คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ขาดนัด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 616 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีแรงงานใหม่หลังขาดนัด - เงื่อนไขและข้อยกเว้นตามกฎหมาย
คำสั่งของศาลแรงงานกลางที่สั่งอนุญาตตามคำขอให้พิจารณาใหม่เกิดขึ้นภายหลังคำพิพากษา จึงมิใช่คำสั่งระหว่างพิจารณา คู่ความมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้ ศาลฎีกาได้มีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับคำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 1 ว่า เป็นคำขอที่ได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่คู่ความขาดนัดและข้อคัดค้านคำชี้ขาดตัดสินของศาลแรงงานกลางแล้วโจทก์จะยกปัญหาที่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยเป็นที่ยุติไปดังกล่าวแล้วขึ้นมาอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาอีกไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 144ประกอบด้วย พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 31 จำเลยที่ 1 เดินทางไปต่างประเทศก่อนถูกฟ้องและไม่เคยกลับเข้ามาประเทศไทยอีกเลย จำเลยที่ 1 ย่อมไม่สามารถแถลงขอให้ศาลพิจารณาใหม่ภายในกำหนดเจ็ดวันตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 41 เมื่อจำเลยที่ 1มิได้จงใจขาดนัด ศาลแรงงานกลางย่อมมีอำนาจที่จะให้จำเลยที่ 1 ได้พิจารณาใหม่ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 208 และ 209 ประกอบด้วยพ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 จำเลยที่ 1 ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทยไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนที่โจทก์จะฟ้องคดีและมิได้เดินทางกลับมาประเทศไทยอีกเลยเมื่อเจ้าพนักงานศาลไปปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องที่บ้านพักของจำเลยที่ 1 บุตรสาวของจำเลยที่ 1 ได้พยายามที่จะส่งสำเนาคำฟ้องไปให้จำเลยที่ 1 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้ยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานกลางเพื่อขอเลื่อนการพิจารณาไปก่อน แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 มิได้จงใจที่จะขาดนัด ศาลแรงงานกลางเชื่อ ตามทางไต่สวนของจำเลยที่ 1 ว่าจำเลยที่ 1 มิได้จงใจขาดนัด โจทก์จะอุทธรณ์โต้เถียง ดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานดังกล่าวไม่ได้ เป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งพิจารณาใหม่คดีแรงงาน: การขาดนัด-เหตุจำเป็น-การอุทธรณ์คำสั่ง
คำสั่งของศาลแรงงานกลางที่สั่งอนุญาตตามคำขอให้พิจารณาใหม่เกิดขึ้นภายหลังคำพิพากษา จึงมิใช่คำสั่งระหว่างพิจารณา คู่ความมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้
ศาลฎีกาได้มีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับคำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 1 ว่า เป็นคำขอที่ได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่คู่ความขาดนัดและข้อคัดค้านคำชี้ขาดตัดสินของศาลแรงงานกลางแล้วโจทก์จะยกปัญหาที่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยเป็นที่ยุติไปดังกล่าวแล้ว ขึ้นมาอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 ประกอบด้วย พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31
จำเลยที่ 1 เดินทางไปต่างประเทศก่อนถูกฟ้องและไม่เคยกลับเข้ามาประเทศไทยอีกเลย จำเลยที่ 1 ย่อมไม่สามารถแถลงขอให้ศาลพิจารณาใหม่ภายในกำหนดเจ็ดวันตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 41 เมื่อจำเลยที่ 1 มิได้จงใจขาดนัด ศาลแรงงานกลางย่อมมีอำนาจที่จะให้จำเลยที่ 1 ได้พิจารณาใหม่ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 และ 209 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีจากความผิดพลาดของเสมียนทนาย ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย มิอาจเพิกถอนคำสั่งได้
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดี และเสมียนทนายได้ลงชื่อทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งใหม่ไว้แล้ว การที่เสมียนทนายจดวันนัดผิดพลาดเป็นเหตุให้โจทก์ไม่มาศาลตามนัด และศาลสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและสั่งจำหน่ายคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 201 ดังนี้ศาลมิได้สั่งไปโดยผิดหลงและมิได้ดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ ผิดระเบียบอันโจทก์จะขอให้เพิกถอนเสียได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากโจทก์ขาดนัดพิจารณา และความรับผิดของเสมียนทนายในการจดวันนัด
วันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีและเสมียนทนายได้ลงชื่อทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งใหม่ไว้แล้ว หากเสมียนทนายจะจดวันนัดผิดพลาดก็เป็นเรื่องของโจทก์เองการสั่งจำหน่ายคดีของศาลชั้นต้นเป็นการปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 มิได้สั่งไปโดยผิดหลง และมิได้ดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ ผิดระเบียบ โจทก์ขอให้ศาลเพิกถอนไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4112/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดี: จำเลยมาถึงศาลก่อนเวลา แต่ไม่ถูกเรียกเข้าห้องพิจารณา ถือไม่ได้ว่าจงใจขาดนัด
จำเลยและพยานมาถึงศาลในวันสืบพยานก่อนเวลานัดของศาลโดยนั่งรออยู่นอกห้องพิจารณาทั้งไม่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ได้เรียกจำเลยเข้าห้องพิจารณาแต่จำเลยจงใจขัดขืนไม่เข้าห้องพิจารณาจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยจงใจขาดนัดพิจารณาคดีมีเหตุสมควรอนุญาตให้พิจารณาใหม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3933/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดี: ศาลต้องไต่สวนเหตุผลก่อนมีคำสั่งตัดสิน
โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยขอให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปโดยไม่ติดใจสืบพยาน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและนัดฟังคำพิพากษา ก่อนถึงวันนัดฟังคำพิพากษา 1 วัน โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่อ้างว่าไม่จงใจขาดนัดพิจารณา ดังนี้การพิจารณายังไม่เสร็จสิ้นอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีฝ่ายเดียว ศาลชั้นต้นชอบที่จะดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสอง ให้ได้ความว่าการขาดนัดของโจทก์เป็นไปโดยจงใจหรือมีเหตุอันสมควรหรือไม่ การที่ศาลชั้นต้นไม่ทำการไต่สวนแต่มีคำสั่งว่าให้โจทก์ยื่นคำร้องเข้ามาเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณา ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนก็เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาจึงต้องพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องของโจทก์ แล้วมีคำสั่งและคำพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3933/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีและการไต่สวนเหตุผล ศาลต้องพิจารณาเหตุผลการขาดนัดก่อนมีคำพิพากษา
โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยขอให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปโดยไม่ติดใจสืบพยาน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ขาดนัดพิจารณาและนัดฟังคำพิพากษา ก่อนถึงวันนัดฟังคำพิพากษา 1 วัน โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่อ้างว่าไม่จงใจขาดนัดพิจารณา ดังนี้การพิจารณายังไม่เสร็จสิ้นอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีฝ่ายเดียว ศาลชั้นต้นชอบที่จะดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสอง ให้ได้ความว่าการขาดนัดของโจทก์เป็นไปโดยจงใจหรือมีเหตุอันสมควรหรือไม่ การที่ศาลชั้นต้นไม่ทำการไต่สวนแต่มีคำสั่งว่า ให้โจทก์ยื่นคำร้องเข้ามาเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตาม บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณา ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนก็เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาจึงต้องพิพากษายก คำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้อง ของโจทก์ แล้วมีคำสั่งและคำพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3933/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีและการพิจารณาคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ ศาลต้องไต่สวนเพื่อวินิจฉัยเหตุผลที่แท้จริง
โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์จำเลยขอให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปโดยไม่ติดใจสืบพยานศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและนัดฟังคำพิพากษาก่อนถึงวันนัดฟังคำพิพากษา1วันโจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่อ้างว่าไม่จงใจขาดนัดพิจารณาดังนี้การพิจารณายังไม่เสร็จสิ้นอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีฝ่ายเดียวศาลชั้นต้นชอบที่จะดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา205วรรคสองให้ได้ความว่าการขาดนัดของโจทก์เป็นไปโดยจงใจหรือมีเหตุอันสมควรหรือไม่การที่ศาลชั้นต้นไม่ทำการไต่สวนแต่มีคำสั่งว่าให้โจทก์ยื่นคำร้องเข้ามาเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้วจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณาที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนก็เป็นการไม่ชอบศาลฎีกาจึงต้องพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องของโจทก์แล้วมีคำสั่งและคำพิพากษาใหม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3021/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีและการรับผิดตามเช็ค: การที่จำเลยให้คำรับรองว่ารอฟังคำสั่งศาลถือว่าทราบคำสั่งแล้ว
หลังจากจำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีแล้ว จำเลยไม่ได้อยู่รอฟังคำสั่งแต่ได้ให้คำรับรองไว้ว่า ตนรอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอก็ให้ถือว่าทราบแล้ว ศาลชั้นต้นได้เกษียนสั่งในคำให้การของจำเลยในวันเดียวกันนั้นเองให้รับคำให้การจำเลยสำเนาให้โจทก์นัดพร้อมตัวความและสืบพยานโจทก์ ฯลฯ แม้เจ้าหน้าที่ศาลได้กำหนดวันสืบพยานโจทก์โดยไม่มีลายมือชื่อฝ่ายจำเลยทราบวันสืบพยานโจทก์ในบัญชีนัดพิจารณาคดีของศาลก็ตาม แต่การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ศาลที่กำหนดวันสืบพยานโจทก์นั้น ถือว่าได้กระทำหรือปฏิบัติภายใต้การกำกับดูแลหรือตามคำสั่งศาล คดีจึงถือว่าจำเลยทราบคำสั่งศาลในวันที่จำเลยยื่นคำให้การ ที่จำเลยอ้างว่าป่วยไม่ได้มาศาลก่อนที่จำเลยทราบก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังที่จำเลยทราบคำสั่งแล้ว และถือว่าจำเลยไม่มาศาลในวันสืบพยานโจทก์เป็นการจงใจขาดนัดพิจารณา
ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 จะต้องกล่าวในคำขอให้พิจารณาใหม่โดยชัดแจ้งให้เห็นว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไร คำขอให้พิจารณาใหม่ตลอดจนคำให้การของจำเลยไม่ได้กล่าวว่าโจทก์ได้รู้ความจริงว่า เช็คตามฟ้องไม่มีมูลหนี้ตามเช็ค หรือโจทก์รับโอนเช็คด้วยการคบคิดกับผู้ที่รับเช็คไว้จากจำเลยเพื่อฉ้อฉลจำเลย ไม่ได้ให้การไว้โดยชัดแจ้งว่าขณะที่โจทก์รับมอบเช็คนั้นไว้ โจทก์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยได้แจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจและมีคำสั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คนั้น คดีจึงฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบหรือรับเช็คนั้นไว้โดยสุจริต จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น แม้จะพิจารณาใหม่ จำเลยก็ไม่อาจชนะคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2890/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโต้แย้งพินัยกรรม, การขาดนัดยื่นคำให้การ, และการแบ่งสินสมรส/มรดก
แม้ผู้พิมพ์พินัยกรรมจะไม่ได้ลงชื่อในพินัยกรรมก็ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายระบุว่าพินัยกรรมนั้นไม่สมบูรณ์หรือเป็นโมฆะแต่อย่างใด การที่จำเลยถึงแก่ความตายก่อนครบกำหนดยื่นคำให้การกรณีย่อมมีเหตุที่จะต้องเลื่อนกำหนดยื่นคำให้การไปเพื่อให้ผู้ที่เข้าเป็นคู่ความแทนได้ยื่นคำให้การภายในเวลาอันสมควรการเพิกถอนคำสั่งขาดนัดยื่นคำให้การของศาลชั้นต้นจึงชอบแล้ว.
of 62