คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อต่อสู้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 347 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1143/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการสอบสวนพยานโดยไม่มีหมายเรียก และประเด็นข้อต่อสู้ที่ศาลวินิจฉัย
พนักงานสอบสวนจะดำเนินการสอบสวนพะยานโดยไม่มีหมายเรียกได้หรือไม่ฎีกาอุทธรณ์ คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ ๆ ฎีกาได้ฉะเพาะแต่ปัญหาข้อกฎหมายปัญหาที่ว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีนอกประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลยหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1606/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทโดยการกล่าวอ้างถึงประวัติชีวิตส่วนตัว การนำสืบเพื่อพิสูจน์ความจริงไม่ได้รับอนุญาต
กล่าวประจานหญิงว่าได้เคยเสียตัวกับจำเลยและชายอื่น ๆ แล้วเป็นผิดฐานหมิ่นประมาท และรื่องเช่นนี้จำเลยจะขอนำสืบว่าหญิงได้เคยเสียตัวกับจำเลยจริงเช่นนี้ศาลไม่ยอมให้สืล เพราะไม่เข้าข้อยกเว้นในมาตรา 283 ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1342/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อต่อสู้เรื่องหนี้และการคัดค้านอำนาจฟ้อง จำเลยต้องยกขึ้นในชั้นศาลชั้นต้นเท่านั้น
จำเลยถูกฟ้องเรื่องหนี้สินจำเลยจะขอหักกลบลบหนี้กับโจทก์โดยวิธีแถลงต่อศาลแต่มิได้กล่าวในคำให้การหรือทำคำร้องขอแก้หรือเพิ่มเติมคำให้การมิได้ อุทธรณ์ฎีกา จำเลยถูกฟ้องเรื่องหนี้สินจึงทำให้การว่าจำเลยไม่ทราบว่าโจทก์จะเป็นภรรยาของเจ้าหนี้จำเลยจริงหรือไม่ ในชั้นฎีกาจำเลยจะคัดค้านอำนาจฟ้องของโจทก์โดยอ้างว่าศาลมิได้ตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการมฤดกของสามีดังนี้มิได้ ต้องห้ามตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2477

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบข้อต่อสู้เรื่องถูกบังคับขู่เข็ญ จำเลยต้องพิสูจน์สถานการณ์ที่ตนตกอยู่
หน้าที่นำสืบ ผู้ใดต่อสู้ว่าตนจะไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายแล้ว มีหน้าที่ต้องนำสืบให้สมข้อต่อสู้คดีนี้จำเลยให้การต่อสู้ว่ากระทำไปโดยถูกบังคับขู่เข็ญตามมาตรา 49 นั้นเป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบให้ได้ความว่า จำเลยอยู่ในที่บังคับแลใต้อำนาจที่ไม่สามารถจะขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงได้ แลไม่มีเจตนาชั่วร้ายกระทำไปเพื่อป้องกันตัวเองหรือหรือผู้อื่นให้พ้นภยัน่ตรายอันร้ายแรงซึ่งจำเลยมิได้ก่อให้เกิดขึ้นเองแลจะป้องกันด้วยอุบานอย่างอื่นก็ไม่ได้ แลในข้อเหล่านี้ได้ทำไปโดยไม่เกินกว่าเหตุด้วย จำเลยจึงจะได้ยกเว้นโทษตาม ม.49

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 73/2474

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้แปลงสภาพ และข้อต่อสู้ที่มิได้ยกขึ้นในชั้นต้น
แปลงหนี้ อายุความ ข้อที่มิได้ยกขึ้นต่อสู้ในชั้นต้น จะมาคัดค้านในชั้นศาลศุงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2474

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผ่อนเวลาชำระหนี้ไม่ใช่การแปลงหนี้ ศาลต้องสืบพยานตามข้อต่อสู้ของจำเลย
การเปลี่ยนเวลาชำระเงินไม่ใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ ย้อนสำนวนให้ศาลเดิมสืบพะยานใหม่ ลักษณะพะยาน สืบพะยานบุคคลแก้ไขพะยานเอกสารได้เพียงไร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9076/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาต้องยกข้อต่อสู้ในชั้นต้น หากมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้ว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
แม้ปัญหาเรื่องสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (4) หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ซึ่งจำเลยมีสิทธิยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ก็ตาม แต่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยข้อเท็จจริงที่ได้มาจากการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบในศาลชั้นต้น เมื่อจำเลยมิได้ยกปัญหาข้อนี้ขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้น เป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นมิได้ดำเนินกระบวนพิจารณาและวินิจฉัยในปัญหาดังกล่าว ดังนั้น ฎีกาของจำเลยที่อ้างว่า การกระทำความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ของจำเลยคดีนี้เป็นกรรมเดียวกับความผิดในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 619/2556 ของศาลชั้นต้น และสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์คดีนี้ระงับไปเพราะคดีดังกล่าวศาลมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดลงโทษจำเลยในความผิดฐานโกงเจ้าหนี้แล้ว จึงเป็นข้อที่จำเลยไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4 และ พ.ร.บ.ให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.2520 มาตรา 3
ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายเพราะมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น ในการวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวศาลฎีกาต้องย้อนไปวินิจฉัยว่าโจทก์มีส่วนร่วมกระทำความผิดกับจำเลยหรือไม่ ฎีกาของจำเลยจึงมีลักษณะเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมายที่จำเลยอ้าง อันเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและยังคงให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปี จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4 และ พ.ร.บ.ให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.2520 มาตรา 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่า: พยานหลักฐานเชื่อมโยงจำเลยกับการใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย แม้มีข้อต่อสู้
แม้โจทก์จะฟ้องจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 และจำเลยที่ 11 ถึงที่ 14 รวมกันมา โดยโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 ฐานเข้าร่วมชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปและบุคคลหนึ่งบุคคลใดถึงแก่ความตาย และบุคคลหนึ่งบุคคลใดได้รับอันตรายสาหัส และโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 11 ถึงที่ 14 ฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ฐานเข้าร่วมชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปและบุคคลหนึ่งบุคคลใดถึงแก่ความตายและบุคคลหนึ่งบุคคลใดได้รับอันตรายสาหัส แต่ก็เป็นการฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 และจำเลยที่ 11 ถึงที่ 14 แต่ละฐานความผิดโดยถือเป็นคู่ความคนละฝ่ายต่างคนต่างทำ มิใช่ผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยกัน ฉะนั้น คำเบิกความของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ที่ยืนยันว่า จำเลยที่ 12 และที่ 13 กับพวกใช้อาวุธปืนคนละกระบอกยิงจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 ที่บ้านของผู้เสียหายในวันเกิดเหตุ จึงไม่ใช่คำซัดทอดในระหว่างผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยกัน คำเบิกความของจำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงนำมารับฟังเพื่อหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์และพยานหลักฐานของจำเลยที่ 12 และที่ 13 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8654/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องขาดอายุความ, สิทธิทายาท, สัญญาซื้อขาย, สินสมรส, ข้อต่อสู้ของผู้ร้องสอด
คดีนี้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีโดยอาศัยสิทธิของผู้ร้องสอดเองในฐานะเป็นคู่ความฝ่ายที่สามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 57 (1) ซึ่งมาตรา 58 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้ผู้ร้องสอดที่เข้าเป็นคู่ความในคดีมีสิทธิเสมือนหนึ่งว่าตนได้ฟ้องหรือถูกฟ้องเป็นคดีเรื่องใหม่ ดังนั้น แม้จำเลยจะขาดนัดยื่นคำให้การ ก็หาเป็นการตัดสิทธิของผู้ร้องสอดในการต่อสู้คดีของโจทก์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7001/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักกลบลบหนี้ต้องไม่มีข้อต่อสู้ หากมีข้อพิพาทเรื่องหนี้ค่าเสียหาย จำเลยมิอาจหักกลบลบหนี้ได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนเงินค่าสินค้าที่โจทก์ชำระไป เนื่องจากจำเลยไม่ส่งมอบสินค้าให้แก่โจทก์ตามสัญญา จำเลยอ้างว่าโจทก์มีหนี้ค่าเสียหายที่ต้องรับผิดต่อจำเลย จากการไม่ชำระค่าสินค้าและรับมอบสินค้าทั้งหมดภายในกำหนด แต่โจทก์ปฏิเสธความรับผิด เช่นนี้ถือว่าหนี้ค่าเสียหายหรือสิทธิเรียกร้องดังกล่าวยังมีข้อต่อสู้อยู่ จำเลยมิได้ฟ้องแย้งเพื่อให้ได้ข้อยุติว่า โจทก์จะต้องรับผิดต่อจำเลยหรือไม่ เพียงใด จำเลยจึงนำหนี้ค่าเสียหายหรือสิทธิเรียกร้องดังกล่าว ซึ่งจำเลยอ้างเพียงฝ่ายเดียวมาหักกลบลบหนี้กับเงินค่าสินค้าของโจทก์ไม่ได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 344
of 35