พบผลลัพธ์ทั้งหมด 515 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นฎีกาไม่ถูกต้องตามกำหนดเวลา หากไม่วางค่าธรรมเนียมภายใน 15 วันหลังคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกาอย่างคนอนาถา ศาลไม่รับพิจารณา
จำเลยยื่นฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาต และให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องวางและชำระต่อศาลมาวางภายใน 15 วัน จำเลยฎีกาคำสั่งศาลฎีกาสั่งให้ยกคำร้อง จำเลยจึงได้นำค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกามาชำระ เมื่อจำเลยไม่วางเงินค่าธรรมเนียมภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ ย่อมถือว่าจำเลยมิได้ยื่นฎีกาให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในกำหนดเวลาจึงไม่เป็นฎีกาที่จะรับไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 251/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจบังคับคดีเป็นของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดีปฏิบัติงานตามคำสั่งศาล ไม่มีอำนาจอุทธรณ์เรื่องค่าธรรมเนียม
อำนาจเกี่ยวกับการบังคับคดีนั้นเป็นของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นแต่เพียงเจ้าพนักงานของศาลในการที่จะบังคับคดีเท่านั้น ไม่มีอำนาจจะเข้ามาเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือเป็นคู่ความได้ด้วยประการใด
เรื่องค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีในที่สุดก็อยู่ในอำนาจของศาลที่จะสั่งเรียกเก็บหรือไม่เรียกเก็บ ฉะนั้น การที่ศาลสั่งไม่เรียกเก็บ เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องปฏิบัติตาม ไม่มีสิทธิจะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งศาลในเรื่องค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี
หมายเหตุ ทับฎีกาที่ 1053/2468
เรื่องค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีในที่สุดก็อยู่ในอำนาจของศาลที่จะสั่งเรียกเก็บหรือไม่เรียกเก็บ ฉะนั้น การที่ศาลสั่งไม่เรียกเก็บ เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องปฏิบัติตาม ไม่มีสิทธิจะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งศาลในเรื่องค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี
หมายเหตุ ทับฎีกาที่ 1053/2468
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 251/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจบังคับคดีเป็นของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลในเรื่องค่าธรรมเนียม
อำนาจเกี่ยวกับการบังคับคดีนั้นเป็นของศาลเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นแต่เพียงเจ้าพนักงานของศาลในการที่จะบังคับคดีเท่านั้น ไม่มีอำนาจจะเข้ามาเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือเป็นคู่ความได้ด้วยประการใด
เรื่องค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีในที่สุดก็อยู่ในอำนาจของศาลที่จะสั่งเรียกเก็บหรือไม่เรียก ฉะนั้น การที่ศาลสั่งไม่เรียกเก็บ เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องปฏิบัติตามไม่มีสิทธิจะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งศาลในเรื่องค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี (หมายเหตุ ทับฎีกาที่ 1053/2468)
เรื่องค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีในที่สุดก็อยู่ในอำนาจของศาลที่จะสั่งเรียกเก็บหรือไม่เรียก ฉะนั้น การที่ศาลสั่งไม่เรียกเก็บ เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องปฏิบัติตามไม่มีสิทธิจะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งศาลในเรื่องค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี (หมายเหตุ ทับฎีกาที่ 1053/2468)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลเหนือค่าธรรมเนียมบังคับคดี: เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล
ค่าธรรมเนียมในการยึดทรัพย์ แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีจะเป็นผู้กำหนดและเรียกเก็บตามกฎหมายก็ตาม ถ้าไม่ตกลงกันคู่ความหรือผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีก็มีสิทธิเสนอเรื่องต่อศาล ซึ่งจะสั่งอนุญาตหรือให้ยกคำขอเสียก็ได้
อำนาจอันเกี่ยวด้วยการบังคับคดีเป็นอำนาจของศาลเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นเพียงเจ้าพนักงานของศาลเท่านั้น ย่อมไม่มีอำนาจเข้ามาเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือเป็นคู่ความได้ ฉะนั้น เมื่อศาลสั่งไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการยึดแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น จะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
อำนาจอันเกี่ยวด้วยการบังคับคดีเป็นอำนาจของศาลเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นเพียงเจ้าพนักงานของศาลเท่านั้น ย่อมไม่มีอำนาจเข้ามาเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือเป็นคู่ความได้ ฉะนั้น เมื่อศาลสั่งไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการยึดแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น จะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1859/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับชำระค่าธรรมเนียมต่ออายุใบสำคัญคนต่างด้าว แม้เป็นคนไทย สิทธิจึงไม่ถูกโต้แย้ง ไม่มีอำนาจฟ้อง
ฟ้องผู้บังคับกองตำรวจภูธร ในฐานะนายทะเบียนคนต่างด้าว อ้างว่าจำเลยบังคับให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ขอให้แสดงว่าโจทก์เป็นคนสัญชาติไทย ใบสำคัญเป็นโมฆะ ให้ห้ามจำเลยอย่าให้บังคับให้ต่ออายุเช่นนี้ แม้โจทก์จะเป็นคนไทย แต่เมื่อทางพิจารณาข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้บังคับโจทก์ให้ชำระค่าธรรมเนียมต่อายุหรือโต้แย้งสิทธิของโจทก์แต่ประการใด โจทก์ก็ยังไม่มีอำนาจฟ้องร้องขอให้บังคับจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1416/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคำร้องขอผัดผ่อนชำระค่าธรรมเนียมของโจทก์อนาถาหลังศาลมีคำสั่งให้ชำระ และผลของการไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
โจทก์ได้รับอนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถา ต่อมาถูกศาลพิพากษาให้เป็นผู้ล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้าสวมสิทธิเป็นโจทก์แทน จำเลยร้องขอให้ศาลสั่งให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมเพราะมีกองทรัพย์สินอยู่กว่า 50,000 บาทศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้โจทก์นำค่าธรรมเนียมแต่เริ่มฟ้องมาชำระภายใน 1 เดือน ในวันครบกำหนด 1 เดือนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำร้องว่า เงินในกองทรัพย์สินของโจทก์ผู้ล้มละลายมีไม่พอจะเสียค่าธรรมเนียม ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมนั้นเสียและให้โจทก์ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาได้ต่อไป คดีได้ความดังนี้ ศาลชอบที่จะได้สั่งคำร้องขอของโจทก์ในข้อจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาต่อไปนั้นเสียก่อน การที่ศาลไปถือ (ในวันรุ่งขึ้น) บัดนี้เกินกำหนดแล้ว โจทก์ไม่ชำระค่าธรรมเนียมและไม่ได้ขอผัดผ่อน ถือว่าโจทก์ไม่ดำเนินคดีตามที่ศาลสั่ง เป็นการทิ้งฟ้องและให้จำหน่ายคดีเสียนั้น จึงเป็นการไม่ชอบ
นอกจากนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156นั้นแม้ศาลจะไม่อนุญาตให้ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมมาแล้ว และไม่มีการอุทธรณ์คำสั่งนั้นภายใน 7 วันก็ตามคู่ความฝ่ายนั้นก็ยังขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่โดยเฉพาะในข้อที่ว่าตนไม่มีทรัพย์สินพอได้ดังนี้ คำสั่งให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาเสียภายใน 1 เดือนแม้โจทก์มิได้อุทธรณ์เมื่อโจทก์ก็ยังยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ในข้อที่ว่าโจทก์ไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมได้อีก ดังที่โจทก์ได้กระทำมาในคำร้องนั้นแล้ว ศาลก็ชอบที่จะได้พิจารณาและมีคำสั่งในข้อนี้ก่อน
นอกจากนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156นั้นแม้ศาลจะไม่อนุญาตให้ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมมาแล้ว และไม่มีการอุทธรณ์คำสั่งนั้นภายใน 7 วันก็ตามคู่ความฝ่ายนั้นก็ยังขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่โดยเฉพาะในข้อที่ว่าตนไม่มีทรัพย์สินพอได้ดังนี้ คำสั่งให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาเสียภายใน 1 เดือนแม้โจทก์มิได้อุทธรณ์เมื่อโจทก์ก็ยังยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ในข้อที่ว่าโจทก์ไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมได้อีก ดังที่โจทก์ได้กระทำมาในคำร้องนั้นแล้ว ศาลก็ชอบที่จะได้พิจารณาและมีคำสั่งในข้อนี้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1272/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเกินกว่ากฎหมาย ไม่ถือเป็นการเบียดบังทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอมีหน้าที่รับเรื่องราวจดทะเบียน ทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินของราษฎร ได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินจากผู้ขายเกินกว่าจำนวนที่กฎหมายกำหนดและยึดเอาส่วนเกินไว้ เงินส่วนเกินไม่ใช่เป็นเงินของทางราชการหรือของรัฐบาล จึงไม่ใช่ทรัพย์ตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147
ฉะนั้น การที่จำเลยเรียกเก็บค่าธรรมเนียม (แม้จะเกินกว่ากฎหมายกำหนด) ก็ดี การทำนิติกรรมการซื้อขายที่ดินก็ดี จึงไม่ใช่เป็นการกระทำหรือเบียดบังต่อทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147
ฉะนั้น การที่จำเลยเรียกเก็บค่าธรรมเนียม (แม้จะเกินกว่ากฎหมายกำหนด) ก็ดี การทำนิติกรรมการซื้อขายที่ดินก็ดี จึงไม่ใช่เป็นการกระทำหรือเบียดบังต่อทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1272/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานที่ดินเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเกินกว่ากฎหมาย ไม่ถือเป็นการเบียดบังทรัพย์
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอมีหน้าที่รับเรื่องราวจดทะเบียน ทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินของราษฎร ได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินจากผู้ขายเกินกว่าจำนวนที่กฎหมายกำหนดและยึดเอาส่วนเกินไว้เงินส่วนเกินไม่ใช่เป็นเงินของทางราชการหรือของรัฐบาล จึงไม่ใช่ทรัพย์ตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา147
ฉะนั้น การที่จำเลยเรียกเก็บค่าธรรมเนียม(แม้จะเกินกว่ากฎหมายกำหนด)ก็ดี การทำนิติกรรมการซื้อขายที่ดินก็ดี จึงไม่ใช่เป็นการกระทำหรือเบียดบังต่อทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147
ฉะนั้น การที่จำเลยเรียกเก็บค่าธรรมเนียม(แม้จะเกินกว่ากฎหมายกำหนด)ก็ดี การทำนิติกรรมการซื้อขายที่ดินก็ดี จึงไม่ใช่เป็นการกระทำหรือเบียดบังต่อทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 82-83/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการกำหนดระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมหลังยกคำร้องขอความเป็นอนาถา แม้มิได้อ้างอิงมาตรา 23
กรณีที่ศาลสั่งยกคำร้องไม่อนุญาตให้โจทก์ว่าความอย่างคนอนาถา และมีคำสั่ง กำหนดเวลาให้ชำระเงินค่าธรรมเนียมนั้นการกำหนดเวลาหาใช่อาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ไม่แต่เป็นการกระทำเวลาโดยอาศัยอำนาจของศาลที่มีอยู่ทั่วไป ศาลฎีกามีอำนาจกำหนดเวลาให้โจทก์นำค่าธรรมเนียมมาเสียใน ระยะเวลาอันควรได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 40/2504)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 40/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 82-83/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียมฎีกาสำหรับผู้ไม่อนาถา ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาสั่งได้ แม้เวลาเดิมสิ้นสุดแล้ว
ในกรณีที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องไม่อนุญาตให้โจทก์ฎีกาอย่างคนอนาถา และมีคำสั่งกำหนดเวลาให้ชำระเงินค่าธรรมเนียมนั้นแต่โจทก์ไม่เสียค่าธรรมเนียมตามกำหนด กลับฎีกาคำสั่งไปศาลฎีกาและศาลฎีกาได้มีคำสั่งยกคำร้องโจทก์ยืนตามศาลล่างโดยไม่ได้กำหนดเวลาให้ชำระค่าธรรมเนียมอีก ทั้งกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ชำระค่าธรรมเนียมก็สิ้นไปแล้ว ดังนี้ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้กำหนดเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมใหม่อีกศาลฎีกามีอำนาจกำหนดเวลาให้โจทก์นำค่าธรรมเนียมมาเสียในระยะเวลาอันสมควรได้