คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จำหน่าย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 632 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2852/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย แม้ไม่เป็นเจ้าของก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
การครอบครองโดยมีเจตนายึดถือเพื่อตน เป็นเรื่องการได้สิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่การมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษเป็นเรื่องความรับผิดอาญา คำว่า มีไว้ในครอบครอง พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มิได้บัญญัติให้มีความหมายพิเศษ จึงต้องถือว่ามีความหมายทั่วไป ซึ่งหมายความว่ายาเสพติดให้โทษนั้นอยู่ในความยึดถือหรือปกครองดูแลของจำเลยโดยจำเลยรู้ว่าเป็นยาเสพติดให้โทษเท่านั้น ส่วนการมีเจตนายึดถือเพื่อตนหรือไม่เพียงใดนั้นไม่ใช่ข้อพิจารณาเด็ดขาดว่าจำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษ
จำเลยรับจ้างปลิดใบกัญชาหนักเกินกว่า 10 กิโลกรัม ที่บ้านของจำเลย แม้กัญชาดังกล่าวจะไม่ใช่ของจำเลย ก็ถือได้แล้วว่าจำเลยมีกัญชาของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นผู้แบ่งบรรจุหรือรวมบรรจุกัญชาลงในถุงพลาสติกและกระสอบ จำเลยเป็นผู้ผลิตและร่วมกับผู้อื่นผลิตกัญชา แต่ไม่ได้พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานผลิตกัญชา คงลงโทษจำเลยในความผิดฐานมีกัญชาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย จึงไม่เป็นการวินิจฉัยเกินคำขอ
จำเลยให้การต่อสู้คดีในแนวเดียวกันมาตลอดตั้งแต่ถูกจับกุมจนกระทั่งถึงชั้นพิจารณาคดี คำให้การชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยจึงนับว่าเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้างมีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 217/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวความผิดหลายบท: ครอบครองเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย แม้มอบให้ผู้อื่นยังไม่สำเร็จ
จำเลยซุกซ่อนเฮโรอีนไว้ในขนมปัง แล้วนำไปมอบให้สิบเวร เพื่อมอบให้แก่ จ.ซึ่งถูกควบคุมอยู่ที่ห้องควบคุม สิบเวรได้ตรวจค้นขนมปังพบเฮโรอีนของกลางเสียก่อนยังไม่ทันได้ส่งมอบขนมปังนั้นให้แก่ จ.ดังนี้จำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยมุ่งประสงค์จะให้แก่ จ. เป็นข้อสำคัญ และเฮโรอีนของกลางมีจำนวนเดียว มิใช่มีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายขาดตอนจากการพยายามจำหน่ายจึงเป็นการกระทำกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท.(ที่มา-เนติ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2105/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการขยายความมาตรา 69 พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ วรรคสาม: เฉพาะจำหน่าย/ครอบครองเพื่อจำหน่าย
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 69 วรรคสาม ขยายความมาตรา 69 วรรคสอง เฉพาะความผิดฐานจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ซึ่งเป็นมอร์ฟีน ฝิ่น หรือโคคาอีนที่มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกินหนึ่งร้อยกรัม มิได้ขยายความมาตรา 69 วรรคหนึ่ง ด้วย
จำเลยมีฝิ่นดิบหนัก 0.2 กรัม และมูลฝิ่นหนัก 0.94 กรัมไว้ในครอบครอง จึงต้องลงโทษจำเลยตามมาตรา 69 วรรคหนึ่ง
ศาลล่างวางโทษจำเลยตามมาตรา 69 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 ซึ่งเป็นบทแก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 69 วรรคสามและวรรคสี่ด้วยนั้นไม่ถูก ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเป็นไม่ปรับบทลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2528 มาตรา 6

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2105/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความบทบัญญัติมาตรา 69 พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ: การมีไว้ในครอบครอง vs. จำหน่าย/มีไว้เพื่อจำหน่าย
ความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 ไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต กับฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายหรือจำหน่าย กฎหมายมีเจตนารมณ์ในการวางโทษหนักเบาต่างกัน โดยแยกบัญญัติไว้ในมาตรา 69 วรรคหนึ่งและวรรคสอง แห่ง พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ดังนั้นมาตรา 69 วรรค 3 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 จึงมีวัตถุประสงค์ให้ขยายความเฉพาะ ความผิดฐานจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งมอร์ฟีน คาเฟอีน รวมทั้งฝิ่นที่มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกินหนึ่งร้อยกรัม ตามมาตรา69 วรรคสองเท่านั้น การที่จำเลยมีฝิ่นดิบและมูลฝิ่นไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต จึงต้องวางอัตราโทษตามมาตรา 69 วรรคหนึ่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2105/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการปรับบทลงโทษ พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ มาตรา 69 วรรคสาม: เฉพาะจำหน่ายหรือครอบครองเพื่อจำหน่าย
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 69 วรรคสาม ขยายความมาตรา 69 วรรคสอง เฉพาะความผิดฐานจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ซึ่งเป็นมอร์ฟีน ฝิ่น หรือโคคาอีนที่มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกินหนึ่งร้อยกรัม มิได้ขยายความมาตรา 69 วรรคหนึ่ง ด้วย
จำเลยมีฝิ่นดิบหนัก 0.2 กรัม และมูลฝิ่นหนัก 0.94 กรัมไว้ในครอบครอง จึงต้องลงโทษจำเลยตามมาตรา 69 วรรคหนึ่ง
ศาลล่างวางโทษจำเลยตามมาตรา 69 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่2) พ.ศ. 2528 ซึ่งเป้นบทแก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 69 วรรคสามและวรรคสี่ด้วยนั้นไม่ถูก ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเป็นไม่ปรับบทลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่2) พ.ศ.2528 มาตรา 6

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1997/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายยาเสพติด: ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้ลงโทษฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายเพิ่ม
จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีไว้ในครอบครองซึ่งเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์จำนวน 9.247 กิโลกรัม อันมีน้ำหนักเกินกว่ายี่สิบกรัมถือได้ว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสอง และจำเลยทั้งสองมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งเฮโรอีนมีปริมาณเกินกว่าหนึ่งร้อยกรัม จึงมีความผิดต้องระวางโทษตามมาตรา 66 วรรคสอง
จำเลยที่ 1 ตกลงขายเฮโรอีนของกลางให้แก่ ส. เจ้าหน้าที่ผู้ล่อซื้อ ได้ตรวจเงินที่ซื้อเฮโรอีนจาก ส. แล้วพา ส. ไปเอาเฮโรอีนโดยเปิดท้ายรถให้ ส. ตรวจเฮโรอีนของกลางที่ขาย ส. ตรวจดูแล้วถอยออกไปส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมจำเลยที่ 1 ดังนี้ มีการตกลงซื้อขายเฮโรอีนของกลางแล้ว จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีน โดยที่เฮโรอีนที่จำเลยที่ 1 มีไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเป็นจำนวนเดียวกัน การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดกรรมเดียวกันต้องลงโทษตามกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด แต่ความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งเฮโรอีนและฐานจำหน่ายเฮโรอีนอันมีปริมาณเกินกว่าหนึ่งร้อยกรัมต้องระวางโทษเท่ากัน จำเลยที่ 1 จึงควรรับโทษฐานจำหน่ายเฮโรอีน ที่ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายอีกฐานหนึ่งนั้นยังไม่ถูกต้องและศาลฎีกาเห็นว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย สมควรแก้ไขให้ถูกต้องโดยแก้ไขถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งมิได้ฎีกาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1997/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายยาเสพติด ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้ลงโทษฐานจำหน่ายเป็นหลัก
จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีไว้ในครอบครองซึ่งเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์จำนวน 9.247 กิโลกรัมอันมีน้ำหนักเกินกว่ายี่สิบกรัมถือได้ว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสอง และจำเลยทั้งสองมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งเฮโรอีนมีปริมาณเกินกว่าหนึ่งร้อยกรัม จึงมีความผิดต้องระวางโทษตามมาตรา 66 วรรคสอง
จำเลยที่ 1 ตกลงขายเฮโรอีนของกลางให้แก่ ส. เจ้าหน้าที่ผู้ล่อซื้อ ได้ตรวจเงินที่ซื้อเฮโรอีนจาก ส.แล้วพาส. ไปเอาเฮโรอีนโดยเปิดท้ายรถให้ ส. ตรวจเฮโรอีนของกลางที่ขายส. ตรวจดูแล้วถอยออกไปส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมจำเลยที่ 1 ดังนี้ มีการตกลงซื้อขายเฮโรอีนของกลางแล้วจำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีน โดยที่เฮโรอีนที่จำเลยที่ 1 มีไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเป็นจำนวนเดียวกันการกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดกรรมเดียวกันต้องลงโทษตามกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด แต่ความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งเฮโรอีนและฐานจำหน่ายเฮโรอีนอันมีปริมาณเกินกว่าหนึ่งร้อยกรัมต้องระวางโทษเท่ากัน จำเลยที่ 1 จึงควรรับโทษฐานจำหน่ายเฮโรอีน ที่ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายอีกฐานหนึ่งนั้นยังไม่ถูกต้องและศาลฎีกาเห็นว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย สมควรแก้ไขให้ถูกต้องโดยแก้ไขถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งมิได้ฎีกาด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1809/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการกระทำความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ศาลลงโทษได้แม้ฟ้องว่าเป็นการกระทำความผิดร่วมกัน
การที่จำเลยที่ 2 ทำหน้าที่ปิดเปิดประตูบ้านให้จำเลยที่ 1 และที่ 4 ซึ่งพาผู้ซื้อเข้าไปดูเฮโรอีนที่บ้านและหลังจากนั้นจำเลยที่ 2 เดินออกจากบ้านพร้อมจำเลยที่ 1 ซึ่งนำเฮโรอีนไปส่งแก่ผู้ซื้อก็ดี การที่จำเลยที่ 3 เจรจาซื้อขายเฮโรอีนกับผู้ซื้อก็ดี และการที่จำเลยที่ 4 เข้าร่วมกับจำเลยที่ 3 เจรจาซื้อขายเฮโรอีนกับผู้ซื้อ เมื่อผู้ซื้อถามถึงเรื่องส่งมอบ จำเลยที่ 4 ไปตามจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของผู้ครอบครองเฮโรอีนมาเจรจาก็ดี เมื่อจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 มิได้ร่วมครอบครองเฮโรอีนด้วย การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือจำเลยที่ 1 ในการขายเฮโรอีน จึงเป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 ในการมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นเพียงผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดดังกล่าว เมื่อข้อแตกต่างมิใช่ข้อสาระสำคัญและจำเลยมิได้หลงต่อสู้ ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1422/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยฐานผลิตและมีกัญชาไว้จำหน่ายแยกกระทงหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ลงโทษแยกกระทงได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผลิตกัญชาโดยปลูกกัญชาจำนวน 32 ต้นเพื่อจำหน่ายกับมีกัญชาจำนวนดังกล่าวและกัญชาแห้งอีก 1 ถุง ใหญ่และ 2 ถุง เล็กไว้ในครอบครอง ดังนี้ต้องถือว่ากัญชาแห้งดังกล่าวเป็นกัญชาอีกส่วนหนึ่งที่จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการปลูกกัญชา 32 ต้น แต่อย่างใด การกระทำของจำเลยในส่วนนี้เป็นความผิดอีกกรรมหรือต่างหาก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1422/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยฐานผลิตและมีกัญชาครอบครองเพื่อจำหน่าย ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ลงโทษทั้งสองกรรม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผลิตกัญชาโดยปลูกกัญชาจำนวน 32 ต้นเพื่อจำหน่ายกับมีกัญชาจำนวนดังกล่าวและกัญชาแห้งอีก 1 ถุงใหญ่และ 2 ถึงเล็กไว้ในครอบครอง ดังนี้ต้องถือว่ากัญชาแห้งดังกล่าวเป็นกัญชาอีกส่วนหนึ่งที่จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการปลูกกัญชา 32 ต้นแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยในส่วนนี้เป็นความผิดอีกกรรมหรือต่างหาก.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
of 64