างฟ้องกันขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวมตามทิศทางที่อ้างว่าได้ตกลงแบ่งกรรมสิทธิ์รวมในที่พิพาทเป็นส่วนสัดแล้ว แม้จะได้ความว่าโจทก์จำเลยยังมิได้ตกลงแบ่งกรรมสิทธิ์รวมเป็นส่วนสัดกันอันมิได้เป็นไปตามข้ออ้างในคำฟ้องของแต่ละฝ่ายก็ตาม การที่โจทก์และจำเลยต่างยื่นฟ้องขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวมก็เท่ากับมีความประสงค์จะแบ่งที่พิพาทแล้วจึงแบ่งที่พิพาทให้ตามที่แต่ละฝ่ายมีสิทธิ์ได้
โจทก์จำเลยต่างปลูกบ้านเรือนไว้บนที่พิพาท การแบ่งกรรมสิทธิ์รวมศาลย่อมให้แบ่งตามส่วนที่แต่ละฝ่ายและตามทิศทางที่ต่างได้ครอบครอง ทั้งนี้เพื่อมิให้เกิดความเสียหายจากการแบ่งกัน หากไม่ตกลงกัน จึงให้ขายโดยประมูลราคากันเองหรือขายทอดตลาด
โจทก์จำเลยต่างปลูกบ้านเรือนไว้บนที่พิพาท การแบ่งกรรมสิทธิ์รวมศาลย่อมให้แบ่งตามส่วนที่แต่ละฝ่ายและตามทิศทางที่ต่างได้ครอบครอง ทั้งนี้เพื่อมิให้เกิดความเสียหายจากการแบ่งกัน หากไม่ตกลงกัน จึงให้ขายโดยประมูลราคากันเองหรือขายทอดตลาด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4092-4093/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แบ่งกรรมสิทธิ์รวม: ศาลสั่งแบ่งตามการครอบครองและสิทธิ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย
โจทก์และจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมกันในที่ดินแปลงหนึ่งต่างฟ้องกันขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวมตามทิศทางที่อ้างว่าได้ตกลงแบ่งกรรมสิทธิ์รวมในที่พิพาทเป็นส่วนสัดแล้ว แม้จะได้ความว่าโจทก์จำเลยยังมิได้ตกลงแบ่งกรรมสิทธิ์รวมเป็นส่วนสัดกันอันมิได้เป็นไปตามข้ออ้างในคำฟ้องของแต่ละฝ่ายก็ตาม การที่โจทก์และจำเลยต่างยื่นฟ้องขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวมก็เท่ากับมีความประสงค์จะแบ่งที่พิพาทแล้วจึงแบ่งที่พิพาทให้ตามที่แต่ละฝ่ายมีสิทธิ์ได้ โจทก์จำเลยต่างปลูกบ้านเรือนไว้บนที่พิพาท การแบ่งกรรมสิทธิ์รวมศาลย่อมให้แบ่งตามส่วนที่แต่ละฝ่ายและตามทิศทางที่ต่างได้ครอบครอง ทั้งนี้เพื่อมิให้เกิดความเสียหายจากการแบ่งกัน หากไม่ตกลงกัน จึงให้ขายโดยประมูลราคากันเองหรือขายทอดตลาด.